นับว่าสร้างความประหลาดใจไม่น้อยเมื่อนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงจุดยืนท่าทีของข้าราชการทั่วประเทศหลังจากที่มีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากนายธงทองแล้วยังมีนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นแกนหลักในการจัดประชุม โดยที่ประชุมมีความเห็นร่วมกัน 3 ข้อซึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเห็นว่าการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองขณะนี้
หัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศเห็นว่า ควรมีการหารือร่วมกันระหว่างทุกฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งบนพื้นฐานของสันติวิธีก่อนการเลือกตั้ง เพื่อแสวงหาสัญญาประชาคมว่าในอนาคตจะมีแนวทางการปฏิรูปประเทศที่เป็นรูปธรรมอย่างไรเพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืน
ท่าทีของหัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศดูจะสอดคล้องกับจุดยืนของ 7 องค์กรหลักภาคเอกชน รวมทั้งนักวิชาการจำนวนไม่น้อยที่เห็นว่า การเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบที่จะคลี่คลายวิกฤติความขัดแย้งในชาติขณะนี้ เพราะไม่ได้ตอบสนองความต้องการของมวลมหาประชาชนที่ต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เพื่อให้การเมืองใสสะอาดโดยเร็ว ดังนั้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้งควรจะมีการหารือของประชาชนทุกกลุ่มเพื่อหาแนวทางปฏิรูปประเทศร่วมกัน ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วจึงค่อยคืนอำนาจสู่ประชาชน ไม่อย่างนั้นหลังการเลือกตั้งปัญหาก็ไม่จบจะเกิดการแสดงพลังของมวลมหาประชาชนอีก
ล่าสุดตัวแทนศิษย์เก่านักเรียนเตรียมทหาร 11 รุ่น ซึ่งล้วนเป็นนายทหารบำนาญหลายสิบคน นำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำกองทัพ ซึ่งเป็นรุ่นน้องแสดงจุดยืนสนับสนุนพลังมหาประชาชนภายใต้การนำของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ด้วยการกดดันให้รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณภายใต้การนำของ นายกฯหุ่นเชิด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากการทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการ แล้วจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นกลางเข้ามาวางกติกาปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยแท้จริงโดยให้เลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปออกไปก่อนจนกว่าการวางแนวทางปฏิรูประเทศจะเสร็จสิ้น
ตัวแทนศิษย์เก่าเตรียมทหารทั้ง 11 รุ่น ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณชุดนี้ไม่สมควรมีอำนาจบริหารประเทศต่อไปเนื่องจากปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬาร สั่งการโดยนักโทษหนีคุกที่อยู่นอกประเทศ ลุแก่อำนาจทำอะไรตามใจชอบโดยไม่ยำเกรงกฎหมาย ซึ่งที่สำคัญคือการประกาศไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญจึงถือว่ารัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณชุดนี้ขาดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไป
จากปรากฏการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นสะท้อนเห็นว่า ทุกภาคส่วนของสังคมขานรับการปฏิรูปประเทศตามข้อเสนอของ กปปส. เพียงแต่อาจมีข้อถกเถียงที่แตกต่างกันในเรื่องวิธีการรายละเอียดเท่านั้น ขณะที่ล่าสุดนายกฯ หุ่นเชิดยิ่งลักษณ์นอกจากจะดื้อด้านไม่ยอมลาออกจากนายกฯรักษาการแล้ว ยังแถลงผ่านทีวีเฉพาะกิจฉวยโอกาสสวมรอยหาเสียงสร้างความชอบธรรมโดยพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อปฏิรูปประเทศ แต่ซ่อนเล่ห์ซื้อเวลาโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าให้เลือกตั้งก่อน ส่วนเรื่องปฏิรูปประเทศค่อยมาว่ากันทีหลัง
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี