วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้า แต่หมกเม็ดอำพรางเป้าหมายที่แท้จริงเพื่อฟอกโทษความผิดให้กับนักโทษชายแม้วและบรรดาแกนนำก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองจะนำไปสู่วิกฤติความรุนแรง แต่รัฐบาลพรรคเพื่อแม้วก็ยังดันทุรังตะแบงที่จะเดินหน้าโดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะลุกเป็นไป
ซ้ำร้ายบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยรวมทั้งผู้บริหารหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐบาล อาทิ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังออกมาเยาะเย้ยถากถางท้าทายพลังประชาชนที่จะออกมาชุมนุมคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดภายใต้การนำของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า เป็นแค่คนเพียงหยิบมือเดียว และเป็นพวกขาประจำหน้าเดิม ซ้ำเย้ย“กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ”ที่มีกลุ่มนายทหารบำนาญเป็นคณะเสนาธิการซึ่งนัดชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ใน 4 ส.ค.นี้ว่า เป็นแค่กลุ่มทหารแก่ที่ไม่มีน้ำยาโค่นระบอบทักษิณได้
ขณะที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ประเมินความเคลื่อนไหวของ“กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ”ว่าทำได้แค่การขู่คงไม่สะเทือนเสถียรภาพของรัฐบาล
ส่วน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวอย่างย่ามใจว่าถึงยังไงก็ต้องพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ เพราะบ้านเมืองเสียเวลามามากแล้ว ถึงเวลาที่ควร
หันหน้าเข้าหากันเสียที
ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย ที่อ้างว่านิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองทุกสีทุกกลุ่มหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 ถึง 10 พ.ค.2554 โดยไม่ครอบคลุมถึงผู้มีอำนาจสั่งการและแกนนำที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรงทางการเมือง ถือเป็นการโกหกหมกเม็ด เพราะร่างกฎหมายฉบับนี้เปิดช่องให้ นักโทษชายแม้ว ในฐานะผู้บงการอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์จลาจลทั่วกทม.เมื่อปี 2552 และการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองปี 2553 รวมทั้งบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงจะได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด รวมไปถึงแกนนำเสื้อแดงที่เหิมเกริมสุดเลวร้ายนำม็อบบุกโรงพยาบาลจุฬาฯ ทั้งๆ ที่สมเด็จพระสังฆราชรักษาอาการอาพาธอยู่จนมีกระแสรับสั่งให้ย้ายสมเด็จพระสังฆราชไปประทับรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลศิริราชอย่างทุลักทุเล หรือกรณีที่ตำรวจมะเขือเทศนายหนึ่งก่อการร้ายยิงจรวดหัวระเบิดใส่วัดพระแก้วมีหวังพ้นความผิดทั้งแก๊ง
ร่างฉบับ นายวรชัย หมกเม็ดเพราะก่อนหน้านี้แกนนำคนเสื้อแดงต่างออกมาเผยไต๋แล้วว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ผ่านมาไม่มีผู้สั่งการและไม่มีแกนนำ เพราะฉะนั้นทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงจึงไม่มีความผิด และที่สำคัญร่างฉบับ นายวรชัย ถึงขนาดเหิมเกริมลบล้างอำนาจศาลด้วยการระบุให้ผู้ที่ศาลมีคำพากษาลงโทษแล้วพ้นความผิดทั้งหมด
ล่าสุด แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายสุเทพ ปราศรัยที่สวนเบญจสิริ เป่านกหวีดพร้อมนำทัพมวลชนต่อสู้ขั้นแตกหักเพื่อต่อต้านกฎหมายฟอกผิดให้ นักโทษชายแม้ว และพวกก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองโดยดีเดย์เริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่ 31 ก.ค.นี้ เพราะการต่อสู้ในสภาไม่มีวันชนะเนื่องจากถึงอย่างไรรัฐบาลก็อาศัยพวกมากลากไปวันยังค่ำ
เพราะฉะนั้น บ้านเมืองกำลังเดินไปสู่ทางตันและมีแนวโน้มที่จะลุกเป็นไฟ จากการที่รัฐบาลหุ่นเชิดเพื่อแม้วลุแก่อำนาจอาศัยพวกมากหวังตะแบงผลักดันกฎหมายที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้าโดยอำพรางเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงที่ล้วนทำเพื่อนักโทษชายแม้วและเหล่าขบวนการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองทั้งสิ้น
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี