นับเป็นการโกหกแบบดื้อตาใสไปแบบน้ำขุ่นๆที่ไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิงสำหรับนายเกษม นิมมลรัตน์ ที่ลาออกจากส.ส.เขต 3 จ.เชียงใหม่โดยอ้างว่าเพราะถนัดงานองค์กรส่วนท้องถิ่นมากกว่า ท่ามกลางข่าวร่ำลือว่าการลาออกจากส.ส.ของนายเกษมครั้งนี้เป็นใบสั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงที่ต้องการเปิดทางให้น้องสาวคนกลางคือนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ ”เจ๊แดง” แต่งตั้วรอพร้อมเสียบเก้าอี้นายกฯคนต่อไปแทนน้องสาวคนเล็กคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯหุ่นเชิดทันทีที่เจอมรสุมทางการเมืองจนต้องพ้นจากอำนาจ

ทันทีหลังการลาออกจากส.ส.ล่าสุด นายเกษม ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงใหม่อย่างฉับพลันซึ่งแสดงให้เห็นว่าแผนการทุกอย่างมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี

ที่เชื่อว่า นายเกษม  โกหกก็เพราะเมื่อ 9 เดือนที่แล้วนี่เอง นายเกษม คนนี้แหละที่อาสาลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ และได้เป็น ส.ส.สมใจ แต่ผ่านมาได้เพียง 9 เดือนกลับขอลาออกหน้าตาเฉยอ้างว่าเพราะถนัดงานองค์กรส่วนท้องถิ่น แล้วเมื่อ 9 เดือนที่แล้วลงสมัครส.ส.หาพระแสงอะไร ซี่งการลาออกจากส.ส.ถือเป็นการดูถูกประชาชน สะท้อนธาตุแท้ที่ไร้สำนึกและความรับผิดชอบ ตลอดจนเป็นการสร้างบรรทัดฐานอัปยศทำให้ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณอันเป็นภาษีของประชาชนสำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งใหม่อย่างไม่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นคำแก้ตัวข้ออ้างของ นายเกษม จึงมีพิรุธน่าเชื่อว่าซ่อนเบื้องหลังแผนดัน “เจ๊แดง” รอเสียบเก้าอี้นายกฯแทน”น้องปู” ตามคำบัญชาของนายใหญ่เจ้าของพรรคเพื่อไทยอย่างไม่ต้องสงสัย

แม้ล่าสุด นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย จะตีปลาหน้าไซหวังแก้เกมสยบข่าวด้วยการออกมาแถลงปฏิเสธข่าวแผนดัน ”เจ๊แดง”เตรียมเสียบแทน”นายกฯปู” แต่ก็แบ่งรับแบ่งสู้อยู่ในทีไม่ปฏิเสธว่า“เจ๊แดง” จะไม่ลงสมัครซ่อมส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ โดยบอกเป็นนัยว่า ขึ้นอยู่กับมติพรรค เพราะฉะนั้นคงต้องจับตาดูกันต่อไปเพราะหาก”เจ๊แดง”ลงสมัครส.ส.เท่ากับข่าวร่ำลือมีแนวโน้มที่จะเป็นจริง

หากวิเคราะห์จากแนวโน้มสถานการณ์แล้วมีความเป็นไปได้สูงเพราะสถานะของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ขณะนี้อยู่ในภาวะง่อนแง่นและมีความเสี่ยงสูงที่จะพ้นจากอำนาจทั้งจากวิกฤติการณ์นอกรัฐบาลโดยเฉพาะการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีเป้าหมายแอบแฝงมุ่งฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ  ที่เหมือนระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ

และที่สำคัญคือชะนักปักหลังตัว นายกฯยิ่งลักษณ์ เองที่ถูกร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)หลายคดีด้วยกัน ทั้งความล้มเหลวและปล่อยให้มีการทุจริตมโหฬารโนโครงการรับจำนำข้าวจนนำประเทศไปสู่ความหายนะล่มจม การทุจริตในโครงการงบฟื้นฟูเยียวยาและป้องกันน้ำท่วม การละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการคืนพาสปอร์ตแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆที่เป็นนักโทษหนีคุกซี่งขัดต่อกฏหมายระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศอย่างชัดเจน

ล่าสุดสำนักข่าวอิศราอมันตกุลเผยแพร่ข้อมูลนิติกรรมอำพรางของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ในการปล่อยกู้เงิน 30 ล้านบาทให้กับ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร ผู้เป็นสามีตัวเองซึ่งส่อไปในทางไม่สุจริตและอยู่ระหว่างรอการชี้มูลความผิดของป.ป.ช. โดย  นายกฯยิ่งลักษณ์ ได้แจ้งบัญชีระบุว่าได้ให้บริษัทแอ๊ดอินเด็กซ์ของ นายอนุสรณ์ กู้ยืม แต่ข้อมูลที่แจ้งกับป.ป.ช.กับขัดแย้งกับข้อมูลของบริษัทแอ๊ดอินเด็กซ์ที่ระบุว่าไม่เคยมีการกู้ยืมเงินจากบุคคลอื่นในนามของบริษัท นอกจากนี้ยังพบรายละเอียดการทำนิติกรรมอำพรางและเป็นเท็จอีกหลายจุดที่ส่อไม่สุจริต

เพราะฉะนั้นแค่เรื่องการทำนิติกรรมอำพรางยักย้ายถ่ายเทเงินระหว่างนายกฯยิ่งลักษณ์กับสามีเรื่องเดียวหากเป็นจริงและป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและส่งเรื่องต่อไปยังศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและศาลฏีกาฯพิพากษาว่าผิดจริงนั่นหมายวิบากกรรมอวสานของนายกฯยิ่งลักษณ์ และนี่อาจเป็นเหตุผลที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องเตรียมแผนสืบทอดอำนาจตระกูล”ชินวัตร”ด้วยการดัน”เจ๊แดง”ให้ปะแป้งแต่งตัวเป็น”นายกฯสำรอง”ไปพลางเพื่อรอเสียบได้ทันทีหากน้องสาวคนเล็กต้องมีอันเป็นไป

ทีมข่าวการเมือง