แม้ม็อบกลุ่มวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) หรือม็อบดีเจเสื้อแดงสลายตัวเอาดื้อๆหลังล้มเหลวไม่เป็นท่าในการนัดชุมนุมแสดงพลังคนเสื้อแดงครั้งใหญ่เพื่อขับไล่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมาโดยมีมวลชนเข้าร่วมแค่หยิบมือ แต่เป้าหมายของของขบวนการระบอบทักษิณยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในการทำสงครามแตกหักกับศาลรัฐธรรมนูญและเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญตลอดจนผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนายใหญ่นักโทษหนีคุกเพื่อให้กลับบ้านอย่างเท่ๆโดยไม่ต้องรับโทษตามคำพิพากษาของศาล
ทั้งนี้ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงต่างก็เครือข่ายพวกเดียวกันโดยต่างเป็นหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ ซึ่งวิกฤติศาลรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นพรรคเพื่อไทยและม็อบเสื้อแดงใช้ปฏิบัติการ”แยกกันเดิน แต่ร่วมกันตี” โดยพรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวประกาศสงครามแตกหักไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญเพื่อกรุยทางไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญยึดประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและผลักดันกฏหมายนิรโทษกรรมเพื่อทักษิณได้อย่างสะดวก โดยอาศัยช่องทางกฏหมายและเวทีรัฐสภาในการเดินเกม
ขณะที่ม็อบเสื้อแดงกลุ่ม กวป.เคลื่อนไหวคู่ขนานโดยมีเป้าหมายเดียวกันคือมุ่งบ่อนทำลายศาลรัฐธรรมนูญ โดยม็อบดีเจเสื้อแดงบุกปักหลักชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญมากว่า 2 สัปดาห์และใช้วิธีการถ่อย ดิบ เถื่อนทั้งข่มขู่คุกคามศาลรัฐธรรมนูญและยกระดับการเคลื่อนไหวนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 พ.ค.เพื่อทำสงครามขั้นแตกหักโดยคุยโตไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีมวลชนคนเสื้อแดงทั่วประเทศมาร่วมนับแสนคน แต่พอเอาเข้าจริงกลับมีแต่ประมาณ 2 พันคนทำให้ม็อบดีเจเสื้อแดงต้องม้วนเสื่อหาทางลงสลายการชุมนุม
เบื้องหลังสาเหตุที่ม็อบดีเจเสื้อแดงล้มเหลวต้องสลายการชุมนุมเอาดื้อๆถูกตั้งข้อสังเกตุว่า เป็นเพราะจอมบงการที่อยู่หลังฉากคงประเมินแล้วว่า หากม็อบดีเจเสื้อแดงยังขืนดันทุรังปฏิบัติการถ่อย ดิบ เถื่อนต่อไปคงได้ไม่คุ้มเสียทางการเมือง เพราะตั้งแต่ม็อบดีเจเสื้อแดงออกมาปฏิบัติการรุมขย้ำศาลรัฐธรรมนูญคู่ขนานกับพรรคเพื่อไทยแทนที่จะช่วยหนุนเสริมยุทธวิธี”แยกกันเดิน แต่ร่วมกันตี” ทำให้ขบวนการทำลายล้างศาลรัฐธรรมนูญประสบผลสำเร็จกลับถูกกระแสต่อต้านวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญคือเป็นการทำลายความชอบธรรมเป้าหมายที่กำจัดศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามแผนยึดประเทศและผลักดันกฏหมายนิรโทษกรรมเพื่อนายใหญ่
ทั้งนี้เพราะนอกจากการไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นการทำลายกติกาของสังคมโดยเฉพาะสถาบันศาลซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของกระบวนการยุติธรรมแล้ว ม็อบดีเจเสื้อแดงยังแสดงพฤติกรรมถ่อย ดิบ เถื่อนเหิมเกริมถึงขั้นประกาศจับตัวคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาขึ้นศาลเตี้ยของคนเสื้อแดง ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตุว่าเพราะได้รับการให้ท้ายจากรัฐบาล โดยเฉพาะจากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนหน้านี้ว่าการชุมนุมของม็อบดีเจเสื้อแดงถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่ทำได้ ซึ่งพฤติการณ์ของม็อบดีเจเสื้อแดงสะท้อนให้เห็นว่าบ้านเมืองไม่ต่างอะไรกับยุคมืดที่ไร้ขื่อไร้แปภายใต้”หลักกู”ของระบอบทักษิณที่ใช้อำนาจและอิทธิพลทำทุกอย่างเพื่อตัวเองโดยไม่คำนึงถึง ความถูกต้องชอบธรรมใดๆทั้งสิ้น
แม้ม็อบดีเจเสื้อแดงสลายตัวไปเรียบร้อยแล้ว แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่า เป็นเพียงการปรับกลยุทธ์การเคลื่อนไหวของระบอบทักษิณเพื่อรักษาความชอบธรรมของตัวเอง โดยที่เป้าหมายเฉพาะหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลงนั่นคือมุ่งกำจัดศาลรัฐธรรมนูญ และเดินหน้าผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฏหมายนิรโทษกรรมเพื่อทักษิณให้สำเร็จภายในปีนี้ตามสัญญาณเร่งรัดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ให้จงได้
ความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาจากนี้ไปก็คือ พรรคเพื่อไทยและพวกคงหาช่องทางของกฏหมายเพื่อเล่นงาน 9 คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ อาทิ การเข้าชื่อเพื่อยื่นถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง แล้ววางแผนหาทางผลักดันคนของตัวเองเข้ามาเป็นคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่ แต่หากทำไม่สำเร็จก็ต้องเดินหน้าหักดิบแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อกวาดล้างกำจัดศาลรัฐธรรมนูญรวมไปถึงองค์กรหลักต่างๆที่เป็นอุปสรรคขวากหนามในแผนผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของระบอบทักษิณ รวมทั้งการผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ควบคู่กันไป
อย่างไรก็ตาม แผนที่จะยื่นถอดถอน 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะแ ม้การยื่นจะใช้เสียง ส.ส.หรือสมาชิกวุฒิสภา(สว.)แค่ 1 ใน 4 ของแต่ละสภาโดยยื่นผ่านประธานวุฒิสภาซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่จากนั้นประธานวุฒิสภาจะส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ไต่สวน ซึ่งหากกรรมการป.ป.ช.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งเห็นว่าข้อกล่าวหามีมูลคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ในทันที จากนั้นป.ป.ช.จะส่งเรื่องไปยังประธานวุฒิสภาและอัยการสูงสุด ซึ่งหากอัยการสูงสุดพิจารณาสำนวนแล้วเห็นว่ามีมูลก็จะส่งต่อไปยังศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งกระบวนการถอดถอนยังต้องใช้เวลาอีกยาวนาน
ดังนั้นแผนการการเคลื่อนไหวเฉพาะหน้าของระบอบทักษิณที่ต้องจับตาในขณะนี้ก็คือปฏิบัติการหักดิบซึ่งเริ่มมีสัญญาณบอกเป็นนัยออกมาบ้างแล้วจากคำให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่กล่าวว่า ถึงอย่างไรรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็มีเสียงข้างมากอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมหรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่น่าจะมีปัญหา
เพราะฉะนั้นเมื่อเปิดสภาครั้งต่อไปต้องจับตาอย่ากระพริบเพราะปฏิบัติการหักดิบทั้งการทำสงครามแตกหักกับศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการใช้พวกมากผ่าทางตันโดยไม่สนใจอำนาจศาลรัฐธรรมนูญอาจเกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ที่สำคัญก่อนที่จะแตกหักเป้าหมายสำคัญที่สุดที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนก็คือแผนรวบรัดผ่านร่าง พ.ร.บ.เงินกู้สร้างหนี้ให้ประเทศมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ 2 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาระบบขนส่งคมนาคมทั่วประเทศแบบ 3 วาระรวดซึ่งถือเป็นเค้กก้อนโตที่นายใหญ่สั่งต้องเอาให้ได้เพราะเงินก้อนนี้ซื้อประเทศได้อย่างสบาย
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี