วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงจะผ่านการลงประชามติหรือไม่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หากสะท้อนความต้องการ
ของมหาชนผู้เป็นเสียงสวรรค์ส่วนใหญ่ของประเทศอย่างแท้จริงและโปร่งใสซึ่งถือเป็นการวัดผลอย่างยุติธรรมว่า ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่หรืออยากให้บ้านเมืองกลับไปสู่วังวนแห่งวงจรอุบาทว์ จนทำให้ประเทศวิบัติบอบช้ำซ้ำซากเหมือนที่ผ่านมา
แต่ปัญหาที่น่าวิตกก็คือเหล่านักลากตั้งโดยเฉพาะพรรคเพื่อแม้วไม่มีทางที่จะทิ้งธาตุแท้สันดานเดิมๆ นั่นอาศัยกลโกงแบบศรีธนญชัยทุกรูปแบบเพื่อคว่ำรัฐธรรมนูญฉบับเอาจริงปราบโกงเพื่อการปฏิรูปประเทศให้พ้นจากวงจรอุบาทว์เสียที
ดังนั้นที่มีข่าวว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมที่จะเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อใช้ยาแรงคาดโทษเจ้าหน้าที่รัฐ หรือนักลากตั้งที่มีพฤติการณ์โกงเลือกตั้งไม่ว่าด้วยวิธีการใดถึงขั้นเข้าคุกและต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในการทำประชามติ ขณะที่นักลากตั้งมีสิทธิถูกห้ามเล่นการเมืองตลอดชีวิต จึงถือเป็นการใช้ยาแรงที่ถูกโรคและทันเกมและเชื่อว่าน่าจะทำให้การลงประชามติที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เป็นไปด้วยความยุติธรรมโปร่งใส
ตัวอย่างยาแรงคาดโทษการโกงลงประชามติ อาทิ เจ้าหน้าที่รัฐหากร่วมโกงติดคุก 1-10 ปี ใครก่อความวุ่นวายขัดขวางการลงประชามติมีโทษสูงสุด 10 ปี ใครว่าจ้างข่มขู่ให้ประชาชนไปลงประชามติโทษสูงสุด 10 ปี และต้องชดใช้ค่าใช่จ่ายการทำประชามติด้วย ส่วนนักการเมืองนอกจากเจอโทษทางอาญาแล้วยังอาจถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งตลอดชีวิตหากร่างรัฐรรมนูญผ่านมีผลบังคังใช้ ใครเล่นพนันขันต่อผลประชามติมีโทษสูงสุด 5 ปี และอาจถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี ใครจัดเลี้ยงหรือขนคนไปลงประชามติโทษสูงสุด 5 ปี และอาจถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี นี่แค่หนังตัวอย่าง
กลโกงเลือกตั้งนั้นมีวิธีการมากมายซึ่งเหล่านักลากตั้งช่ำชองเป็นอย่างดี ทั้งการโกงผ่านเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน ผ่านระบบหัวคะแนนด้วยการซื้อเสียงแล้วเกณฑ์ชาวบ้านไปลงคะแนนเป็นกลุ่มเป็นก้อนหรือแม้แต่การซื้อเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง และอีกมากมาย
วิธีสกปรกโกงการเลือกตั้งคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาธิปไตยแบบไทยๆ บิดเบี้ยวกลายเป็นธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตย และเป็นต้นเหตุของวงจรอุบาทว์อันชั่วร้ายทั้งปวงและเป็นสาเหตุที่สร้างความแตกแยกในชาติอย่างลึกซึ้งรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อนในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา จากการที่มวลมหาประชาชนออกมาแสดงพลังขับไล่รัฐบาลพรรคธุรกิจการเมือง
เพราะฉะนั้นประเทศเสียเวลามามากแล้วซึ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนผ่านเพื่อปฏิรูปประเทศให้พ้นจากวงจรอุบาทว์อันชั่วร้าย การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงที่จะมีขึ้นครั้งนี้ควรเป็นไปด้วยความโปร่งใสชอบธรรมเพื่อสะท้อนความต้องการอันแท้จริงของเสียงสวรรค์ส่วนใหญ่ที่จะกำหนดอนาคตของชาติบ้านเมืองว่าจะเดินไปข้างหน้าไปสู่สิ่งที่ดีกว่าหรืออยกกลับไปสู่วังวนวงจรอุบาทว์แบบเดิมๆ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี