การที่นับวัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลหุ่นเชิดและเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงจะสไกป์มาวางแผนสั่งการรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยในการเดิมเกมการเมืองถี่และเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆกำลังจะกลายเป็นพิษย้อนกลับมาทำลายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยเองเมื่อกลุ่ม 40 สมาชิกวุฒิสภา(สว.)เตรียมยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพฤติการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ฐานเป็นการกระทำเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นางไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ชี้ว่าพฤติการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สไกป์สั่งการให้รัฐมนตรีและส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทในโครงการก่อสร้างระบบคมนาคมและขนส่งทั่วประเทศ เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ชัดเจน และก่อนหน้านี้แม้แต่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ก็เคยรายงานยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้การสไกป์เป็นเครื่องมือในการบริหารปกครองประเทศไทยและร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำตัวจริง ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเพียงผู้นำหุ่นเชิดที่คอยออกงานตัดริบบิ้นและทำตามคำสั่งเท่านั้น
นายไพบูลย์ ระบุว่าเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ สไกป์สั่งการให้บรรดารัฐมนตรีและส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อทำลายกลไกตรวจสอบถ่วงดุลของประชาชน ศาล วุฒิสภา และองค์กรอิสระต่างๆเพื่อขยายอำนาจของรัฐบาลเพิ่มขึ้น รวมทั้งไม่ให้องค์กรตรวจสอบต่างๆสามารถตรวจสอบโครงการกู้เงินก้อนมหาศาล 2.2 ล้านล้านบาทหรือโครงการรับจำนำข้าวที่ส่อเค้ามีการทุจริตมโหฬาร ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศด้วยวิธีการที่ไม่ได้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ก่อนหน้านี้หลังพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม.เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสาโรช หงษ์ชูเวช รองผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้สไกป์มายังที่ประชุมแกนนำพรรคเพื่อไทยพร้อมตำหนิบรรดารัฐมนตรีและส.ส.ที่ไม่ช่วยเต็มที่ทำให้แพ้การเลือกตั้ง ดังนั้นจากนี้เป็นต้นไปในการประชุมวงใหญ่ของพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ จะสไกป์ร่วมประชุมด้วยทุกครั้ง โดยจะเข้ามาบริหารพรรคแบบ 100 %
ล่าสุด นายสมหวัง อัศราษี ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ และ รองประธานกลุ่มคนเสื้อแดง
เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ แกนนำคนเสื้อแดงประกอบด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานคนเสื้อแดง นายนิสิต สินธุไพร ประธานคนเสื้อแดงภาคอีสาน และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมแกนนำคนเสื้อแดงอีกจำนวนหนึ่งจะบินไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง เพื่อหารือถึงทิศทางและแนวทางเคลื่อนไหวทางการเมือง
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าไทยนั้นบริหารด้วยระบบ “1 ประเทศ 2 นายกฯ” โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นแค่หุ่นเชิดของพี่ชาย ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ คือผู้นำตัวจริง ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมาบรรดารัฐมนตรี ส.ส. ข้าราชการระดับสูง หรือเหล่าคนเสื้อแดงต่างบินไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ตลอดเวลาเพื่อรับคำสั่งโดยเฉพาะในช่วงที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ หรือเกิดวิกฤคิทางการเมือง
แต่จากพฤติการณ์แสดงบทบาทผู้นำตัวจริงของ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังจะกลายเป็นหอกสนองคืนและเป็นหลักฐานมัดรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยที่ส่อเข้าข่ายกระทำผิดมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้ต้องจับตาอย่ากระพริบเพราะหากมีการยื่นร้องเรียนศาลรัฐธรรมนูญอาจมีคำวินิจฉัยร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคเพื่อไทยรวมทั้งเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งนี่ยังไม่รวมการฟ้องร้องทางอาญา
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี