วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กิดและเติบโตในแผ่นดินไทย ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของราชวงศ์จักรี นักแสดงพระเอกรุ่นใหญ่ “สมบัติ เมทะนี”กล่าวด้วยความปลื้มปีติ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวสุดซาบซึ้งใจเมื่อครั้งที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัลพระสุรัสวดีและชื่นชมพระบารมี“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”
ในวัยเยาว์เมื่อครั้งได้ชื่นชม พระบารมี เจ้าฟ้าทั้ง ๒ พระองค์
ผมเคยแต่ไปยืนอยู่ริมถนนเฝ้าฯรับเสด็จ แล้วผมทันสมัย ร.๘ ด้วยนะครับ ตอนนั้นอายุประมาณเกือบสิบขวบ ได้ไปถวายบังคม ร.๘ “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร” ซึ่งพูดตามภาษาชาวบ้าน คือพระองค์หล่อมาก สมัยก่อนเดิมสำเพ็งจะมีนักเลงตีกันฟันกัน พอ ร.๘ เสด็จฯ ความงามความมีเสน่ห์ของพระองค์ท่านสุดจะพรรณนา ตอนนั้นพระองค์ท่านเสด็จฯไปทั้งสองพระองค์ คือมีในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จฯด้วย คนแซ่ซ้องกันทั้งสำเพ็ง ตั้งแต่นั้นมากลุ่มนักเลงที่ตีกันฟันแทงกัน พวกอั้งยี่ก็ไม่มีอีกเลย ไทยจีนก็เลยเป็นพี่น้องกัน ไม่มีการแบ่งแยก ต่อมาผมได้มีโอกาสติดตามคุณพ่อไปเมื่อครั้งที่ ร.๘เสด็จสวรรคต ได้ไปถวายบังคมพระบรมศพ โดยแต่งชุดลูกเสือไป เพราะตอนนั้นเรียนอยู่สักประมาณ ม.๑ คือคุณพ่อเป็นข้าราชการรถไฟเราเลยมีโอกาสติดตามคุณพ่อไปด้วย หลังจากนั้นพอในหลวงรัชกาลที่ ๙ ขึ้นครองราชย์ ก็ไม่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ เพราะว่ายังเด็กอยู่
.jpg)
ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในหลวงรัชกาลที่ ๙ อยู่เนืองๆ ในฐานะนักแสดง
จนกระทั่งมาเป็นนักแสดง และได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระองค์ท่านตอนที่แสดงภาพยนตร์ โดยได้เข้าถวายความเคารพเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ท่านเสด็จฯทอดพระเนตรภาพยนตร์เรื่องที่สอง ที่ผมแสดงคือ เรื่อง “สกาวเดือน”ตอนนั้นมีโรงภาพยนตร์อยู่ ๓ โรง ที่ติดกันคือ คิงส์, แกรนด์ และ ควีนส์ ภาพยนตร์ที่ผมแสดงเข้าโรงแกรนด์ ผมก็มีโอกาสได้เข้าไปทูลเกล้าฯถวายดอกไม้ให้กับพระองค์ท่าน“พี่แดง” (รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง” ถวายพระหลวงปู่ทวด และมีคนอื่นถวายสิ่งของอีกสองถึงสามคน หลังจากที่ผมทูลเกล้าฯถวายดอกไม้แด่พระองค์ท่านแล้ว พระองค์ท่านก็เสด็จฯไปยังที่ประทับ และผมก็ออกไปร้องเพลงหน้าพระที่นั่งสามเพลง เพลงแรกคือ “สกาวเดือน” เป็นเพลงในภาพยนตร์เพลงที่สองเป็นเพลงฝรั่ง และเพลงที่สามเพลง“สุกี้ยากี้” ซึ่งเป็นเพลงญี่ปุ่นที่กำลังโด่งดังในขณะนั้น นั่นก็คือเป็นครั้งแรกที่ได้ถวายความเคารพพระองค์ท่าน และได้ร้องเพลงถวายพระองค์ท่านด้วยในฐานะนักแสดง สำหรับความรู้สึกตอนนั้น ไม่ได้ประหม่าอะไร เพราะว่าพระองค์ท่านประทับอยู่ด้านบน เราก็ร้องเพลงอยู่ไกลๆ ในหลวงไม่ทรงตรัสอะไร เพราะว่าโดยส่วนใหญ่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จะเป็นผู้กล่าวชม ในหลวงท่านจะทรงยิ้ม และนี่ก็คือครั้งแรกที่ได้ถวายงานต่อมาคือได้รับพระราชทานโล่ที่ระลึกจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่านในงานฟุตบอลการกุศล ซึ่งมีดาราในยุคนั้นลงสนามเตะฟุตบอลมากมาย
.jpg)
ลำดับต่อมาคืองานรวมใจไปสู่แนวหน้าคือทหารกล้าที่ออกไปปกป้องบ้านเมือง โดยมีการจัดงานเพื่อหาเงินช่วยเหลือเหล่าทหารเขาก็ให้ดารามาแสดงโขนแล้วก็ละคร เพื่อเป็นการช่วยหาเงิน โดยกราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทอดพระเนตรด้วย งานจัดขึ้นถึงสองครั้งด้วยกัน ในภาพคือเป็นครั้งที่สองนะครับ ครั้งแรกผมเล่นเป็นเจ้าเงาะ ครั้งที่สองเล่นเป็นพระราม ในภาพจะเห็นว่ามี “คุณพิศมัย วิไลศักดิ์” และนางเอกที่เกิดใหม่อีกหลายคนในยุคนั้นเข้าเฝ้าฯด้วย แล้วพระองค์ท่านก็พระราชทานของที่ระลึกให้กับนักแสดงทุกคน ที่ผมยิ้มในภาพนั้น จำไม่ค่อยได้แล้วเหมือนกันว่าเราพูดอะไรนะครับ คือในการที่จะกล่าวอะไรต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์ท่านนั้นรู้สึกว่าเบลอไปหมดเลย ตื่นเต้น ไม่รู้ว่าท่านตรัสหรือว่าท่านถามอะไร เราก็พูดอะไรนี่คือจับใจความไม่ได้เลย คนที่อยู่ข้างๆ วันนั้นเขาก็มาทักในภายหลังว่าพี่แอ๊ดพูดว่าอะไรมิตซูบิชิๆอะไร (ยิ้มปลื้ม) คือจับใจความอะไรไม่ได้เลย ด้วยความตื่นเต้นก็เลยเห็นแต่รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความปลื้มปีติ
และหลังจากที่ได้รับตุ๊กตาทองก็เป็นอันยุติไปเลยที่พระองค์ท่านจะพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทองนี้ด้วยพระองค์เองที่สวนอัมพรไม่มีอีกแล้ว
.jpg)
กับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจอันสูงสุดในชีวิต
สำหรับรางวัลพระสุรัสวดีหรือว่า ตุ๊กตาทอง ผมได้รับจากภาพยนตร์เรื่อง“ศึกบางระจัน” นางเอกในเรื่องคือ “คุณเนาวรัตน์วัชรา” ก็ได้รับด้วย เป็นความภาคภูมิใจอย่างหาที่สุดมิได้สำหรับผมมาก และในภาพจะเห็นว่าตุ๊กตาทองตัวใหญ่มาก เราไม่ทันได้นึกครับว่าจะมีน้ำหนักมากขนาดนี้ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้เราโดยพระหัตถ์ข้างเดียว วินาทีนั้นความรู้สึกของผมคือตื่นเต้นไปหมด ไม่กล้าแม้แต่จะมองพระพักตร์ของพระองค์ท่าน ทั้งที่เราก็เคยเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทและถวายงานพระองค์ท่านมาแล้วหลายครั้ง
.jpg)
ความปลื้มปีติเกินที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบได้
การที่ผมได้เข้าเฝ้าฯชื่นชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในหลายๆ ครั้งก็ได้รับความปลื้มอกปลื้มใจมากในทุกครั้ง เราเห็นพระพักตร์ของทั้งสองพระองค์แล้วเราก็ปลื้มใจแล้ว นอกจากนี้ผมก็ยังมีโอกาสได้รับพระราชทานรางวัลจากพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ ได้รับรางวัลพ่อตัวอย่างแห่งชาติปี ๒๕๕๕ รางวัลจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ ก็มีมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นความภาคภูมิใจให้กับตัวผมและครอบครัวเป็นอย่างมาก เราเป็นหนึ่งในจำนวนไม่มากคนนักที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระองค์ท่าน นับว่าเป็นสิ่งสูงสุดแล้วในชีวิต พระองค์ท่านเป็นเทพเจ้าของเรา เราได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านก็มีความรู้สึกตื่นเต้นขนลุกประหม่าไปหมด พูดจาไม่รู้เรื่อง ในหลวงท่านทรงมีพระบารมีที่สูงส่งมาก พอไปใกล้เราจะประหม่าในทันที
.jpg)
พระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ประทับอยู่ในหัวใจ
ทุกครั้งที่ได้เข้าเฝ้าฯพระองค์ท่าน ผมยังจำอากัปกิริยาเหล่านั้นได้เสมอ คือพระองค์...ไม่มีอีกแล้ว เราไม่มีอีกแล้วเรานึกถึงท่านแล้วก็... (กับคำถามนี้ ความเงียบก็เริ่มผ่านเข้ามา หยาดน้ำตาจากนักแสดงรุ่นใหญ่ ค่อยๆไหลลอดผ่านแว่นตาออกมา สลับกับน้ำเสียงที่สั่นเครือ) ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนะครับ เราขาดร่มโพธิ์ร่มไทร ที่พอนึกถึงพระพักตร์ของท่านแล้ว ผมตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก เราเกิดมาในพระบรมโพธิสมภารของพระองค์ ซึ่งไม่มีอีกแล้ว ไม่มีอีกแล้วผลงานต่างๆ ที่ท่านได้ทำให้แก่ราษฎรของพระองค์ เกินที่จะกล่าว มีอยู่ครั้งหนึ่งได้เห็นท่านลุยน้ำซึ่งน้ำสูงเลยเข่า แต่เจ้าประคุณเอ้ย พระองค์ทุ่มเทขนาดนี้เลยนะ
ที่ยังจำได้อยู่ก็คือที่พระองค์ท่านแนะนำเรื่องคอเสื้อเชิ้ต ถ้ามันขาดตรงคอข้างในก็อย่าเพิ่งไปทิ้งให้กลับคอซะ เอาตรงที่ดีออกแล้วเย็บใหม่ อย่าเพิ่งไปทิ้งมัน ใส่จนกว่าจะขาด แล้วถ้าขาดก็ตัดคอมันออกทำเป็นคอจีนไปเลย นี่คือที่เราฟังท่านรับสั่ง หรือว่ารองเท้าขาด ก็อย่าไปทิ้งต้องซ่อมมัน เปลี่ยนพื้นใหม่ นี่คือที่เราจดจำน้อมนำมาปฏิบัติตามอยู่ในเวลานี้ ส่วนเรื่องความดีเราปฏิบัติอยู่แล้วคือเราไม่ได้ไปเหลวไหล และคุณพ่อผมท่านก็เป็นนักรบ เป็นข้าราชการรถไฟท่านผ่านมาแล้วสามศึก ได้สู้รบ ตัวผมเองก็เป็นทหารเหมือนกันนะ เพราะว่าไม่ได้เรียน รด.ครบ ตามกำหนด เราเล่นกีฬารักบี้ ฟุตบอล บาสเกตบอล เป็นนักกีฬาโรงเรียนก็เลยขาดการเรียนไป ได้เรียน รด.แค่สองปีเลยต้องสมัครเป็นทหารม้ายานเกราะ เป็นทหารอยู่หกเดือน ก็เป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินอีกทางหนึ่ง
.jpg)
และในความที่เราเป็นพระเอก ผมก็ได้ช่วยเหลือเลี้ยงดูเด็กๆ ที่เขาขาดทุนทรัพย์มาแล้วไม่รู้เท่าไหร่ ไม่มีค่าเล่าเรียนส่งค่าเทอมกันไป ความเมตตาเป็นคุณสมบัติที่เราติดอยู่เพราะไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อหรือว่าคุณย่าก็ดีท่านต่างมีจิตเมตตาทั้งนั้นนะครับ ทั้งที่ก็ไม่ใช่คนรวยนะ คนธรรมดานี่แหละ แต่ว่าทำเท่าที่เราพอจะช่วยเขาได้ และอย่าลืมว่าต้องรู้จักกตัญญูกตเวทีกับพ่อแม่ ครูบาอาจารย์นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก คืออย่าลืมบุญคุณคนที่เขาสร้างเรามา คนเหล่านั้นเราต้องถนอมเขารักเขาที่สุดและต้องไม่ลืม ต้องตอบแทนบุญคุณ ความกตัญญูรู้คุณเป็นธรรมอันประเสริฐที่มนุษย์ใช้อยู่
ความในใจถึงลูกหลานไทย ในวันที่ไม่มีพระองค์ท่านแล้ว
ตอนนี้เราเหมือนขาดร่มโพธิ์ร่มไทรแล้วนะ ขาดจริงๆ อยากให้ทุกคนหยุดทะเลาะกัน จะยอดเยี่ยมมากหากว่าพวกเราจะไม่ทะเลาะกัน ความรักความสามัคคีของคนในชาติจะต้องเกิดจากตรงนี้ก่อน นักเรียนนักศึกษาอย่ายกพวกตีกันเลย คือจะเล่าให้ฟังนะครับว่าเมื่อก่อนผมเคยเรียนที่อุเทนถวายมีเพื่อนช่างกล เพื่อนรักกันเลยนะ แต่เราไม่มีการตีกันเลย มันอยู่ที่ฝีปากและการอบรมของอาจารย์ใหญ่ของทั้งสองสถาบันด้วย คืออาจารย์จะพูดถึงความรักความสามัคคีระหว่างสถาบันต่างๆ ซึ่งเราก็ไม่มีการตีกันเลยรักกันมากๆ ผมอยากให้เด็กนักเรียนต่างสถาบันหันมารักและสามัคคีกัน เพื่อที่บ้านเมืองเราจะได้เจริญ ไม่ใช่มานั่งขุ้นแค้นกัน นี่คือสิ่งที่อยากจะพูดเหมือนกัน แล้วตอนนี้ดีใจมากดีใจที่สุด ที่มีนักเรียนอาชีวะได้ปฏิญาณตนว่าจะเลิกทะเลาะกัน โอ้โห... นี่ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีมากของการศึกษา อยากให้เขารักกันไม่อยากให้เขามาตีกัน ฆ่ากันอีกต่อไปในฐานะที่เคยเป็นนักเรียนอาชีวะมาก่อนนะครับ
.jpg)
รัก ปกป้อง และเทิดทูน ไว้อย่างสูงสุด
คงไม่มีอะไรที่จะพูดมากไปกว่านี้ได้แล้วนะครับ เพราะว่าพระองค์ท่านอยู่ในหัวใจเราเสมอ เราให้ความรักให้ความบูชาท่านตั้งแต่ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ปกครองประเทศไทยนี้ ผมคิดว่าไม่มีใครอีกแล้วที่จะเสมอเหมือนท่าน เราจะเจ็บใจทุกครั้งถ้าหากมีคนมาว่าท่าน เราจะปวดร้าวไปด้วย โดยที่เราคิดว่าไอ้บ้าพวกนี้มันอะไรกันนะ มันรู้จักท่านหรือเปล่า มันไปว่าท่านได้ยังไง คนเหล่านี้พวกชิงหมาเกิด ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐที่สุดแล้ว ท่านทำความดีผลงานของท่านมากมายเป็นอเนกอนันต์ไม่มีที่สิ้นสุด ท่านเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของคนไทย ทั่วโลกทุกชาติเขาก็ให้ความรักเคารพท่าน แล้วพวกนี้จะอะไรกัน มาบริภาษอะไรท่าน ถ้าเผื่อเราอยู่ตรงนั้นนะครับ รับรองมีเรื่องแน่ เห็นแก่ๆ อย่างนี้ก็เถอะ
และนี่ก็คือความในใจจากพระเอกรุ่นใหญ่ ขวัญใจชาวไทย “สมบัติ เมทะนี”ที่มีต่อพ่อของแผ่นดิน
กุหลาบสีเงิน
.jpg)
.jpg)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี