แม้ล่าสุด พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)จะกลับลำพลิกลิ้นหลังออกมาแบไต๋ยอมรับว่าเป้าหมายสูงสุดในปาหี่เจรจากับแกนนำโจรใต้กลุ่มบีอาร์เอ็นก็คือการจัดตั้ง “มหานครปัตตานี” อันเป็นเขตปกครองพิเศษซึ่งจะนำไปสู่การดับไฟใต้แต่คอการเมืองกลับเชื่อว่าแนวคิด “มหานครปัตตานี” เป็นเรื่องจริง
แนวคิด “มหานครปัตตานี” นั้นมีมานานแล้วโดยเป็นแนวคิดของอดีต สส.กลุ่มวาดะห์ ซึ่งเป็นชาวไทย-มุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งเป็นแนวคิดที่รับการสนับสนุนจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบันทั้ง พล.อ.ชวลิต อดีตสส.กลุ่มวาดะห์ต่างได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลในการวางแนวทางดับไฟใต้
ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ เคยเจรจาลับกับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งการหารือครั้งนั้นมีข่าวการเสนอเงื่อนไขการจัดตั้ง “มหานครปัตตานี”
แม้แต่พรรคเพื่อไทยก็เคยเสนอร่างพ.ร.บ.นครปัตตานีในการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด โดยมีสาระสำคัญให้จัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษโดยรวมจ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสเข้าด้วยกัน และมีผู้ว่าราชการนครปัตตานี 1 คน รองผู้ว่าฯไม่เกิน 3 คน มาจาก การเลือกตั้งของประชาชน
นอกจากนี้ ให้มีสภานครปัตตานีมีสมาชิกสภาซึ่งประชาชนเลือกตั้งโดยตรงอำเภอละ 1 คน ดำรงตำแหน่ง 4 ปี ทั้งนี้นครปัตตานีอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
“มหานครปัตตานี” แม้จะไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน แต่ก็มีโครงสร้างการปกครองเป็นกึ่งรัฐอิสระ
แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาก็คือเป้าหมายเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่หลังแผนการผลักดัน “มหานครปัตตานี” โดยระบอบทักษิณซึ่งทำเป็นขบวนการใหญ่ภายใต้การบัญชาการของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต และอดีตสส.กลุ่มวาดะห์ เป็นตัวจักรในการขับเคลื่อน
ทั้งนี้มีการวิเคราะห์เป้าหมายสำคัญในการจัดตั้ง “มหานครปัตตานี” ของระบอบทักษิณว่ามี 2 ประการคือ
ประการแรกเป็นเป้าหมายทางการเมืองหวังเจาะทำลายและยึดครองฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มจากจังหวัดชายแดนภาคใต้และขยายไปทั่วภาคใต้ในอนาคตด้วยการอาศัยผลงาน “มหานครปัตตานี” เป็นจุดขาย ขณะเดียวกันก็ผลักดันคนในเครือข่ายระบอบทักษิณหรือแนวร่วมเข้าไปยึดครองตำแหน่งผู้บริหารใน “มหานครปัตตานี” ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งเคยมีรายงานข่าวว่ามีการวางตัว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ซึ่งเป็นชาวมุสลิมและขณะนี้เป็นแนวร่วมระบอบทักษิณในคราบฝ่ายค้านให้ลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าการ “มหานครปัตตานี” โดยได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายระบอบทักษิณ ขณะที่อดีตสส.กลุ่มวาดะห์อาจลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้บริหารในตำแหน่งอื่นๆและอาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำไปที่ นายฮัสซันตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็นที่เป็นตัวแทนลงนามในสัญญาสันติภาพกับ พล.ท.ภราดร ที่ประเทศมาเลเซียเมื่อไม่นานมานี้อาจเข้าสู่สังเวียนการเมืองในนามพรรคเพื่อไทย
ส่วนเป้าหมายประการที่สองก็คือ ผลประโยชน์มหาศาลจากแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยซึ่งเป็นพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยและมาเลเซียจากการฮั้วกันของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับ นายนาจิบราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ร่วมอยู่ในขบวนการปาหี่สัญญาสันติภาพดับไฟใต้ครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตามแผนตั้ง “มหานครปัตตานี” อาจจะไม่ง่ายอย่างที่ระบอบทักษิณคิดเพราะกองทัพดูเหมือนจะไม่เห็นด้วย ซึ่งท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ส่งสัญญาณ “ฮึ่ม” ออกมาแล้วน่าจะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี อีกทั้งปาหี่สัญญาสันติภาพกับโจรใต้ถูกจับได้ว่าเป็นของปลอมเพราะทุกวันนี้โจรใต้ตัวจริงยังปฏิบัติการท้าทายอำนาจรัฐก่อเหตุร้ายแทบจะรายวัน
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี