คลื่นลูกใหม่
บทเพลงของสุนทราภรณ์ถือได้ว่าเป็นผลงานศิลปะอีกหนึ่งแขนงที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านไปนานนับหลายทศวรรษ ความนิยมที่คนไทยมีต่อบทเพลงสุนทราภรณ์ โดยเฉพาะเพลงเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ และลอยกระทงไม่เคยเสื่อมคลาย
จางหายไป แน่นอนว่าสาเหตุสำคัญคือความงดงามของทั้งเนื้อร้องและท่วงทำนอง แต่สาเหตุอีกประการหนึ่งคือความพยายามของทายาท
ในการอนุรักษ์ และเผยแพร่เพลงสุนทราภรณ์จากรุ่นสู่รุ่น
มูลนิธิสุนทราภรณ์ เป็นองค์กรการกุศลขนาดเล็ก ที่มีผลงานต่อเนื่องทุกปี มี อติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ กรรมการ-เลขานุการ ของมูลนิธิฯ ซึ่งคนทั่วไปรู้จักกันดีในฐานะทายาทของ ครูเอื้อ สุนทรสนาน คือผู้อยู่เบื้องหลังทำหน้าที่ขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ สำหรับในปีนี้ซึ่งถือเป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเฉลิมพระชนมายุ ๕ รอบ มูลนิธิสุนทราภรณ์ได้ เตรียมจัดงานใหญ่ให้แฟนเพลงได้มีส่วนร่วม
“ในปีนี้ มูลนิธิสุนทราภรณ์ได้ทำงานเทิดพระเกียรติถึงสามครั้ง ที่สำเร็จไปแล้วด้วยดีคือ การจัดทำซีดีบทเพลงเทิดพระเกียรติตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวัฒนธรรม ต่อมาคือโครงการจัดการแสดงดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ หรือในชื่อภาษาอังกฤษ “Concert to Celebrate HRH Princess Sirindhorn’s 60th Birthday Anniversary by the Suntaraporn Band” ด้วยการสนับสนุนของกระทรวงการต่างประเทศกระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ในสามเมืองหลักของทวีปยุโรป อันได้แก่ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และนครซูริก สมาพันธรัฐสวิส เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้แฟนเพลง ของสุนทราภรณ์ในต่างประเทศและชาวต่างชาติได้มีส่วนร่วมในโอกาสพิเศษในครั้งนี้”
ปกซีดี ๖๐ พรรษา
“งานที่สามคือจัดงานคอนเสิร์ต “ราชนารีสดุดี: เฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ ๕ รอบ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ในวันที่ 27-28 มิถุนายนนี้ เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เป็นการทำงานร่วมกันกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท และจะนำเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทูลเกล้าฯ ถวายในมูลนิธิชัยพัฒนา”
คอนเสิร์ตราชนารีฯ ในครั้งนี้ มีความพิเศษ และน่าสนใจอยู่มากมายหลายๆ ประการ คุณอติพรเล่าให้ฟังว่า “งานนี้เป็นงานใหญ่ประจำปีที่ทางมูลนิธิสุนทราภรณ์จัดขึ้นเอง โดยจะเน้นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่ง”
“โดยในช่วงครึ่งแรกจะเป็นการแสดงดนตรีแบบสังคีตสัมพันธ์ นั่นคือ วงดนตรีสุนทราภรณ์วงใหญ่จะบรรเลงพร้อมกับวงดนตรีไทย ถือเป็นประสบการณ์ทางดนตรีที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน และเราได้คัดเลือกบทเพลงที่ครูเอื้อ และครูเพลงของสุนทราภรณ์ ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงไทย ที่มีความไพเราะเป็นอย่างมาก อาทินกสีชมพู กระแต ราตรีประดับดาว เป็นต้น นอกจากนี้ เรายังได้เชิญศิลปินอาวุโสของสุนทราภรณ์ มาร่วมขับร้อง อย่างคุณรวงทองทองลั่นธม ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งทุกท่านทราบดีแล้วว่าท่านมีสำเนียงการเอื้อนแบบไทยเดิมที่เพราะมาก ท่านจะมาขับร้องเพลง เสี่ยงเทียน และรวงทิพย์ คุณสุปาณี พุกสมบุญ นักร้องรุ่นแรกของสุนทราภรณ์ในวัย 92 ปี ในเพลงสาริกาชมเดือนและผู้ชายนะเออ คุณวรนุช อารีย์ ในเพลงนางครวญซึ่งเป็นเพลงที่ท่านบันทึกเสียงไว้ และคุณศรวณี โพธิเทศ ในเพลงคลื่นกระทบฝั่ง ร่วมด้วยนักร้องดาวค้างฟ้า นำทีมโดย พรศุลี-เจือนศักดิ์ และคลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์”
ศรวณี โพธิเทศ
“สำหรับในช่วงครึ่งหลัง เป็นการนำบทพระราชนิพนธ์คำกลอนของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 เรื่อง “ท้าวแสนปม” มาแสดง โดย ละครเรื่องนี้ครูเอื้อ เคยนำออกแสดงทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม เมื่อประมาณปี พ.ศ.2501 นำแสดงโดยนักร้องดังของสุนทราภรณ์อย่างคุณวินัย จุลบุษปะ และคุณเลิศ ประสมทรัพย์ ประกบดาราดังในยุคนั้น คือ คุณทรงศรี เทวคุปต์ และคุณดนัย ศรียาภัย นอกจากบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับละครเรื่องนี้ อย่าง “สาส์นรัก” และ “ดวงใจ” ซึ่งครูเอื้อฯ ได้อัญเชิญคำร้องจากละครคำกลอนเรื่องนี้มาใส่ทำนองแล้ว เรายังเพิ่มเติมเพลงอันไพเราะอื่นๆ ของ สุนทราภรณ์อีก 12 เพลง อาทิ เมืองฟ้าเมืองดิน เสียดายบัวและคำรักคำขวัญ ฯลฯ เพื่อสร้างสีสัน และแสดงเอกลักษณ์ของละครคำกลอนแบบไทย โดยจะนำแสดงโดยคลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์ ที่สำคัญ เรายังได้ ดร.สาวิตา ดิถียนต์ (บุตรสาวคนโตของรศ.ดร.คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ ศิลปินแห่งชาติ เจ้าของนามปากกา ว.วินิจฉัยกุล) ซึ่งจบการศึกษาจากภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะไปศึกษาต่อด้าน Theatre Practice ในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่ University of Exeter ประเทศอังกฤษ ขณะนี้เป็นอาจารย์ที่ภาควิชาศิลปการละคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิทยากรพิเศษด้านเขียนบทละครให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มีเปิดสอนด้านการแสดง นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนบทอิสระให้กับทั้งละครเวทีและละครโทรทัศน์”
พรศุลี วิชเวช
อาจารย์สาวิตา เคยร่วมงานกับมูลนิธิสุนทรภรณ์มาแล้วเมื่อปี 2549 ในงานคอนเสิร์ต “ร้อยใจ ถวายสัจจา” โดยเป็นผู้กำกับและเขียนบทให้กับละครประกอบเพลงเรื่อง “ถวายสัจจา” ที่นำแสดงโดยนักร้องคลื่นลูกใหม่จากวงดนตรีสุนทราภรณ์อีกเช่นกัน ในปีนี้อาจารย์ได้กลับมาร่วมงานกับทางมูลนิธิสุนทรภรณ์อีกครั้งในตำแหน่งผู้กำกับบทละครประกอบเพลงเรื่อง “ท้าวแสนปม” ซึ่งดัดแปลงมาจากบทพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖
ขวัญ-ชนัฐศิกาญ-แจ๊ป-ณฤดล
“จะเห็นว่าเป็นคอนเสิร์ตฯ ที่พวกเราชาวสุนทราภรณ์ตั้งใจทำกันอย่างมาก เราเริ่มประชุมวางแผนจัดงานมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์สูงสุด จึงอยากขอเชิญชวนแฟนๆ ของสุนทราภรณ์ทุกท่านให้ร่วมติดตามชมงานคอนเสิร์ต “ราชนารีสดุดีฯ” ในครั้งนี้ให้ได้ และที่สำคัญเงินรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วเราจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในมูลนิธิชัยพัฒนา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจึงอยากให้แฟนเพลงมาร่วมชมเยอะๆ ค่ะ”
และนี่คืออีกหนึ่งคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่จากมูลนิธิสุนทราภรณ์ ที่แฟนๆ ไม่ควรพลาด
ดร.สาวิตา ดิถียนต์
นุ่น-สุบงกช, โอ๋-ศราวิน
รวงทอง ทองลั่นธม
วรนุช อารีย์
สุปาณี พุกสมบุญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี