ไม่ได้เหนือความคาดหมายที่กรรมทะยอยตามเช็คบิลเหล่าขี้ข้าระบอบทักษิณ เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชุดใหญ่มีมติชี้มูลความผิดนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา จากพฤติกรรมทำตัวเอียงกระเท่เร่ช่วยเหลือรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.) อันเป็นการขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญรวมทั้งความผิดทางอาญาฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ส่วน นายสมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นจำเลยในสำนวนคดีเดียวกัน ป.ป.ช.เลื่อนการชี้มูลความผิดออกไปก่อน
เมื่อ ป.ป.ช.มิมติชี้มูลความผิด นายนิคม ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที และจะต้องถูกดำเนินการถอดถอนตามขั้นตอน รวมทั้งพิจารณาโทษทางอาญาต่อไป
ประเด็นซึ่งมีนัยทางการเมืองสำคัญมากในช่วงสถานการณ์หัวเลี้ยวหัวต่อขณะนี้ก็คือการพ้นจากผู้หน้าที่ประธานวุฒิสภาของนายนิคมเพราะจะเป็นการเปิดทางให้ข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชนภายใต้การนำของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข(กปปส.)เขยิบใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้เพราะเมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฏรไปแล้ว ผู้ที่จะทำหน้าที่ประธานรัฐสภาซึ่งเป็นผู้ทูลเกล้าฯรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่หลังการเลือกตั้งทั่วไปก็คือประธานวุฒิสภา เพราะฉะนั้นหาก ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องมีอันเป็นไปพ้นจากอำนาจไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม อาทิ คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวซึ่ง ป.ป.ช. กำลังจะชี้มูลความผิดในต้นเดือนเม.ย.นี้ ซี่งหาก ป.ป.ช.ลงดาบเชือด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องหยุดการทำหน้าที่ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯทันที
อดีตผู้พิพากษาและนักกฏหมายหลายท่านให้ความเห็นว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ไม่สามารถมอบหมายให้รองนายกฯคนใดคนหนึ่งขึ้นมาทำหน้าที่แทนได้
เพราะรัฐมนตรีทั้งหลายแต่งตั้งโดยนายกฯ เมื่อนายกฯพ้นสภาพบรรดาคณะรัฐมนตรีถือว่าพ้นสภาพด้วย นอกจากนี้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญยังกำหนดให้นายกฯต้องมาจากส.ส. แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ขณะนี้ไม่มีส.ส.แม้แต่คนเดียวเพราะยุบสภาไปแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงปมที่มีการร้องเรียนไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่าผู้ทำหน้าที่รัฐบาลชุดนี้พ้นสภาพไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมาตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเพราะไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนฯได้ภายใน 30 วันหลังการเลือกตั้งทั่วไป 2 ก.พ.ที่ผ่านมา
นั่นหมายความว่าไม่มีนายกฯไม่มีรัฐบาลเกิด”สุญญกาศ”ทางการเมืองอันจะนำไปสู่การอาศัยมาตรา 7 แห่งรัฐธรรมนูญตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลที่เป็นกลางและมีสภาประชาชนจากทุกสาขาอาชีพเพื่อมาวางแนวทางปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ จากนั้นจึงค่อยคืนอำนาจกลับสู่ประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ซึ่งหากนายนิคมซึ่งเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณยังอยู่ในตำแหน่งแน่นอนว่าจะไม่สนองตอบความต้องการของมวลมหาประชาชนแน่ แต่เมื่อนายนิคมชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อไว้ ผู้ที่จะทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาก็คือนายสุระชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ซึ่งได้ชื่อว่ารักความถูกต้องและมีมวลมหาประชาชนอยู่ในหัวใจ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี