วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568
อุณหภูมิการเมืองเดือนเมษายนนี้ส่อเค้าเดือดพล่านทั้งสถานการณ์บนดินและใต้ดินด้วยสาเหตุที่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังจะเข้าตาจนจากคดีชนักปักหลังต่างๆ ที่กำลังจะถูกชี้ชะตาโดยศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระหลายคดี
คดีสำคัญที่รอชี้ชะตา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ต้องจับตาก็คือคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เตรียมชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งหากชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันทีเพื่อรอกระบวนการถอดถอน และดำเนินคดีอาญา
ส่วนอีกคดีหนึ่งที่ถือว่าอาจเป็นหมัดน็อกรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์อย่างแท้จริงก็คือ คดีการย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งล่าสุดศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาว่าคำสั่งย้าย นายถวิล ไม่ชอบด้วยกฎหมายและให้รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์คืนตำแหน่งเลขาธิการสมช.ให้กับ นายถวิล ขณะที่สมาชิกวุฒิสภา(สว.)กลุ่มหนึ่งได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าความเป็นนายกฯของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สิ้นสุดลงจากคำสั่งย้าย นายถวิล ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญในหลายมาตราซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์พ้นจากตำแหน่งนั่นหมายความว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์สิ้นสภาพโดยปริยายเพราะคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยนายกฯ
ด้วยสภาพการณ์ที่ใกล้หมดอำนาจลงทุกขณะของรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณทำให้มีความพยายามของเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งบนดินและใต้ดินเตรียมทำศึกขั้นแตกหักเพื่อปกป้องรักษาอำนาจรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์และระบอบทักษิณ โดยกลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้การนำของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดง และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย เลขาธิการกลุ่มคนเสื้อแดง เตรียมระดมทัพเสื้อแดงทั่วประเทศครั้งใหญ่ในวันที่ 5 เม.ย.เพื่อปกป้องรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ขณะเดียวกันก็มุ่งทำลายศาลและองค์กรอิสระต่างๆที่กำลังจะชี้ชะตารัฐบาลทรราชหุ่นเชิดโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญและป.ป.ช. รวมทั้งการเผชิญหน้ากับมวลมหาประชาชนภายใต้การนำของ กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ถึงกับปลุกม็อบเสื้อแดงให้มาร่วมแสดงพลังครั้งใหญ่ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ ขณะที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตรองเลขาธิการนายกฯ แกนนำเสื้อแดง ประกาศกร้าวถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกตัดสินจนต้องพ้นจากเก้าอี้นายกฯ กลุ่มเสื้อแดงลุยแน่นอน โดยเตรียมชายฉกรรจ์กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ(อพปช.) 1,000 คน ที่ฝึกการต่อสู้แบบทหารไว้แล้ว และการแสดงพลังของคนเสื้อแดงวันที่ 5 เมษาฯนี้จะเป็นการทำศึกใหญ่ขั้นแตกหัก
ขณะที่มวลมหาประชาชน กปปส.ภายใต้การนำของ กำนันสุเทพ นัดแกนนำทั่วประเทศหารือในวันที่ 5 เม.ย.นี้เช่นเดียวกับม็อบเสื้อแดงเพื่อเตรียมยกระดับการเคลื่อนไหว ซึ่ง กำนันสุเทพ
ประกาศว่าจะเป็นศึกยกสุดท้ายที่จะต้องปิดเกมให้ได้ภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้
ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองบนดินร้อนแรงใกล้ถึงจุดแตกหัก แนวโน้มสถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าก็คือเกมการเมืองใต้ดินโดยขบวนการก่อการร้ายป่วนเมืองที่ยังคง
ก่อเหตุร้ายรายวันด้วยระเบิดมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเตรียมแผนที่จะก่อการร้ายครั้งใหญ่โดยเฉพาะด้วยระเบิดมอเตอร์ไซค์บอมบ์หรือคาร์บอมบ์ซึ่งมีลักษณะคล้ายเหตุการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์
สัญญาณแห่งความรุนแรงด้วยการลอบก่อวินาศกรรมเห็นได้ชัดจากเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ใกล้ที่ชุมนุมของ กปปส.ภายใต้การนำของ หลวงปู่พุทธะอิสระ ที่เวทีแจ้งวัฒนะ หรือเหตุระเบิดมอเตอร์ไซค์บอมบ์ในพื้นที่เขตมีนบุรีเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมาที่มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งจากการขยายผลตรวจค้นบ้านเช่าหลังหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุพบระเบิดแสวงเครื่องแบบท่อและถังแก๊ส 9 ลูก และอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมากพร้อมสัญลักษณ์ของกลุ่มเสื้อแดง โดยชายฉกรรจ์กว่า 10 คนที่เช่าบ้านหลังดังกล่าวหลบหนีหลังเกิดเหตุระเบิด
ก่อนหน้านี้ทหารและตำรวจเข้าตรวจค้นการชุมนุมของกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(กวป.)ซึ่งเป็นเครือข่ายกลุ่มเสื้อแดงที่ชุมนุมยึดที่ทำการป.ป.ช. พบคลังแสงอาวุธสงครามร้ายแรงจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้มีการก่อเหตุร้ายแรงทั้งยิงและใช้ระเบิดใส่ที่ทำการศาลและป.ป.ช.มาอย่างต่อเนื่องหลายครั้งโดยเฉพาะการยิงด้วยกระสุนระเบิดจากเครื่องยิงแบบเอ็ม 79 รวมทั้งการยิงกระสุนระเบิดใส่ขบวนมหาประชาชนกปปส.ภายใต้การนำของ กำนันสุเทพ ขณะเดินมาใกล้พระตำหนักจิตรลดารโหฐานเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่เคราะห์ดีกระสุนพลาดเป้าไม่มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต แต่ทำให้รถยนต์ 2 คันพังยับเยิน มาจนกระทั่งเหตุการณ์ลอบยิงขบวนมวลมหาประชาชนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)บนทางด่วนแจ้งวัฒนะจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 4 ราย
เพราะฉะนั้นสถานการณ์ขณะนี้ได้มาถึงจุดที่ใกล้แตกหักและเริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังจะนำไปสู่ความรุนแรงโดยเฉพาะจากปฏิบัติการก่อการร้ายใต้ดินเหมือนเหตุการณ์เมื่อปี 2553 จนทำให้เดือนเมษาฯนี้อาจจะกลายเป็นเมษาฯเลือด
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี