วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ภายใต้การนำของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ หนักอกไม่น้อยที่ต้องรับภาระเผือกร้อนทบทวนร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามคำขาดของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้กำหนดในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญโดยมีกลไกประชาธิปไตยครึ่งใบ เป็นเวลา 5 ปี ช่วงเปลี่ยนผ่านหลังการเลือกตั้ง ประกอบด้วย การให้มีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 250 คน ซึ่งมาจากการสรรหาทั้งหมด การเปิดทางให้มีนายกฯคนนอก และการกำหนดวิธีการเลือกตั้ง สส.ให้เขตใหญ่ขึ้นโดยผู้ใช้สิทธิ์เลือกผู้สมัครได้คนเดียว
ในภาวะพะอืดพะอมทางออกที่เป็นไปได้ของ กรธ.น่าจะมีอยู่ 3 ทางเลือกคือ ทางเลือกแรก หักดิบไม่ยอมรับคำขาดของคสช. ซึ่งทางเลือกนี้เชื่อว่าคงเป็นไปได้น้อยเพราะผลที่จะตามมาไม่เป็นผลดีต่อสถานการณ์บ้านเมือง หรือฝ่ายใดทั้งสิ้น
ส่วนทางเลือกที่สองก็คือ กรธ.ยอมตามคำขาดของคสช.ทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าคงมีโอกาสเป็นไปได้น้อยเช่นกัน เพราะกรธ.ถูกกดดันจากกระแสสังคมกลุ่มหนึ่งอย่างหนัก
ส่วนทางเลือกที่สามคือ ประนีประนอมแบบพบกันครึ่งทาง โดย กรธ.แก้ไขข้อเสนอของคสช.บางส่วน ซึ่งนักสังเกตการณ์ทางการเมืองมองว่าเป็นไปได้มากที่สุดเพราะไหนๆ ก็ลงเรือแป๊ะลำเดียวกันแล้ว
ปมสำคัญอยู่ที่ คสช.ถูกโจมตีว่าวางแผนสืบทอดอำนาจใน 2 ประเด็น คือ สว.สรรหา กับการเปิดทางให้มีนายกฯ คนนอก ซึ่งแม้ก่อนหน้านี้คสช.ยืนยันชัดเจนว่า สว.สรรหามีอำนาจหน้าที่เพียงประคับประคองบ้านเมืองช่วงเปลี่ยนผ่านไม่ได้มีอำนาจควบคุมสภาผู้แทนราษฎร ส่วนเรื่องเปิดช่องให้มีนายกฯคนนอกนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. และ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ยืนยันแล้วว่าจะไม่เป็นนายกฯหลังการเลือกตั้งแน่นอน แต่แม้จะมีคำยืนยันจากคสช.แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหวาดระแวงเรื่องสืบทอดอำนาจหมดไป
ความหวาดระแวงว่า คสช.จะสืบทอดอำนาจจึงเป็นประเด็นสำคัญซึ่ง กรธ.คงต้องคิดหนักว่าจะทำอย่างไรให้ร่างรัฐธรรมนูญออกมาแบบวินวินด้วยกันทุกฝ่ายทั้งจากคสช.และกระแสสังคมกลุ่มหนึ่ง ซึ่งหลายฝ่ายเสนอแนะทางออกไว้หลายแนวคิด อาทิ กำหนดกระบวนการสรรหาสว.ให้ยึดโยงประชาชนมากขึ้น หรือลดอำนาจหน้าที่ของสว.สรรหาบางอย่างลงเช่น การร่วมอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ส่วนประเด็นเรื่องการเปิดทางให้มีนายกฯคนนอกนั้น นายองอาจคล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอแนวคิดแบบประนีประนอมว่า หากจะให้มีนายกฯคนนอกก็ควรกำหนดในรัฐธรรมนูญด้วยว่าต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรมากกว่านายกฯที่มาจากสส.ซึ่งใช้เสียงกึ่งหนึ่ง เช่น นายกฯคนนอกต้องได้เสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 3 ใน 5
ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอโดยเชื่อว่าในที่สุดกรธ.จะเลือกแนวทางพบกันครึ่งทาง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า คสช.จะยอมรับสูตรพบกันครึ่งทางหรือไม่ ซึ่งท่าทีของคสช.จะเป็นตัวกำหนดชี้วัดแนวโน้มสถานการณ์ข้างหน้า
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี