กรณีที่ชาวเมียนมากลุ่มหนึ่งออกมาชุมนุมหน้าสถานทูตไทยประจำเมียนมา และในหลายจุดตามชายแดนไทยเมียนมาเพื่อประท้วงกรณีที่ศาลชั้นต้นของไทยตัดสินประหารชีวิต 2 แรงงานเถื่อนชาวเมียนมาในคดีข่มขืนแล้วฆ่าสองหนุ่มสาวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปีที่แล้วและเหิมเกริมถึงขนาดยื่นคำขาดให้ไทยปล่อยตัว 2 จำเลยชาวเมียนมา และให้ฝ่ายเมียนมารวมทั้งอังกฤษร่วมไต่สวนคดีนี้ภายใน 15 วัน อันเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทยมิฉะนั้นชาวเมียนมาจะออกมาแสดงพลังประท้วงครั้งใหญ่ซึ่งภายใต้สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามีขบวนการคนไทยขายชาติบางคนบางกลุ่มสมคบกับองค์กรสิทธิมนุษยชนจอมปลอมนอกประเทศและสื่อตะวันตกบางสำนักพยายามสุมไฟให้ปัญหาบานปลายหวังให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทยและเมียนมา
องค์กรสิทธิมนุษยชนจอมปลอมทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งสื่อตะวันตกส่อเจตนาไม่สุจริตและมีเป้าหมายทางการเมืองแอบแฝงมุ่งบ่อนทำลายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และรัฐบาล ซึ่งขบวนการกลุ่มนี้พยายามสุมไฟมาตลอดตั้งแต่หลังการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค.โดยคสช.เมื่อปีที่แล้ว ด้วยการพยายามบิดเบือนคำพิพากษาของศาลโดยตั้งข้อสังเกตตีขลุมว่าจำเลยชาวเมียนมาทั้งสองเป็น“แพะ”และมีการซ้อมผู้ต้องหาให้รับสารภาพ
ทั้งๆ ที่ศาลได้พิเคราะห์หลักฐานและพยานแวดล้อมอย่างละเอียดแล้วเห็นว่าหลักฐานมัดจำเลยจนดิ้นไม่หลุดใน 2 ประเด็นสำคัญคือ 1.ดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสองตรงกับคราบดีเอ็นเอคราบอสุจิที่พบในช่องคลอดและทวารหนักของสาวผู้ตายซึ่งการพิสูจน์ด้วยดีเอ็นเอเป็นหลักฐานซึ่งเป็นที่ยอมรับตามหลักสากล 2.มีการพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายบริเวณที่พักของจำเลย
ความพยายามที่จะตะแบงสุมไฟให้เกิดความตึงเครียดระหว่างไทยกับเมียนมาทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ทนไม่ไหวออกมาสวนกลับสื่อบางสำนักและองค์กรสิทธิมนุษยชนจอมปลอมว่า เป็นพวกเข้าข้างโจร ทั้งๆ ที่หลักฐานชัดเจน ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ชี้ว่าสื่อทั้งไทยและเทศบางสำนักพยายามบิดเบือนรูปคดีทั้งๆ ที่ไม่มีข้อมูลหลักฐานหักล้างคำตัดสินของศาลแม้แต่น้อย ด้วยการตะแบงอ้างความเห็นและข้อสังเกตส่วนตัวแบบลอยๆ แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์
เท่าที่สังเกตรัฐบาลเมียนมาแสดงท่าทีย้ำความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเมียนมาและยืนยันจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของไทยเด็ดขาด ขณะที่ชาวพม่าส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ออกมาร่วมเคลื่อนไหวประท้วง เพราะฉะนั้นจากนี้เป็นต้นไปขอให้จับตาดูบทบาทขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชนจอมปลอม รวมทั้งพวกไทยขายชาติทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับกลุ่มองค์กรสิทธิมนุษยชนในพม่า รวมทั้งสื่อตะวันตกบางสำนักพยายามที่จะปลุกปั่นบิดเบือนข้อมูลทั้งบนดินและใต้ดินหวังให้ชาวเมียนมาเคียดแค้นลุกฮือให้กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศให้ได้
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี