สังคมโดยเฉพาะคนเมืองหลวงกำลังรอลุ้นเฝ้าจับตาว่า 5 เสือคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กลางจะมีมติชี้ขาดอย่างไรหลังจากที่มีข่าวว่า กกต.กทม.มีมติด้วยเสียงข้างมากและชงเรื่องมายังกกต.กลางให้แจกใบเหลืองแก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่จากพรรคประชาธิปัตย์แล้วให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ใหม่
ปฏิบัติการหวังล้มผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่ผลการเลือกตั้งออกมาว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. จากพรรคเพื่อไทย พ่ายแพ้ต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ โดยมีขบวนการที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเครือข่ายระบอบทักษิณออกมายื่นคำร้องเพื่อให้ กกต.ตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะด้วยข้อกล่าวหารวม 4 กรณีคือ
1.กรณี นายศิริโชค โสภา สส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์รูปภาพตัดต่อรถทีมหาเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ โดยที่หลังฉากเป็นภาพเหตุการณ์เผาเมืองเมื่อปี 2553 ซึ่งถูกมองว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัคร
2.กรณี ดร.เสรี วงษ์มณฑา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวเรียกร้องให้เลือกม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพื่อสกัดระบอบทักษิณไม่ให้ยึดครองกรุงเทพฯซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายของประเทศที่เหลืออยู่
3.กรณีพรรคเพื่อไทยร้องว่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์หลายคนปราศรัยโค้งสุดท้ายโยงเรื่องเหตุการณ์เผาเมืองเมื่อปี 2553 ซึ่งถูกร้องเรียนว่าเป็นการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นมาตรา 57 กรณีจงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยม
4.กรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ร้องเรียนว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แต่งตั้งคณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ 31 คน ซึ่งผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการบริหารราชการกทม.ที่ให้ตั้งที่ปรึกษาได้เพียง 9 คน
ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ออกมาประกาศฟันธงในเชิงชี้นำว่า ผลการชี้ขาดของกกต.ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นนอกจากต้องให้ใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ ขณะที่ก่อนหน้านี้ กกต.เองก็มีพฤติกรรมที่น่าสงสัยเพราะมีมติด้วยเสียงข้างมากเห็นว่าคำร้องมีมูลแล้วส่งเรื่องให้กกต.กทม.พิจารณา จนล่าสุดมีข่าวว่ากกต.กทม.มีมติด้วยเสียงข้างมากให้แจกใบเหลืองตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม ฟันธงโดยให้รับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนแล้วสอยทีหลัง
อีกทั้งมีข้อน่าสงสัยว่า กกต.เหมือนมุ่งจ้องที่จะพิจารณากรณีคำร้องของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แต่กลับแช่แข็งคำร้องที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว ยื่นให้ลงโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.พงศพัศกรณีชูนโยบายหาเสียง “ไร้รอยต่อ” อันเป็นการใช้อำนาจรัฐช่วยผู้สมัครหาเสียงอันเป็นการทำผิดทั้งกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจิตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และกฎหมายเลือกตั้ง
เพราะฉะนั้นงานนี้สำหรับ กกต.หากแจกใบเหลือง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จนต้องมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ใหม่ก็อาจถูกตั้งข้อสงสัยได้ว่ารับใบสั่งจากฝ่ายการเมืองและคงต้องตอบคำถามและมีคำอธิบายที่มีเหตุผลชัดเจนต่อคนกรุงที่เทคะแนนให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 1,256,349 คะแนน
ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้นขณะนี้แพ้ทางการเมืองไปแล้ว 2 เด้ง คือพ่ายศึกชิงอำนาจยึดเมืองหลวงและเสียภาพพจน์ที่ถูกมองว่าเป็นพวกขี้แพ้ชวนตี กรณียื่นคำร้องให้ล้มผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และหากกกต.กลางแจกใบเหลืองหรือใบแดง จนต้องมีการเลือกตั้งใหม่จริงก็มีแนวโน้มสูงที่คนกรุงจะสั่งสอนพรรคเพื่อไทยที่ถูกมองว่าเป็นอันธพาลการเมืองเป็นครั้งที่สองอย่างสาสมด้วยการพร้อมใจกันเทคะแนนให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ท่วมท้นมากไปกว่าเดิมเป็นประวัติการณ์อันเป็นการประจานตบหน้ารัฐบาลหุ่นเชิดพรรคเพื่อไทย และระบอบทักษิณฉาดใหญ่ซ้ำ และอาจเป็นการฝังแค้นทำให้คนกรุงเกลียดขี้หน้าระบอบทักษิณไปอีกนาน
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี