จากชีวิตที่เรียบง่ายและสันโดษของ “อี๊ด-ดวงใจ หทัยกาญจน์” จนมีโอกาสได้ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิงมอบความสุขให้ประชาชน แม้จะมีช่วงที่ต้องหยุดพักเพื่อไปดูแลครอบครัว แต่เธอก็หวนกลับมาสร้างสรรค์ผลงานอยู่เนืองๆ
l “ดวงใจ หทัยกาญจน์” ที่ทุกคนรู้จัก
46 ปีแล้วค่ะที่อยู่ในวงการ แก่กว่าช่อง 3 ปีนึง (หัวเราะ) เข้าวงการตอนอายุ 18 แล้วก็เป็นความบังเอิญด้วยนะ เพราะว่าแม่อี๊ดเป็นคนที่ชอบมีชีวิตสันโดษใช้ชีวิตสงบๆ อยากเป็นครูเป็นนางพยาบาล อยากเป็นแม่ชีอะไรแบบนี้ แต่บังเอิญว่าได้ไปที่บ้าน “พี่แต๋ว-นงลักษณ์ โรจนพรรณ” ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่สาว เขาชวนไปเที่ยวที่บ้าน เราก็เลยไปด้วย เพราะว่าอยากเห็นดารา แล้วพี่แต๋วเห็นเรา ก็บอกว่าเด็กคนนี้หน้าตาดี เขาจะสร้างหนังทีวี สมัยก่อนเขาเรียกหนังทีวีนะคะ เรื่อง “ยอดมวยไทย” แล้วขาดตัวน้องสาวนางเอก ก็เลยชวนเราให้มาเล่น ก็บอกไปว่าต้องกลับไปถามพ่อกับแม่ก่อน พ่อกับแม่ก็บอกว่าแล้วแต่หนู เราก็เลยกลับมาบอกเขาว่าพ่อกับแม่ให้เล่นค่ะ อีกอาทิตย์นึงก็ไปถ่ายเลย (ยากไหมคะการแสดง?) ไม่เลยค่ะ ไม่เห็นจะตื่นเต้นเหมือนกับที่คนเขาบอกเลย ว่าเหงื่อแตก เขาให้ทำอะไรเราก็ทำตามที่เขาบอก เล่นได้สบายๆ เพียงแต่ว่าบทน้องนางเอก เขาจะเป็นคนที่แก่นๆ ซึ่งไม่ใช่แม่อี๊ดไงคะ ก็พยายามนึกถึงว่าผู้หญิงที่แก่นๆ เขาทำกันยังไง ก็ไปนึกถึงภาพ “พี่กนกวรรณ ด่านอุดม” คือมีไอดอลเหมือนกัน(หัวเราะ) เราเองก็เป็นคนที่ชอบดูหนังแต่ว่าไม่ได้อยากเป็นดารา จะเรียกว่าอาย เราก็ไม่อายไม่เขิน เพียงแต่ว่าในชีวิตอยากเป็นแม่ชี ดาราไม่ได้อยากเป็น ซึ่งคนละขั้วกันเลย สิ่งนี้แม่อี๊ดมองว่าเราเหมือนถูกสร้างให้มาเป็นอย่างนี้ ขนาดว่าพอแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ 10 ปี ก็ยังได้กลับมาเล่น แล้วตอนที่กลับมาเล่นก็บอกว่าจะเลิกจะเลิก 3 หนแล้ว “มี้ พิศมัย” บอกว่า “อี๊ดเลิกไม่ได้ เชื่อมี้” ก็เลิกไม่ได้จริงๆ ค่ะ รู้แล้วว่าเราถูกสร้างให้มาทำหน้าที่นี้ ก็จงทำหน้าที่ในวัยที่เหมาะสม
l ย้อนวันวานงานแสดง
หนังทีวีเรื่องแรก “ยอดมวยไทย” “พี่ชาญ กัมปนาถ” เป็นพระเอก นางเอก “คุณเรไร สุขอุดม” เรื่องนี้ถือว่าเป็นใบเบิกทางทำให้ผู้สร้างหนังรู้จักเรามีผู้สร้างหนังเรื่อง “ทุ่งเศรษฐี” เขาขาดตัวน้องสาว “คุณเพชรา เชาวราษฎร์” ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการแจ้งเกิดเพราะว่าช่วงนั้น “คุณมิตร ชัยบัญชา” เพิ่งเสียชีวิตพอดี ก็เลยเป็นช่วงต่อของการผลัดเปลี่ยนที่ดาราใหม่จะได้เกิดนะคะ ช่วงนั้นคนก็จะไม่ค่อยยอมรับ คือหนังก็จะต้องเป็น มิตร-เพชรา, สมบัติ-อรัญญา, ไชยา-พิศมัยก็เรียกว่าเป็นช่วงบังเอิญค่ะ มีพระ-นางเกิดขึ้นพร้อมกัน 6 คู่แม่อี๊ดก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งจริงๆเราก็ไม่ได้เล่นหนังเป็นคู่ขนาดนั้น แต่ว่าเขาก็จะจับถ่ายรูปคู่กับ “พี่เอส-กรุง ศรีวิไล” แต่อย่าง “พี่ไพโรจน์ ใจสิงห์” กับ “คุณวนิดา อมาตยกุล” เขาเล่นเรื่อง “ดวง” เขาก็จะถูกจับเป็นคู่กัน ของเราเหมือนเขาสร้างให้เป็นคู่ขวัญกันในยุคนั้น และเราก็ได้เล่นหนังด้วยกันหลายเรื่องค่ะ พี่เอสก็รักเราเหมือนเป็นน้องสาว อย่างบทที่เราจะไม่คุ้นเคยบทเลิฟซีนบทรัก พี่เอสก็จะเล่นให้อย่างพี่ที่จะปฏิบัติกับน้อง แต่ภาพที่ออกมามันจะเป็นภาพที่เป็นเลิฟซีนของผู้หญิงกับผู้ชาย ในความรู้สึกนั้นไม่มีเลยค่ะ ก็ต้องขอบคุณพี่เอสไว้ ณ ตรงนี้ด้วย
l หนังกับละคร ผลงานใดที่มีมากกว่า
เล่นเยอะพอๆ กันนะคะ มีอยู่ช่วงนึงที่แม่อี๊ดมาเล่นละครทีวี แล้วคนเขาจะมีความรู้สึกว่า การที่ดาราหนังใหญ่ มาเล่นทีวี เหมือนเอาท์แล้ว ตกยุคแล้ว แต่แม่อี๊ดกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น มีความรู้สึกว่าเราน่าจะได้ความรู้กับละครเหมือนกัน แล้วก็ประสบความสำเร็จ ถ้ากับทางช่อง 3 ก็จะเป็นเรื่อง “ตะวันยอแสง” เป็นนางเอกเรื่องแรกคู่กับ “พี่หมู-สมภพ” กับ “ฉุยฉาย” แล้วก็ “ผู้กองยอดรัก” ที่ฉายทางช่อง 5 สำหรับหนังที่ได้เล่นเป็นนางเอกเรื่องแรกคือเรื่อง “สองฝั่งโขง” คู่กับ “พี่ครรชิต ขวัญประชา” (เล่นหนังเล่นละครสลับกันไป ค้านกับคำครหาของคน?) ใช่ค่ะ แต่แม่อี๊ดก็ไม่ได้ตำหนิติเตียนความคิดของคนยุคนั้นนะคะ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เราต้องเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เดี๋ยวนี้ละครเข้าถึงคนดู เสิร์ฟคนดูถึงบ้าน ถึงห้องนอนเลย ถือว่าคนดูสมัยนี้โชคดีมากเลย และคุณภาพของละครก็เทียบเท่าหนังใหญ่แล้ว
l สิ่งที่ได้จากการเป็นนักแสดง
ทำให้เราทำมาหากินได้ อยู่ในใจผู้ชมได้ถึงขนาดนี้ก็ต้องขอบคุณครูบาอาจารย์ และสิ่งที่สำคัญที่สุดต้องขอบคุณก็คือประชาชน จริงๆ แล้วแม่ชื่อ “ดวงใจ บันธยามาศ” ดวงใจเป็นชื่อที่คุณพ่อ-คุณแม่ตั้งให้ตั้งแต่เกิดเลย ส่วนนามสกุลนั้น “คุณอาสำเริง เนาวสัยศรี” สมัยก่อนท่านก็เป็นนักหนังสือพิมพ์อาวุโส ก็บอกว่านามสกุลแม่มันเรียกยากก็เลยเปลี่ยนเป็น “ดวงใจ หทัยกาญจน์” (แม่อี๊ดชอบหรือปลื้กับนามสกุลหทัยกาญจน์อย่างไรบ้าง) ชอบค่ะชอบ นามสกุลนี้แหละที่ทำให้เรามีทุกสิ่งทุกอย่างมีชื่อเสียงเงินทองมีบ้านมีรถมีอาชีพมีคนรู้จัก ได้พบสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการในชีวิต แต่ถ้าในบัตร เอกสารทางราชการก็เป็น “ดวงใจ กรานเลิศ”
l เมื่อต้องเลือกระหว่างครอบครัวกับหน้าที่การงาน
ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ แม่อี๊ดรู้สภาวะของตัวเราเองว่าวันนึงเราต้องมีครอบครัว เราต้องไปทำหน้าที่ของเมียของแม่ แม่อี๊ดเป็นคนไม่ยึดติดอยู่แล้ว เตรียมใจว่าความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา มันไม่มีอะไรที่คงที่ ณ ตอนนั้นก็ยังเป็นนางเอกอยู่ แต่ว่าก็ซาๆแล้ว เพราะว่าก็มีรุ่นน้อง มี “ตั๊ก-มยุรา” ขึ้นมาแทน แม่อี๊ดก็เริ่มถอยๆ มาแล้ว
l กับคู่ชีวิต
สามี (วีรพงศ์ กรานเลิศ) เป็นคนนอกวงการค่ะตอนนั้นเขาทำงานอยู่ที่การบินไทย แต่ว่าตอนนี้เกษียณแล้วนะคะ ที่เราจะต้องไปอยู่เชียงใหม่ก็เพราะว่าตำแหน่งหน้าที่เขาต้องย้ายไปอยู่ค่ะ พอไปอยู่ เราก็ติดใจเลยอยู่มา 27 ปีแล้วค่ะ (จนกลายเป็นคนเชียงใหม่?) ใช่ค่ะแม่นแล้วเจ้า (ยิ้มหวาน) ทุกวันนี้แม่ก็เดินทางตลอดค่ะ (ความรักของแม่อี๊ด เป็นความรักที่ปิดบังไหม?) ไม่ค่ะ แม่เป็นดาราคนแรกที่เข้าพิธีแต่งงานแล้วก็เปิดเผย ให้นักข่าวไปทำข่าว (ไม่กลัวเรตติ้งตก?) รู้สึกว่าความรักเป็นสิ่งที่ดีงามนะ เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าเราทำในสิ่งที่ถูก เราไม่เห็นต้องปิดบังเลย มีแต่คนชื่นชมยินดี แม่ยังมีแฟนละครแฟนหนังที่บอกว่าเขายังจำได้ทุกอย่างเลย เขาจำได้แม้กระทั่งแม่ใส่ชุดแต่งงานแบบไหน ทุกคนชื่นชมยินดีในทุกบทบาทของเราค่ะ (เป็นคู่รักที่หวานอย่างไรบ้าง?) จะนุ่มๆ มากกว่าค่ะ เพราะแม่ก็เป็นผู้หญิงที่ อืม...แม่ก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แต่แม่ว่าแม่เป็นผู้หญิงที่ครองคู่ได้ง้ายง่าย เพราะว่าแม่จะไม่ยึดติด ไม่ยึดถือว่าฉันจะต้องอย่างงี้อย่างงั้น แม่จะสบายๆ จะพูดกันดีๆ แล้วสามีแม่ก็โชคดีด้วยนะ แม่เรียกเขาว่าชายไร้ปัญหา (หัวเราะ) เขาก็จะลมพัดชายขาวเอื่อยๆ แต่แม่ก็จะมีคติ คือเราจะต้องมีชีวิตคู่ที่พูดกันดีๆ ไม่ใช่ว่าเราไม่ทะเลาะกันนะ แต่การทะเลาะกันของเราคือจะไม่แหกปาก แม่จะบอกว่าถ้าเขาทำแบบนี้แม่เสียใจ ถ้าเขาทำแบบนี้แม่ภูมิใจในตัวเขาอะไรแบบนี้ค่ะ จะฝึกให้ชินกับการไม่ทะเลาะ หรือถ้าทะเลาะกัน เราก็จะไม่ขุ่นข้องหมองใจกันจะต้องเคลียร์ชี้บอกเป็นข้อๆ
l ทายาทสืบสกุล
มีลูกชาย 2 คนค่ะ เป็นหนุ่มแล้วคนโตอายุ 29 ทำงานอยู่ที่การท่าอากาศยานที่เชียงใหม่ คนน้อง 27 อยู่ที่เมลเบิร์นเรียนอยู่ แล้วก็มีลูกสาวที่อุ้มบุญอยู่คนนึง“น้องพะเพื่อน ชุติมณฑน์” ที่เล่นสุดแค้นแสนรัก เนื่องจากว่าแม่อี๊ดกับแม่ของน้องพะเพื่อนเป็นคู่สะใภ้กันในอดีตนะคะ ก็เลยอุ้มท้องให้เขา ก็มีคนทราบเรื่องนี้บ้างเหมือนกัน(พะเพื่อนเข้าวงการเพราะแม่อี๊ดด้วย) ก็มีส่วนบ้างนิดหน่อยนะคะ เพราะว่าอย่างแม่กับ “พี่จิ๋ม-มยุรฉัตร” ก็สนิทกัน ก็บอกว่าน้องพะเพื่อนเขาก็ชอบ แล้วเผอิญมีตัวนี้ “พี่หนุ่ม-กฤษณ์” กับพี่จิ๋มก็เลยเอามาเล่น แต่ว่าน้องเขาจะเรียกแม่อี๊ดว่าป้าอี๊ด ความจริงเราไม่ได้ปิด คือน้องเขาก็รู้อยู่แล้ว แม่เขาก็บอกว่าถ้าจะให้น้องเรียกแม่อี๊ดว่าแม่ เขาก็ยินดี แต่แม่อี๊ดบอกว่าไม่ต้องให้เรียกตามศักดิ์ของครอบครัวเรา ไม่งั้นเด็กเขาจะสับสน เพราะแม่อุ้มท้องมาก็ไม่ได้เรียกร้องสิทธิ์ว่าจะต้องเป็นลูกเรา (ลูกชายคิดจะเจริญรอยตามคุณแม่ไหม?) ก็แล้วแต่เขานะคะ แต่ท่าทางเขาจะไม่ค่อยชอบ คนพี่เคยถ่ายโฆษณากับแม่ตอนเล็กๆ เขา 3 ขวบ ก็ถ่ายโฆษณานมเนสเปรนมตราหมี ล่าสุดนี่ถ่ายครีมติดฟันปลอมโพลิเดนท์แต่คนเล็กยังไม่เคยถ่าย แล้วท่าทางเขายิ่งไม่ชอบแต่แม่ก็แล้วแต่เขานะคะ แม่เลี้ยงลูกไม่ยึดติด ลูกจะเป็นอะไรก็ได้
l ช่วงที่หยุดงานแสดงไป 10 ปี แอบคิดถึงการแสดงไหม
มีบ้างค่ะ แต่แม่ก็คิดว่ามันไม่ใช่เวลาของเราแล้ว เวลาของเราคือล้างก้นเด็กผู้ชาย 2 คน (หัวเราะ) แต่พอได้หวนกลับมาอีกครั้ง ตอนนั้นคือ “คุณดวงดาว จารุจินดา” ซึ่งเป็นเพื่อนกันค่ะ แล้วเขาจะเล่นเรื่อง “ริษยา” ที่ช่อง 7 เขาก็จะเล่นเป็นพี่สาวที่ร้ายมากและจะมีน้องสาวของเขาที่เป็นคาแร็กเตอร์แม่เลยค่ะเป็นน้องสาวใจดีเรียบร้อยกลัวพี่ เขาก็เลยชวนให้มาเล่นหลังจากนั้น “คุณรุจน์ รณภพ” ก็สร้างหนังใหญ่จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เขาขาดตัวแม่ของ “แหม่ม-จินตหรา” ก็บอกว่าอยากได้อี๊ดมาเล่น แล้วตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้หยุดเลยค่ะ (กลับมาบทบาทก็เปลี่ยนไป?) มาเล่นเป็นแม่เลย (หัวเราะ) แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจน้อยใจอะไรนะคะ เพราะว่ามันเห็นสัจธรรมของชีวิต ก็ได้เล่นเป็นแม่มาเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนนี้ได้เล่นเป็นยายแล้วค่ะก็ยังไม่ได้หยุดเลย (จากที่เคยบอกว่าจะอำลาวงการ?)พูดไว้ 3 ครั้งแล้วค่ะ ด้วยความที่บ้านเราอยู่เชียงใหม่เดินทางบางครั้งเราก็เหนื่อยแล้ว เราก็ยังห่วงลูก เพราะว่าเขาก็ยังไม่ได้โตเหมือนตอนนี้ แต่ก็จะบอกลูกว่าแม่ต้องมาทำงาน ตอนแรกลูกเขาก็เครียด เป็นเด็กมีปัญหา พอรู้ว่าแม่ต้องมา คือเราเลี้ยงลูกเองตลอดก็เลยสอนเขาว่าชีวิตเราต้องทำงานถึงจะมีค่า แม่ต้องไปทำงานก็จะสอนเขาแบบนี้
l มุมมองเกี่ยวกับวงการบันเทิง
เปลี่ยนเยอะมาก ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ แล้วนักแสดงสมัยนี้โชคดีสบ๊ายสบายไม่ต้องอะไรมากเลย มาแต่ตัว สมัยแม่เหรอแต่งหน้าทำผมเอง หอบเสื้อผ้ามาเอง จดคอนตินิวต่อเนื่องเอง มาเล่นช่อง 3 นี่ยังจดเองอยู่เลย เพราะว่าสมัยนั้นทีมงานยังไม่ได้เต็มขนาดนี้ เราต้องรับผิดชอบตัวเราเองเยอะค่ะ สิ่งที่แม่อี๊ดอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ 46 ปี หนึ่งเลยคือเพราะว่าเราเป็นคนรับผิดชอบต่อหน้าที่ แม่อี๊ดจะบอกรุ่นลูกรุ่นหลานเสมอ มงคลที่ทำให้เราอยู่ได้คือต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่
l เป็นคนธรรมะธัมโม
ใช่ค่ะคือตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เพื่อนจะมีเล่นละครกันเล่นเป็นพ่อแม่ลูก แต่เราจะชอบเล่นเป็นแม่ชี แต่ว่าตอนที่หันหน้ามาปฏิบัติธรรมตอนที่มีลูก ก็มีความรู้สึกว่าถ้าลูกต้องจากเราไปก่อน เราต้องตาย ต้องอยู่ไม่ได้แน่ๆเลย ก็เลยศึกษาธรรมว่าถ้าเราต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก เราจะทำยังไงให้ไม่ทุกข์ หรือทุกข์ให้น้อย พอเราได้ศึกษาธรรมแล้วก็ได้ผลเลยค่ะว่าให้เห็นทุกข์เป็นธรรมดา ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าแม่ไม่ทุกข์ ทุกชีวิตบนโลกใบนี้ทุกข์ทั้งนั้น ให้เห็นทุกข์เป็นธรรมดา ทุกข์มีไว้แก้ ทุกข์มีไว้เป็นครู
l บุคคลที่อยากจะขอบคุณ
“พี่แต๋ว นงลักษณ์” ซึ่งท่านเสียไปแล้วนะคะ “อาสำเริง เนาวสัยศรี” “อาวิเชียร วีรโชติ” แล้วก็สมนึกภาพยนตร์ที่สร้างเรื่องทุ่งเศรษฐี พอมาในยุคที่มีชื่อเสียงแล้วก็มี “มี้-พิศมัย” ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคุยกันได้ทุกเรื่อง เป็นหัวหน้าแก๊งค่ะ สมาชิกก็จะมีคุณจิ๋ม-มยุรฉัตร บอกตามอายุนะ คุณก้อย-ทาริกา,คุณโย-ทัศน์วรรณ, คุณติ๋ว-อรสา แล้วก็แม่อี๊ดค่ะเมื่อก่อนบางคนก็ไม่ได้ธรรมะธัมโมนะคะ อย่างพี่ติ๋ว นี่เขาก็เพิ่งมาเริ่มตอนหลัง ก็ดีนะคะเป็นกัลยาณมิตรกัน(พบปะกันบ่อยแค่ไหน?) เมื่อก่อนนี้บ่อยค่ะจะไปนั่งซ่องสุมกันอยู่บ้านมี้ แต่ว่าพอเวลาเปลี่ยนไปมีลูกมีสามีก็เลยห่างกันไปบ้าง แต่ก็พยายามที่จะรวมแก๊งกันให้ได้ อย่างที่ผ่านมาวันงานแต่ง น้องจ๋า-ยศสินี และที่สำคัญที่สุดก็ต้องขอบคุณช่อง 3 ทำให้แม่อี๊ดได้ใกล้ชิดคนดู แล้วก็อยู่ยงคงกระพันมาจนถึงทุกวันนี้ แม้แต่ตอนแต่งงานช่อง 3 ก็ได้ส่งดนตรีไปช่วยนะคะ ก็สำนึกบุญคุณเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำค่ะ
l ยังคงสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนื่องและถือเป็นสิ่งที่รัก
แม่ถือว่าสิ่งใดที่เรายังทำได้อยู่ ก็ทำ ยิ่งเป็นงานนะคะ แม่คิดว่างานทุกอย่างมีคุณค่ามีประโยชน์แล้วก็เป็นมงคลกับชีวิต (บทบาทที่รับส่วนใหญ่เล่นเป็นคนดีเรียบร้อย?) ก็เคยพลิกไปเล่นบทร้ายบ้างเหมือนกันค่ะก็มีคนกลุ่มนึงที่เชื่อแล้วชอบว่าเราก็ทำได้นะแซ่บดี แต่ว่าก็จะมีบางคนที่บอกว่าไม่อยากให้เล่น คือมีกัปตันการบินไทยคนนึงเขาบอกว่าคุณดวงใจครับอย่าเล่นเลยผมรับไม่ได้บทร้าย ตอนนั้นเล่นเรื่อง “ปี่แก้วนางหงส์” แล้วอีกเรื่อง “ปีกมาร” เป็นคุณแม่ที่ร้ายเขาก็บอกว่าไม่อยากให้เราเล่นแบบนั้นเลย
l เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพ
ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ เป็นผู้หญิงขี้เกียจไม่ค่อยออกกำลังกาย แต่ว่าเราจะเป็นคนอารมณ์ดีค่ะเป็นคนยิ้มๆ แล้วก็คิดว่าอะไรมันก็ไม่จีรังเกิดขึ้นตั้งอยู่เดี๋ยวมันก็ดับไป เป็นผู้หญิงที่อย่าเอาอย่างนะคะเพราะว่าขี้เกียจไม่เคยออกกำลัง (หัวเราะ) ชอบนั่งเฉยๆ แต่ว่าจะดูเรื่องอาหารอะไรที่กินแล้วมันดีต่อสุขภาพก็จะกินเยอะหน่อย อะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพอยากกินก็กินน้อยหน่อย แล้วก็นอนหัวค่ำตื่นเช้า ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร มีโรคประจำตัวภูมิแพ้บ้างนิดหน่อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนสมัยนี้ไปแล้ว อาจเป็นเพราะใจเราไม่ป่วยด้วยนะไม่เครียด ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหาในชีวิตนะคะ คือมีแต่จะให้มันอยู่กับเราสั้นที่สุด แล้วจะไม่อิจฉาไม่ขุ่นข้องหมองใจกับอะไรนานๆ แต่พูดมาเหล่านี้ไม่ได้เก่งนะคะ สติแตกมาแล้ว
l แง่คิดดีๆ สำหรับการเป็นนักแสดง
ง่ายมากเลย ทุกคนที่เข้ามาซึ่งจริงๆ แล้วทุกคนมีอยู่ในตัวแต่ไม่ได้ดึงออกมาใช้ หนึ่งต้องมีสัมมาคารวะ สองต้องตรงต่อเวลา สามต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ซึ่งมีเด็กมาถามแม่ว่าไม่เข้าใจ ในความหมายของแม่ คือคุณเป็นนักแสดง เป็นดาราเป็นคนสาธารณะดังนั้นคุณต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม กิริยาบางอย่างคุณทำที่บ้านคุณได้ แต่จะมาทำให้เด็กๆเห็นเป็นแบบอย่างไม่ได้ค่ะ แล้วก็ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ อีกอย่างก็คือ คุณเป็นนักแสดงคุณมาวันนี้ต้องรู้ว่าคุณเล่นเป็นอะไร ต้องท่องบทมา ไม่ใช่มาแบบหน้าเหมือนยังไม่ตื่นเลยไม่ได้ ก็เลยอยากจะฝากบอกว่าไม่ได้ยากเลยลูก
ไม่แปลกใจเลยที่เหตุใด แม่อี๊ด-ดวงใจหทัยกาญจน์ จึงเป็นที่รักของคนทั่ววงการบันเทิง รวมทั้งแฟนๆ ทั้งประเทศ
กุหลาบสีเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี