วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เป็นอีกหนึ่งศิลปิน-นักแสดง มากความสามารถ “เอ-พศิน เรืองวุฒิ” ที่รักและเทิดทูนในหลวงไว้เหนือเศียรเกล้า ระลึกถึงพระองค์ท่านเสมอ เวลาที่จิตใจต้องการพลัง และด้วยความภาคภูมิใจที่เกิดในรัชกาลที่ 9 และไม่อาจใช้ตัวอักษรใดๆ บรรยายความรักความรู้สึกและความดีให้ตรงหัวใจได้เลยถ่ายทอดภาพในหลวงจากความรู้สึกเพื่อเก็บไว้สอนลูก ในทุกๆ เรื่องราว นักแสดงหนุ่มกล่าวอย่างซาบซึ้งหัวใจว่า
“ผมเขียนภาพในหลวงเป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์แบบจากแบงก์พันแต่เอาภาพถ่ายมาเทียบ ไม่เคยเขียนรูปพระองค์ท่านมาก่อนเลยครับตั้งใจจะใส่กรอบเก็บไว้ให้ลูกชายสอนด้วยภาพที่มากกว่าตัวอักษรใดๆ บรรยายรูปเล็กๆ เองแต่ละเอียดมากแทบจะใช้แว่นขยายส่องดูลายเส้นได้เลยครับผมจบมาทางศิลปะการออกแบบ จากมหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งแต่ปี 2538 ผ่านงานออกแบบมานับร้อยสิ่งวาดภาพจนดินสอหมดไปนับพันแท่ง แต่ตลอดชีวิตไม่เคยเอื้อมอาจวาดภาพของพระเจ้าอยู่หัวเลยแม้สักหนึ่งภาพ เป็นเพราะมีทัศนคติส่วนตัว ที่เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ยิ่งกว่าชาติ ศาสนา แต่จะระลึกถึงพระองค์ท่านเสมอ “เวลาที่จิตใจต้องการพลัง และความกล้าหาญ เวลาที่ชีวิตต้องใช้ความเพียรพยายาม และทุกเวลาที่ต้องรู้จัก “พอ” ภาพของ “ในหลวง” ที่อยู่ในชีวิตมาตั้งแต่ผมมีชีวิต เป็นยิ่งกว่าศาสดา เหนือยิ่งกว่าโพธิสัตว์ใดๆ ที่ผมนับถือ คำว่า “พระบารมี” ของพระองค์สำหรับผมจึงไม่อาจใช้ตัวอักษรใดๆ บรรยายให้ตรงหัวใจได้ พระองค์ทรงทำทุกสิ่งเพื่อประชาชนที่พระองค์รักและทำให้เราทุกคนต่างรักพระองค์ท่านยิ่งกว่าชีวิตตัวเองเมื่อวันที่ พระราชา คืนสู่สวรรค์ แปรเปลี่ยนสถานะด้วยพระบารมีให้สูงถึงชั้นฟ้า...ผมได้เห็นในปาฏิหาริย์ที่เรียกว่าความจงรักภักดีการช่วยเหลือเอื้อเฟื้อ เสียสละ ของคนไทยที่รักพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 9 เห็นการแสดงออกซึ่งความรักที่มิอาจปิดกั้นจากความเอื้อมอาจใดๆ ระหว่างสามัญชนกับสถาบันกษัตริย์ ผมรีบค้นดินสอแท่งเก่าเท่าที่หาได้เวลานั้นเพื่อเขียนภาพของในหลวง เป็นครั้งแรกในชีวิต เขียนด้วยความรัก ความอาลัยอย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยสำนึกในความดีของพระองค์ แต่เส้นที่เขียนไปนับพันก็เทียบไม่ได้กับสิ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อเราตลอดพระชนม์ชีพของในหลวง ผมไม่ใช่จิตรกรหรือศิลปิน ภาพนี้จึงไม่ใช่ภาพเหมือน และสวยงาม แต่ทรงคุณค่ามากเหลือเกินสำหรับตัวผมและครอบครัว ที่จะบอกเล่าให้ลูกหลานได้รู้ในวันหนึ่งว่า...ครั้งหนึ่งในชีวิตพ่อได้เขียนภาพของพระราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในวันที่ 9 ของการเสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยความภาคภูมิใจที่เกิดในรัชกาลที่ 9 มีวาสนาได้เป็นประชาชนของพ่อ นับต่อจากนี้ ที่เราต่างผ่านความอาลัยอย่างหาที่สุดมิได้ในชีวิต ผมเชื่อว่าสิ่งที่เราจะทำแต่นี้ต่อไป สำหรับลูกพ่อทุกคน ทำในสายตาของพ่อที่มองลงมาจากสวรรค์ คือเราจะทำในสิ่งที่พ่ออยากให้เราทำ และจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี