หลายคนตั้งคำถามว่าม็อบเสื้อแดงนำโดยนายธิดา ถาวรเศรษฐ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อภายใต้การบงการหนุนหลังของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกผู้เป็นนายใหญ่ยังมีหน้าบิดเบือนประวัติศาสตร์ด้วยการออกมาเคลื่อนไหวจัดงานรำลึก 3 ปีครบรอบเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง เมื่อปี 2553 ด้วยการระดมพลคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินมาชุมนุมแสดงพลังความอหังการที่บริเวณแยกราชประสงค์ วันที่ 19 พ.ค.
พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าทาสรับใช้แกนนำเสื้อแดงถูกตั้งข้อสังเกตว่าพยายามโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนความจริงจากดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำมาตลอด โดยพยายามสร้างภาพอ้างว่าตัวเองคือตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตย ขณะที่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ที่อ้างว่ามีฝ่ายอำมาตย์อยู่เบื้องหลังคือ ฝ่ายที่ทำลายประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ความจริงประชาธิปไตยที่แท้จริงตายๆ ไปแล้วตั้งแต่ยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทยภายใต้อำนาจระบอบทักษิณครองเมือง อย่างที่นายคณิน บุญสุวรรณ นักวิชาการอิสระเคยเขียนหนังสือไว้ระบุว่า ประชาธิปไตยตายแล้วด้วยแนวคิดของระบอบทักษิณที่ผูกขาดอำนาจและแทรกแซงองค์กรอิสระต่างๆ ที่มีหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ไม่ต่างอะไรจากเผด็จการในคราบประชาธิปไตยและทำทุกอย่างแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตัวเองจากรายงานผลสรุปก่อนหน้านี้ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.)ที่มี ดร.คณิต ณ นคร เป็นประธานชี้ชัดว่า ความแตกแยกในชาติบ้านเมืองจนนำไปสู่การล่มสลายของประชาธิปไตยจนนำไปสู่การรัฐประหารเมื่อปี 2549 เกิดจากรัฐบาลทักษิณเหลิงอำนาจไร้จริยธรรมและธรรมาภิบาลนับตั้งแต่การเข้าแทรกแซงครอบงำศาลรัฐธรรมนูญจนพลิกมติคดีซุกหุ้นจากผิดเป็นถูกทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รอดพ้นความผิดแบบค้านสายตามหาชน มาจนกระทั่งอาศัยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยุคนั้นที่เป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณโกงการเลือกตั้งทั่วไปด้วยการสมคบกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ขณะนั้นจ้างพรรคเล็กลงสมัคร มาจนถึงกรณีอื้อฉาวครอบครัว “ชินวัตร” ขายหุ้นมูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท ให้กองทุนเทมาเส็กของรัฐบาลสิงคโปร์อย่างฉ้อฉลโดยเลี่ยงภาษีมูลค่ามหาศาลจนนำมาสู่การออกมาชุมนุมประท้วงของคลื่นมหาชนที่ออกมาขับไล่รัฐบาลระบอบทักษิณจนเสี่ยงที่จะนำไปสู่สงครามกลางเมือง
นองเลือด และในที่สุดกองทัพตัดสินใจยุติอำนาจรัฐก่อนที่จะเกิดหายนะแก่ชาติบ้านเมือง
ที่สำคัญ คอป.ยังชี้ความมีอยู่จริงของกองกำลังชุดดำที่ปะปนอยู่ในม็อบคนเสื้อแดงที่ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553
หลังถูกโค่นล้มพ้นอำนาจจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ละความพยายามวางแผนทำทุกวิถีทางเพื่อฟื้นอำนาจของตัวเองกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งและทะเยอทะยานถึงกับคิดยึดครองประเทศให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่ โดยวิธีการของระบอบทักษิณก็คือการอาศัยแก้ว 3 ประการนั่นคือ มวลชนจัดตั้งคือม็อบเสื้อแดง พรรคการเมือง
หุ่นเชิดทักษิณ และกองกำลังติดอาวุธสร้างสถานการณ์ทั้งการลอบก่อวินาศกรรมอย่างต่อเนื่องจนถึงปฏิบัติการขั้นแตกหักคืออาศัยม็อบเสื้อแดงเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกองกำลังติดอาวุธก่อสงครามนองเลือดเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐ ซึ่งเหตุการณ์ม็อบเสื้อแดงก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยาเมื่อปี 2552 ตามด้วยเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองปี 2553 คือผลงานของระบอบทักษิณ
เพราะฉะนั้น 19 พ.ค. 2556 จึงน่าจะเป็นวันรำลึกครบรอบ 3 ปีแห่งความชั่วร้ายของขบวนการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเพื่อสนองตัณหาระบอบทักษิณที่พยายามบิดเบือนประวัติศาสตร์จากดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำแล้วตบตาลวงโลกอุปโลกน์ตัวเองว่าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่พฤติกรรมตรงกันข้ามกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี