ระบอบทักษิณผ่านเครือข่ายคือพรรคเพื่อไทยนับวันจะย่ามใจอาจเป็นเพราะถือดีทั้งอำนาจรัฐในมือและกองกำลังเสื้อแดงที่พร้อมจะออกมาอาละวาดใช้ประเทศเป็นตัวประกัน ล่าสุดส่งสัญญาณทำสงครามดับเครื่องชนแตกหักหมายกำจัดศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นอุปสรรคขวากหนามตามแผนเดินหน้ายึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของระบอบทักษิณ
ปฏิบัติการดับเครื่องชนเกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ผู้นำตัวจริง สไกป์มายังที่ประชุมพรรคเพื่อไทยถึงสองครั้งซ้อนโจมตีศาลรัฐธรรมนูญอย่างหนักจนพรรคเพื่อไทยมีมติอย่างเป็นทางการประกาศสงครามกับศาลรัฐธรรมนูญในทุกรูปแบบ
การเปิดศึกกับศาลรัฐธรรมนูญเข้มข้นขึ้นตามลำดับเริ่มจากการที่พรรคร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำออกแถลงไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ตามด้วยการออกแถลงการณ์ของ 312 สส.และสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ที่ร่วมยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือแม้แต่ นายสมศักดิ์เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา จากพรรคเพื่อไทยก็ยังออกโรงประกาศแข็งข้อต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติ
นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาดรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังแถลงว่า สส.พรรคเพื่อไทยเตรียมเข้าชื่อเพื่อยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งคณะในเร็วๆ นี้
และล่าสุดม็อบเสื้อแดงซึ่งเป็นเครือข่ายระบอบทักษิณยกขบวนไปปักหลักชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญแบบยืดเยื้อเพื่อข่มขู่กดดันและขับไล่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
สาเหตุที่เครือข่ายระบอบทักษิณทำสงครามแตกหักกับศาลรัฐธรรมนูญเนื่องจากก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติด้วยเสียง 5 ต่อ 3 รับคำร้องของ นายบวร ยสินทรประธานเครือข่ายราษฏรอาสาปกป้องสถาบันและคณะ ที่ต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เป็นการตัดสิทธิ์ของประชาชนในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญเพราะเดิมรัฐธรรมนูญปัจจุบันกำหนดให้ประชาชนสามารถยื่นคำร้องในกรณีที่พบเห็นการกระทำอันเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ทั้งช่องทางยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงหรือยื่นต่ออัยการสูงสุด แต่ร่างแก้ไขมาตรา 68 ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกลับกำหนดให้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเท่านั้น
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีเป้าหมายแอบแฝงเพราะการกำหนดให้อำนาจอัยการสูงสุดเท่านั้นทั้งๆที่ภาพพจน์พฤติกรรมของสำนักงานอัยการสูงสุดที่ผ่านมาส่อไปในทางรับใช้ระบอบทักษิณเท่ากับมีแผนที่จะเดินหน้าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ซึ่งค้างอยู่ในวาระที่ 3เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 จึงต้องแก้ไขมาตรา 68เพื่อให้ร่างแก้ไขมาตรา 291 เดินหน้าต่อไปได้อันจะนำไปสู่การผลักดันสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ร่างทรง ขึ้นมาล้มล้างรัฐธรรมนูญปัจจุบันแล้วยกร่างใหม่ทั้งฉบับเพื่อปูทางไปสู่แผนยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของระบอบทักษิณ
การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเพื่อวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และหากวินิจฉัยว่าขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญก็เท่ากับทำให้แผนเดินหน้าผ่านร่างแก้ไขมาตรา 291 หวังชำเรารัฐธรรมนูปัจจุบันแล้วยกร่างใหม่ทั้งฉบับเพื่อยึดครองประเทศของระบอบทักษิณต้องมีอันพังพินาศทันที
นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญคือหนึ่งในองค์กรอิสระที่ระบอบทักษิณขึ้นบัญชีดำหมายหัวจ้องกำจัดมานานแล้วเพราะเป็นอุปสรรคขวากหนามในการแผ่ขยายอำนาจอิทธิพลของระบอบทักษิณมาตลอด และเผอิญการแก้ไขมาตรา 68 ครั้งนี้เป็นหมาก
สำคัญตามแผนยึดประเทศของระบอบทักษิณเมื่อถูกขวางจึงต้องทำสงครามดับเครื่องชนขั้นแตกหัก ซึ่งผลที่จะตามมาก็คือการจุดชนวนสุมไฟแห่งความแตกแยกให้ลุกโชนจากการที่พลังมวลชนจำนวนไม่น้อยพร้อมจะออกมาต่อต้านระบอบทักษิณที่นับวันลุแก่อำนาจอย่างย่ามใจ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี