วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ยิ่งใกล้ชี้ชะตา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะจำเลยโครงการรับจำนำข้าวมากขึ้นเท่าไหร่ดูเหมือนว่าขบวนการเพื่อแม้วโดยเฉพาะสองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชิน “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” จะออกอาการดิ้นทุรนทุรายพยายามเคลื่อนไหวเบี่ยงเบนประเด็นด้วยการป่วนเมืองเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดทุ่มทุนถ่ายภาพคู่ทำเป็นปฏิทินเพื่อแจกในภาคอีสานและภาคเหนือส่อเจตนาปลุกเร้ามวลชนเสื้อแดงให้พร้อมลุกฮือ
แผนคิดหนีพิษคดีจำนำข้าวออกนอกประเทศของ ยิ่งลักษณ์ ถูกปิดประตูตายทั้งด้วยคำสั่งศาลและจากการตามประกบทุกฝีก้าวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทางเดียวที่จะดิ้นหนีกรรมจำนำข้าวก็คือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอาตัวรอดด้วยการดึงเกม
ยื้อเวลาให้นานที่สุด โดยใช้เล่ห์ลูกไม้เก่านั่นคือให้ทนายยื่นเรื่องขอเพิ่มพยานอีกราว 20 ปากกรณีที่รัฐบาลเตรียมฟ้องทางละเมิดเพื่อให้ชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดิน แต่ล่าสุด ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ซึ่งรับผิดชอบคดีนี้รู้ทันยืนยันหนักแน่นจะไม่ยอมให้เพิ่มพยานอีกเพราะก่อนนี้ผ่อนปรนยอมให้เพิ่มพยานมาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว หากจะชี้แจงเพิ่มให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วส่งมาให้คณะกรรมการตรวจสอบภายในสิ้นเดือนนี้ จึงเป็นอันว่าคดีฟ้องแพ่งได้ชดใช้ความเสียหายแก่แผ่นดินของ ยิ่งลักษณ์ ใกล้เวลาชดใช้กรรมเข้ามาทุกขณะซึ่งตามกระบวนการมีการยึดทรัพย์
ทั้งนี้ บ้านเมืองอยู่ภายใต้สถานการณ์พิเศษซึ่งต้องการความสงบเรียบร้อย แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับเดินสายไปที่จ.ขอนแก่น เพื่อแจกปฏิทินภาพคู่ตัวเองกับพี่ชายโดยมีบรรดาอดีตสส.ขอนแก่น พรรคเพื่อแม้ว อาทิ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช มาคอยต้อนรับพร้อมมีมวลชนจัดตั้งมาคอยเชียร์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อสร้างภาพและส่อเจตนาปลุกระดมมวลชนหวังกดดันอำนาจรัฐอยู่ในที
การที่พรรคเพื่อแม้ว โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอิทนทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคออกแถลงการณ์โวยวายจี้คสช.ให้ตรวจสอบกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดและทหารตำรวจบางจังหวัดห้ามแจกปฏิทินภาพคู่พร้อมลายเซ็น “แม้ว-ปู” โดยอ้างว่าเป็นการคุกคามเสรีภาพด้วยอำนาจเผด็จการ ทั้งๆ ที่ความจริงความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกส่อเจตนาชัดเจนว่ามีเป้าหมายทางการเมืองเพื่อปลุกเร้ามวลชนเสื้อแดง ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงคนที่เป็นนักโทษหนีคุกคดีทุจริตและเป็นจำเลยคดีรับจำนำข้าวไม่สมควรเป็นเยี่ยงอย่างสำหรับประชาชน
ที่สำคัญการจัดทำปฏิทินภาพ “แม้ว-ปู” ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ส่อเจตนาที่ไม่บังควรอย่างยิ่งเหมือนต้องการตีตนเสมอเจ้าเพื่อให้เหล่ามวลชนเสื้อแดงนำไปภาพปฏิทินแขวนบนฝาบ้านราวกับเทพเจ้าหรือเทวดาที่สมควรกราบไหว้บูชา ซึ่งอาจจะด้วยเหตุผลนี้ที่ทำให้มีการห้ามแจกปฏิทินดังกล่าวและไม่แปลกที่ พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา จะตั้งข้อสังเกตว่า “ปกติแล้วไม่เคยเห็นใครทำปฏิทินโดยเอารูปตัวเองมาใส่ในปฏิทินลักษณะนี้”
แต่ไม่ว่าสองพี่น้องตระกูลชินจะเคลื่อนไหวหวังป่วนเมืองกลบเกลื่อนกรรมที่ก่อไว้อย่างไรในที่สุดเชื่อว่าคงหนีไม่พ้นกฎแห่งกรรม โดยเฉพาะคนที่ทำสิ่งชั่วร้ายไว้กับแผ่นดินและข้าวจะต้องถูกพระสยามเทวาธิราชและพระแม่โพสพลงทัณฑ์อย่างหนักแม้จะพยายามหลอกตัวเองด้วยการแสร้งทำหน้าระรื่นเดินสายทำบุญสะเดาะเคราะห์ก็ตาม
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี