ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปเริ่มนับถอยหลังไปสู่การชี้ชะตาว่าจะผ่าน หรือถูกคว่ำโดยที่ประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ในวันที่ 6 ก.ย. นี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวจากนี้ไปที่ต้องจับตาก็คือขบวนการเพื่อแม้วจะอาศัยกรณีร่างรัฐธรรมนูญสุมไฟให้เกิดวิกฤติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจากสปช.และเข้าสู่กระบวนการลงประชามติโดยประชาชนทั้งประเทศ
ทั้งที่เป็นเรื่องน่าแปลกที่ขบวนการเพื่อแม้วมีจุดยืนกลับไปกลับมาโดยก่อนหน้านี้กดดันเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่โดยเร็วที่สุด แต่ตอนนี้กลับไม่อยากเลือกตั้งเร็ว ด้วยการมุ่งปลุกกระแสคว่ำรธน.ทั้งๆ ที่จะทำให้มีการเลือกตั้งช้าไปอีกนานอย่างน้อยเป็นปี เพราะต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญ และน่าแปลกที่ก่อนหน้านี้ประกาศไม่ขอมีส่วนร่วมกับร่างรัฐธรรมนูญที่ตัวเองโจมตีว่าเป็นฉบับเผด็จการ โดยจะให้ประชาชนเป็นผู้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญในขั้นทำประชามติ แต่ตอนนี้กลับออกมาเคลื่อนไหวแบบดับเครื่องชนหลังจากที่ นายใหญ่นักโทษหนีคุก ส่งสัญญาณชักธงรบ
การที่ นายใหญ่นักโทษหนีคุก ส่งสัญญาณชักธงรบอาจเพราะประเมินแล้วว่าถึงอย่างไรขบวนการเพื่อแม้วก็ไม่มีทางกลับมายิ่งใหญ่ยึดครองประเทศได้อีกต่อไป ขณะที่สมาชิกตระกูลชินกำลังถูกเช็คบิลจากวิบากกรรมตั้งแต่ตัว นายใหญ่
นักโทษหนีคุก ที่กำลังจะถูกถอดยศและริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รวมทั้งเจอคดีติดตัวอีกหลายคดี ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด กำลังเครียดหนักจากพิษคดีจำนำข้าวที่อาจถึงขั้นเข้าคุกและต้องชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินนับแสนล้านบาท ส่วน นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวน มีแนวโน้มถูกดำเนินคดี ในคดีแบงก์กรุงไทยปล่อยกู้ให้บริษัทกฤษดามหานคร
นอกจากนี้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปยังกำหนดยาแรงปราบโกงด้วยการบัญญัติให้ใช้กฎหมายป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ในการจัดการกับพวกโกงชาติปล้นแผ่นดินโดยร่าง พ.ร.บ. ป.ป.ช.ที่มีการแก้ไขล่าสุดที่เพิ่งประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาก่อนหน้านี้ไม่นานกำหนดโทษสูงสุดสำหรับนักการเมือง ข้าราชการ หรือพ่อค้าที่ทุจริตถึงขั้นประหารชีวิต ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญยังกำหนดโทษนักการเมืองที่เคยทุจริตหรือประพฤติมิชอบจนถูกดำเนินคดี หรือถูกถอดถอนห้ามเข้าสู่เวทีการเมืองตลอดชีวิต ซึ่งนั่นหมายถึงการปิดฉากการเมืองของ นายใหญ่นักโทษหนีคุก กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้เป็นน้องสาว
รวมทั้งประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปกครองแห่งชาติ
(คปป.) ซึ่งเป็นอำนาจพิเศษคอยคุมประพฤติรัฐบาลหลังการเลือกตั้งยิ่งทำให้ขบวนการระบอบทักษิณเดิมเกมดับเครื่องชน
จึงไม่แปลกที่พรรคเพื่อแม้วนำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค ออกแถลงการณ์ที่มีเนื้อหารุนแรงและประกาศชักธงรบไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดง และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการคนเสื้อแดง ประกาศกร้าวจะรณรงค์ครั้งใหญ่ต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญทันทีหากสปช.ลงมติผ่านร่าง โดยไม่สนคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองของคสช.
เพราะฉะนั้นขบวนการเพื่อแม้วดับเครื่องชนจุดกระแสวิกฤติรัฐธรรมนูญแน่ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ส่งสัญญาณปรามว่า ใครทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบต่อ “ชะตากรรม” ที่ตัวเองก่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี