หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลวงปู่พุทธะอิสระเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เคยไปยื่นเรื่องต่อกองปราบปรามรวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เพื่อให้ตรวจสอบว่าพระธัมมชโยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายปาราชิกพ้นความเป็นสงฆ์ตามพระบัญชาของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วดีเอสไอสรุปผลตรวจสอบชี้ชัดว่าพระธัมมชโยปาราชิกจริงและส่งผลตรวจสอบไปยังมหาเถรสมาคม (มส.)เพื่อดำเนินการขั้นต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นคงต้องจับตาดูว่ามส.จะมีท่าทีอย่างไรต่อปัญหาของพระธัมมชโยที่ยืดเยื้อมานานนับสิบปี
ประเด็นที่ถูกจับตาก็คือพฤติกรรมภาพลักษณ์ของพระเถระผู้ใหญ่ในมส.กว่าครึ่งที่มีข้อครหามานานและถูกตั้งข้อสังเกตว่าอยู่ภายใต้อิทธิพลผลประโยชน์ของพระธัมมชโย จึงคอยปกป้องพระธัมมชโยไม่ให้ต้องพ้นความเป็นสงฆ์มาตลอด ถึงขนาดขัด
พระบัญชาของ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช ที่ตรวจสอบจนมีพระบัญชาว่า พระธัมมชโย ปาราชิกพ้นความเป็นสงฆ์กรณียักยอกเงินบริจาคของประชาชนมาเป็นสมบัติส่วนตัวเกือบ 1,000 ล้านบาท
ที่สำคัญ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชซึ่งทำหน้าที่ประธานมส. เป็นพระอุปปัชฌาย์ของ พระธัมมชโย ถูกครหาว่าคอยปกป้อง พระธัมมชโย ซึ่งเป็นลูกศิษย์มาตลอดเช่นกัน
นอกจากการชี้ชะตา พระธัมมชโยแล้วยังมีเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกันซึ่งรอการวัดใจจาก มส.เช่นกันคือปัญหาการเสนอชื่อพระเถระผู้ใหญ่ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ ซึ่ง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ช่วง เป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีอาวุโสสูงสุดจึงอยู่ในอันดับต้นที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นพระสังฆราช แต่ก่อนหน้านี้เครือข่ายกลุ่มองค์กรพุทธศาสนิกชนออกมาคัดค้านและเรียกร้องให้มีการชะลอการแต่งตั้งพระสังฆราชองค์ใหม่ไว้ก่อนเนื่องจากพฤติการณ์ของ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ช่วง ที่ผ่านมา
ทั้งจากการปกป้อง พระธัมมชโย ขัดพระบัญชาสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช จึงหวั่นเกรงว่าหากขึ้นเป็นประมุขสงฆ์องค์ใหม่จะเป็นชนวนให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง
เพราะฉะนั้นคงต้องจับตามส.ว่าจะมีจุดยืนอย่างไรต่อปัญหาชะตากรรมของพระธัมมชโยหลังดีเอสไอชี้ชัดทนโท่แล้วว่าปาราชิกต้องพ้นสภาพความเป็นสงฆ์ และการเสนอชื่อพระสังฆราชองค์ใหม่ ซึ่งความจริงการชี้ชะตาของพระธัมมชโยให้พ้นจากความเป็นสงฆ์น่าจะเป็นเรื่องเร่งด่วนเพราะชัดเจน อย่างไรก็ตาม คงต้องรอพิสูจน์วัดใจมส.ว่าตกอยู่ภายใต้อิทธิพลผลประโยชน์ของพระธัมมชโยอย่างที่สังคมตั้งข้อสงสัยหรือไม่ ส่วนเรื่องการเสนอชื่อพระสังฆราชองค์ใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไรสำหรับชาติบ้านเมือง แต่ที่สำคัญคือหากเสนอชื่อแล้วทำให้เกิดความแตกแยกในชาติก็ควรชะลอไว้ก่อน
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี