วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นี่ขนาดธัมมชโย เจ้าสำนักจานบินทำผิดทั้งต่อพระธรรมวินัยและทำผิดกฎหมายบ้านเมืองอย่างร้ายแรงทั้งเผยแพร่ลัทธิที่ขัดต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ยักยอกเงินวัดมาเป็นของตัวเองจนพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาตั้งแต่เมื่อปี 2542 ให้ปาราชิกพ้นความเป็นพระและล่าสุดธัมมชโยกำลังจะถูกฟ้องฐานร่วมขบวนการฟอกเงินคดีที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร คนสนิท
ธัมมชโยยักยอกเงินฝากเหล่าคนชรากว่า 16,000 ล้านบาท แล้วเล่นแร่แปรธาตุโอนเงินส่วนหนึ่งเข้าบัญชีธัมมชโยและสำนักธรรมกาย แต่ล่าสุดมหาเถรสมาคม(มส.) ซึ่งมีสมเด็จช่วงเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ พระอุปัชฌาย์ของธัมมชโยเป็นประธานก็มีมติส่อตะแบงอุ้มธัมมชโยโดยไม่สนใจผิดถูกชั่วดี สวรรค์หรือนรก ซึ่งนั่นเป็นเส้นทางที่มส.เลือกและอาจต้องรับผลกรรมที่จะตามมา
ความจริงแล้ว ธัมมชโย พ้นจากความเป็นพระทันทีตั้งแต่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ มีพระบัญชาเมื่อปี 2542 แต่ มส.ภายใต้การนำของ สมเด็จช่วง ส่อเจตนาขัดพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช และอย่างที่ นายชูชาติ ไตรประสิทธิ์อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ให้ความเห็นว่า กรณี ธัมมชโย แม้จะยอมคืนเงินเกือบ 1,000 ล้านบาทที่ยักยอกไปหลังถูกจับได้ แต่ยังถือว่าความผิดสำเร็จแล้วจะอ้างว่าโกงแล้วคืนไม่ผิดไม่ได้ แต่ที่สำคัญในทางพระธรรมวินัยถือว่าปาราชิกพ้นความเป็นพระไปแล้ว
แต่ในเมื่อมส.ไม่เลือกทางสวรรค์ส่อตะแบงอุ้มธัมมชโย โดยตะแบงอ้างโกงแล้วคืนไม่ผิดก็คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)จะดำเนินการอย่างไรกับ มส.และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ยื่นเรื่องถึงมส.และพศ.ให้ทำตามพระบัญชาของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และ นพ.มโน เลาหวณิช อดีตกรรมการปฏิรูปฯ แถลงก่อนหน้านี้ว่าหาก มส.ยังเพิกเฉยด้วยการอุ้ม ธัมมชโย ก็จะฟ้องดำเนินคดีอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่
สำหรับ สมเด็จช่วง ก็กำลังเผชิญวิบากกรรมไม่น้อยไปกว่า ธัมมชโย ผู้เป็นลูกศิษย์เพราะดีเอสไอเตรียมแถลงผลการตรวจสอบรถเบนซ์โบราณหรูที่สะสมอยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดปากน้ำ ซึ่งพบการทำผิดกฎหมายหลายประการทั้งการหลบเลี่ยงภาษีและทำเอกสารจดประกอบรถเท็จ
แต่ที่สำคัญรถเบนซ์คันดังกล่าวมีข่าวลือสะพัดว่ามีสมเด็จช่วงเป็นเจ้าของซึ่งหากเป็นความจริงงานนี้อาจถือเป็นกฎแห่งกรรมทั้งอาจารย์และลูกศิษย์ ขณะที่พุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยต้องการให้มีการสังคายนาปฏิรูปวงการสงฆ์ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอำนาจบทบาทและโครงสร้างมส.ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าซ่อนไว้ด้วยเรื่องผลประโยชน์ในคราบผ้าเหลือง รวมทั้งรื้อ พ.ร.บ.สงฆ์ปัจจุบัน
ที่ถูกแก้ไขในยุคระบอบแม้วเรืองอำนาจโดยเฉพาะประเด็นการลิดรอนพระราชอำนาจในการตั้งสมเด็จพระสังฆราช และถ่ายโอนอำนาจมาให้มส.ที่ถูกมองว่าเป็นร่างทรงของลัทธิจานบินอันเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นกับระบอบแม้วที่ต่างมีเป้าหมายหวังผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี