จากโฉมหน้า 200 อรหันต์สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ (สปท.) เป็นที่น่าสังเกตว่ามีสาวกระบอบแม้วได้รับแต่งตั้งเข้ามาถึงเกือบ 10 คนซึ่งถือเป็นเกมอันแหลมคมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการแยกปลาออกจากน้ำ แยกบรรดาสาวกขบวนการเพื่อแม้ว หวังโดดเดี่ยวนายใหญ่นักโทษหนีคุกและบรรดาแกนนำอันจะนำไปสู่การสลายระบอบแม้วซึ่งจะเป็นหนทางไปสู่การสร้างความปรองดองในชาติอย่างแท้จริง
สาวกของระบอบแม้วที่ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสปท. อาทิ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกฯ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรมว.กลาโหม ที่เคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวกรณี“ถั่งเช่า” นายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภา นายสมพงษ์ สระกวี อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดย นายสุชน และนายสมพงษ์ ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อแม้วเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนี่เป็นการเพียงสัญญาณเริ่มต้นของเกมสลายระบอบแม้ว ที่ซ่อนไว้ด้วยเบื้องหลังการเจรจาลับระหว่างบุคคลสำคัญในคสช.กับกลุ่มแกนนำในพรรคเพื่อแม้วและกลุ่มเสื้อแดงเพื่อให้แยกตัวออกจากขบวนการเพื่อแม้ว
ขณะที่บุคคลสำคัญของตระกูลชินนอกเหนือจากนายใหญ่จอมบงการที่มีแนวโน้มต้องเป็นสัมภเวสีหนีคุกเร่ร่อนอยู่ในต่างแดนไปชั่วชีวิตแล้ว เครือญาติสำคัญคนอื่นๆ ของตระกูลชินก็กำลังจะใช้กรรมที่ก่อไว้ไม่ต่างกัน อาทิ อดีตนายกฯหุ่นเชิด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวนายใหญ่กำลังเดินใกล้สู่ประตูคุกเข้าไปทุกขณะ พร้อมทั้งถูกฟ้องทางแพ่งให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่แผ่นดิน คาดว่าเป็นมูลค่านับแสนล้านบาท ในฐานะจำเลยคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตและสร้างความวิบัติล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นมูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท
ชะตากรรมของนารีปูยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเพราะมีอีกหลายคดีเข้าคิวรอเชือด อาทิ กรณีใช้อำนาจในช่วงที่เป็นนายกฯสั่งจ่ายเงินเยียวยาเหล่าคนเสื้อแดงที่ได้รับผลกระทบทางการเมืองเป็นเงินหลายพันล้านบาท ทั้งๆ ที่ไม่มีกฎหมายรองรับ
ส่วน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯหุ่นเชิดระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นสามี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (ชินวัตร) หรือ “เจ๊แดง” น้องสาวของ ทักษิณ ก็อยู่ในสภาพคอพาดเขียงรอการชี้ชะตาจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในข้อหาสั่งการให้กำลังตำรวจสลายการชุมนุมของม็อบกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 2551 ด้วยความโหดเหี้ยมผิดหลักสากล จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายสมชาย หากถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่าผิดจริง นอกจากต้องติดคุกแล้ว ยังต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปตลอดชีวิต
นี่ยังไม่รวมคดีทุจริตแบงก์กรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานครมูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท ในยุครัฐบาลทักษิณ ซึ่งทำให้รัฐเสียประโยชน์โดยล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษรื้อฟื้นคดีซึ่งอาจมีการเอาผิดนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ ทักษิณ ฐานฟอกเงิน ยังไม่พูดถึงมติคณะรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ ที่ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เร่งรัดให้บริษัททีโอที เรียกชดใช้ค่าเสียผลประโยชน์จาก บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ซึ่งเป็นของตระกูลชินมูลค่าเกือบ 9 หมื่นล้านบาท
ทั้งหมดคือวิบากกรรมตระกูลชินที่นับวันจะโดดเดี่ยวและเริ่มเห็นลางแห่งความพ่ายแพ้ของระบอบแม้วในทุกแนวรบและใกล้ล่มสลายเข้าไปทุกขณะ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี