ในบรรดาคดีที่เป็นชะนักปักหลังและเป็นฝันร้ายซึ่งรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หวั่นวิตกมากที่สุดก็คือคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวซึ่งจะครบเส้นตาย ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เปิดโอกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาแก้ข้อกล่าวหาเป็นครั้งสุดท้ายในวันี่ 31 มี.ค.นี้ ซึ่งจากนั้นคาดว่า ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิดได้ในทันทีในต้นเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ โดยการลงดาบเชือดของป.ป.ช.ในคดีนี้จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ
ในคดีมหกรรมทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนอกจากมีขบวนการโกงบ้านกินเมืองกันอย่างมโหฬารแล้วยังสร้างความเสียหายต่อประเทศเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท โดยป.ป.ช.ตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีมหกรรมทุจริตครั้งนี้มานานนับปีจนได้หลักฐานมัดอย่างแน่นหนา ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบและโทษความผิดฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้แม้จะพยายามบ่ายเบี่ยงปิดความรับผิดชอบก็ตาม
ทั้งนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้ตั้งแต่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณชุดนี้เริ่มผลักดันโครงการรับจำนำข้าวผู้รู้หลายฝ่ายออกมาท้วงติงคัดค้านโครงการประชานิยมนี้เพราะเปิดช่องทางให้มีการทุจริตอย่างมโหฬารและทำลายวงจรข้าวของประเทศทั้งระบอบอย่างรุนแรง รวมทั้งจะสร้างภาระหนี้เงินกู้และผลขาดทุนมหาศาลอันเป็นการทำลายสถานะทางการคลังของประเทศอย่างรุนแรงจนมีแนวโน้มไปสู่ความล่มจม ซึ่งแม้แต่หัวหน้าทีมที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาลทรราชระบอบทักษิณคือ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ก็ไม่เห็นด้วยกับโครงการรับจำนำข้าวและเตือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่า จะพังเพราะโครงการนี้ หรือแม้แต่กระทรวงการคลัง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็เคยทำหนังสือทักท้วงไปยังคณะรัฐมนตรี แต่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดภายใต้การบงการของตระกูลชินก็เดินหน้าโครงการโดยไม่แยแสสนใจต่อกระแสคัดค้าน
สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เอง ป.ป.ช.โดย เคยแจ้งเตือนไปหลายครั้งให้ทบทวนโครงการรับจำนำข้าวเพราะ พบการทุจริตมโหฬารและสร้างความเสียหายต่อประเทศมหาศาล แต่นายกฯปูเน่ายิ่งลักษณ์ กลับไม่สนใจซ้ำดันทุรังเดินหน้าโครงการต่อไปทั้งๆที่นำพาประเทศไปสู่หายนะล่มจมและมีการทุจริตที่ผลประโยชน์มูลค่ามหาศาลที่คาดว่าเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาทเข้ากระเป๋าของผู้มีอำนาจและพรรคพวกเพียงหยิบมือเดียว
ภายใต้สถานการณ์ที่ใกล้จนตรอกรอการถูกประหารโดยป.ป.ช.ของ นายกฯปูเน่ายิ่งลักษณ์ ทำให้บรรดาทาสรับใช้ระบอบทักษิณทั้งหลายทั้งพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง และนักวิชาการเสื้อ แดงรวมตัวกันดาหน้าออกมาโจมตีบ่อนทำลายภาพพจน์ความชอบธรรมของ ปปช.อย่างเอาเป็นเอาตายโดยมีเป้าหมายหวังอุ้ม นายกฯปูเน่ายิ่งลักษณ์ รวมทั้งเดินแผนปูทางกำจัดองค์กรอิสระต่างๆ โดยเฉพาะ ป.ป.ช. รวมทั้งศาลเพื่อขจัดอุปสรรคขวากหนาม
สถานการณ์ที่ต้องจับตาหาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายกฯปูเน่ายิ่งลักษณ์ ในคดีมหกรรมโกงโครงการรับจำนำข้าวก็คือ นายกนปูเน่า ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ทำหน้าที่ทันที และที่สำคัญนักกฏหมายหลายคนชี้ว่า เมื่อ นายกฯปูเน่า ต้องหยุดทำหน้าที่ก็ไม่สามารถที่จะมอบหมายให้รองนายกฯคนใดคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่นายกฯแทน เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า นายกฯต้องมาจาก ส.ส.เท่านั้น แต่ขณะนี้ไม่มี ส.ส.แม้แต่คนเดียวจากการยุบสภาผู้แทนราษฏรตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่มีใครสามารถขึ้นทำหน้าที่นายกฯได้ ซึ่งนั่นหมายถึงประเทศเข้าสู่ภาวะ”สุญญกาศ”เปิดทางให้ใช้มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญสรรหานายกฯเฉพาะกาลที่เป็นกลางและมีสภาประชาชนทุกสาขาอาชีพมาปฏิรูปการเมืองครั้งใหย่ให้เป็นประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงให้สำเร็จก่อนที่จะคืนอำนาจสู่ประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ซี่งเป็นไปตามความต้องการของมวลมหาประชาชนกปปส.
และในกรณีที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยดันทุรังมอบหมายให้รองนายกฯคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่นายกฯแทน แต่ในที่สุดหากวุฒิสภามีมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นผู้ทำหน้าที่นายกฯนั่นหมายถึงคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากหน้าที่ไปด้วยตามมาตรา 180 ของรัฐธรรมนูญซึ่งจะทำให้เกิด”สุญญากาศ”ทางการเมืองเช่นกัน
หากป.ป.ช..ชี้มูลความผิด นายกฯปูเน่ายิ่งลักาณ์ นอกจากส่งผลสะเทือนอย่างรุนแรงต่อความอยู่รอดของรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์แล้ว ยังส่งผลต่อพรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณด้วย เพราะด้วยข้อหาเป็นรัฐบาลโกงชาติและล้มเหลวสิ้นเชิงในโครงการรับจำข้าวย่อมส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยอย่างรุนแรงในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ขบวนการระบอบทักษิณจึงใช้วิธีการถ่อย ดิบเถื่อนทั้งบนดินใต้ดินข่มขู่คุกคามป.ป.ช.รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยกลุ่มเสื้อแดงจ.นนทบุรียกกำลังบุกยึดสำนักงานป.ป.ช.ย่านสนามบินน้ำเพื่อขัดขวางการชี้มูลความผิด นายกนปูเน่ายิ่งลักษณ์ ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และแสดงพฤติกรรมสุดถ่อยด้วยการทำร้ายพระสงฆ์รวมทั้งผู้ที่เดินผ่านหน้าสำนักงานป.ป.ช. อย่างบ้าคลั่ง ขณะเดียวกันล่าสุดแก๊งอันธพาลป่วนเมืองก็ใช้เครื่องยิงกระสุนระเบิดแบบเอ็ม 79 ใส่สำนักงาน ป.ป.ช.3 ลูกหลังจากที่ก่อนหน้านี้ถล่มป.ป.ช.มาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งการข่มขู่คุกคามกรรมการป.ป.ช.
จากการที่ ป.ป.ช.กำลังจะชี้ขาดคดีมหรกรรมโกงโครงการรับจำนำข้าวในอนาคตอันใกล้นี้จนมี แนวโน้มนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ดังนั้นนับจากนี้เป็นต้นไปต้องจับตาความเคลื่อนไหวของเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งหลายทั้งปฏิบัติการบนดินและใต้ดินโดยมุ่งบดขยี้ป.ป.ช.รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การทำทุกวิถีทางเพื่ออุ้มนายกฯปูเน่ายิ่งลักษณ์ ขณะเดียวกันก็พยายามขัดขวางทำลายความชอบธรรมการปิดคดีมหกรรมโกงโครงการรับจำนำข้าวของป.ป.ช.
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี