ปาหี่สู้แล้วรวยเก็บฉากไปเรียบร้อยแล้วเมื่อม็อบเสื้อแดงเฉพาะกิจภายใต้การนำของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ที่ถนนอักษะย่านพุทธมณฑลมาได้แค่ 2 วันก็ขอพักชั่วคราวนัดชุมนุมอีกครั้งเพื่อทำศึกตแกหักหลังสงกรานต์
ข้อสังเกตุจากการแสดงพลังของม็อบเสื้อแดงครั้งนี้ก็คือความเสื่อมของพลังเสื้อแดงอย่างเห็นได้ชัดเพราะไม่เป็นไปตามราคาคุยของ นายจตุพร ที่เคยโอ่ว่าจะมีมวลชนเสื้อแดงมาร่วมแสดงพลังอย่างมืดฟ้ามัวดินไม่น้อยกว่า 5 แสนคน และทั้งๆที่ระดมทุนมหาศาลและใช้กลไกอำนาจรัฐ ตลอดจน ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้งเกณฑ์ทั้งจ้างแม้แต่แรงงานต่างด้าวมาร่วมชุมนุมเพื่อให้ดูมีจำนวนมาก แต่เอาเข้าจริงมีมวลชนน้อยกว่าเป้าถึงราว 10 เท่าโดยมีการประเมินว่าไม่น่าจะเกิน 5 หมื่นคน ซึ่งแม้แต่ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ซึ่งปกติเป็นฝ่ายม็อบเสื้อแดงก็ยังยอมรับว่า มวลชนเสื้อแดงที่มาแสดงพลังมีไม่ถึง 1 แสนคน
ข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งก็คือ นายจตุพร นอกจากจะใช้วาทะกรรมปลุกระดมคนเสื้อแดงด้วยคำว่าอำมาตย์บ้าง 2 มาตรฐานบ้าง หรือเพื่อรักษาประชาธิปไตยบ้างหวังหลอกมวลชนแบบซ้ำซาก แต่ที่น่าเกลียดสุดอัปยศก็คือมีการปล่อยให้ นายโรเบิร์ต อัมสเตอดัม ทนายความชาวดัชต์ มือปืนรับจ้างขี้ข้านักโทษชายแม้ว โฟนอินมายังเวทีเสื้อแดงโกหกบิดเบือนกล่าวโจมตีทำลายประเทศไทย ตลอดจนดีสเครดิตศาลและองค์กรอิสระต่างๆเพื่อปกป้องระบอบทักษิณ
นายอัมสเตอดัม ผู้นี้นอกจากหลอกผลาญค่าจ้างจาก นักโทษชายแม้ว ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนทำลายภาพพจน์ประเทศไทยแล้ว ที่สำคัญคือยังมีพฤติกรรมชั่วร้ายถึงขนาดเหิมเกริมให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงของไทย แต่กลับได้เป็นแขกรับเชิญเข้าไปพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อครั้งนั่งเก้าอี้รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงถึงภายในทำเนียบรัฐบาล
การที่นำ นายอัมสเตอดัม มาเป็นจุดขายของม็อบเสื้อแดงครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าจนตรอกไร้จุดขาย แม้แต่ นักโทษชายแม้ว ผู้เป็นนายใหญ่ครั้งนี้ก็เก็บตัวเงียบ
ความเคลี่อนไหวอีกประเด็นหนึ่งจากการแสดงพลังของม็อบเสื้อแดงครั้งนี้ก็คือ นายจตุพร ประกาศศึกชิงแผ่นดินท้า กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) เพื่อวันพลังมวลชนระหว่างม็อบเสื้อแดงกับมวลมหาประชาชน กปปส. โดยถือเอาวันที่มวลชนสองฝ่ายนัดแสดงพลังพร้อมกันหลังศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดชะตากรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเก้าอี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)โดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ซึ่ง กำนันสุเทพ ประกาศรับคำท้าในทันที
อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญคงไม่ใช่อยู่แค่การวัดพลังมวลชนของแต่ละฝ่าย เพราะที่สำคัญกว่าก็คือความถูกต้องชอบธรรมในเป้าหมายการเคลื่อนไหว ซึ่งหากสาธารณชนไตร่ตรองให้ถ่องแท้ก็จะพบคำตอบว่า ที่ผ่านมาม็อบเสื้อแดงเคลื่อนไหวทุกอย่างเพื่อปกป้องระบอบทักษิณและรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ทั้งๆที่กระทำสิ่งชั่วร้ายบ่อนทำลายชาติบ้านเมืองมาตลอด ขณะที่กปปส.ภายใต้การนำของกำนันสุเทพมีเป้าหมายชัดเจนมุ่งโค่นล้มระบอบทักษิณอันเป็นธุรกิจการเมืองทุนสามานย์เพื่อล้างความสกปรกชั่วร้ายทำบ้านเมืองด้วยการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นและสารพัดกลโกงเหมือนที่ผ่านมา
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี