ในเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 โดยขบวนการแดงเพื่อแม้วซึ่งนอกจากมีการก่อการร้ายทั่วกทม.แล้ว ยังก่อจลาจลในหลายจังหวัดทั่วประเทศโดยเฉพาะการเผาศาลากลางจังหวัด 4 แห่ง คือขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานีและมุกดาหาร ซึ่งล้วนเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินและของประชาชนทั้งประเทศจนกลายเป็นเถ้าถ่าน โดยคดีก่อการร้ายเผาศาลากลางจังหวัดทั้ง 4 แห่งก่อนหน้านี้ศาลได้ตัดสินลงโทษแก๊งเสื้อแดงไปแล้ว 3 คดี คือที่อุดรธานี ขอนแก่น และมุกดาหาร และล่าสุดศาลฎีกาได้พิพากษาคดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีโดยลงโทษจำเลยหลายคนซึ่งที่สำคัญคือให้ประหารนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือ “ดีเจต้อย”แกนนำเสื้อแดงอุบลราชธานีฐานเป็นผู้บงการสั่งเผาศาลากลางจังหวัด แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
จุดจบของบรรดากลุ่มก่อการร้ายเผาศาลากลางจังหวัดทั้ง 4 แห่งดูจะไม่เป็นธรรมกับชาติบ้านเมืองตราบใดที่ตัวจอมบงการใหญ่ตัวจริงซึ่งวางแผนสั่งการให้เผาศาลากลางจังหวัดทั้ง 4 แห่งและเผาอีกหลายแห่งทั่วกรุงยังไม่ถูกลงโทษ โดยบรรดาแกนนำเสื้อแดงที่เป็นมือเผาศาลากลางจังหวัดทั้ง 4 แห่งที่พบจุดจบในคุกไปแล้วนั้นเป็นเพียงระดับลิ่วล้อที่รับคำสั่งจากตัวจอมบงการใหญ่ทั้งหลายซึ่งปรากฏหลักฐานคำบงการและปลุกระดมอย่างชัดเจนอย่างน้อย 5 คนประกอบด้วย
นักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร ที่ส่งสัญญาณบงการปลุกระดมจากนอกประเทศให้กลุ่มเสื้อแดงใช้ความรุนแรงโดยกล่าวว่า “ถ้ามีอะไรรุนแรงกับพี่น้องคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ พี่น้องเสื้อแดงต่างจังหวัดไปที่ศาลากลางจังหวัดกันให้เต็มที่”
คนต่อมา นายจตุพร พรหมพันธุ์(ตู่) ประธานคนเสื้อแดง ที่เคยประกาศปลุกระดมบนเวทีเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า“คนเสื้อแดงต่างจังหวัดไปรวมตัวที่ศาลากลางจังหวัดตัดสินใจได้ทันที”
หรือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ (เต้น) เลขาธิการคนเสื้อแดง ที่เคยประกาศบนเวทีเสื้อแดงชัดถ้อยชัดคำว่า “ถ้าพวกคุณยึดอำนาจ พวกผมเผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง แล้วใครจะจับ ใครจะอะไรมาเอากับผมนี่”
ขณะที่ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง(กี้ร์) เคยปราศรัยปลุกระดมให้คนเสื้อแดงเตรียมขวด เตรียมน้ำมันเพื่อให้กรุงเทพฯเป็นทะเลเพลิง
ส่วน นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธานคนเสื้อแดง เคยประกาศบนเวทีเสื้อแดงว่า ไฟจะลุกท่วมทุกตารางนิ้วของประเทศไทย
คำพูดปลุกระดมสั่งการของบรรดาตัวการใหญ่ทั้ง 5 ส่อเจตนาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองโดยวางแผนเตรียมการอย่างสอดคล้องกันมาเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการบิดเบือนคดีก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 จากดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำโดยพยายามบิดเบือนสำนวนการสอบสวนว่าไม่มีกองกำลังก่อการร้ายโดยเฉพาะกลุ่มคนชุดดำพร้อมอาวุธร้ายแรงนานาชนิด
ที่จุดชนวนสร้างสถานการณ์นองเลือดด้วยการระดมยิงและระเบิดที่สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 จนทำให้ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และทหารอีก 5 นายเสียชีวิตทันที ขณะที่ประชาชนเสียชีวิตอีกกว่า 20 ราย
เพราะฉะนั้นควรรื้อสำนวนการสอบสวนและเร่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็วเพื่อลงโทษบรรดาตัวการใหญ่ซึ่งเป็นต้นเหตุของการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองโดยสมควรรับโทษที่หนักยิ่งกว่า “ดีเจต้อย”
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี