วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
จัสติน บีเบอร์ ชกหน้าแฟนเพลงในบาร์เซโลนา
ผ่านมาได้สักระยะหนึ่งแล้วที่ จัสติน บีเบอร์ ไม่มีข่าวฉาวออกมาให้หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ได้ตื่นเต้น จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีข่าวว่านักร้องหนุ่มทำร้ายร่างกายแฟนเพลงคนหนึ่งที่บาร์เซโลนา ด้วยการชกเข้าที่หน้า
ก่อนที่จะตัดสินว่าบีเบอร์ทำตัวเลือดร้อนอีกครั้ง ก็มีผู้ถ่ายภาพวีดีโอเหตุการณ์ครั้งนั้นเอาไว้ได้ โดยจากวีดีโอเห็นได้ชัดว่านักร้องหนุ่มกำลังนั่งเพลินๆ อยู่ในรถที่เปิดหน้าต่าง โดยคนขับรถกำลังขับออกไป ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของแฟนเพลงจำนวนมาก ก่อนที่ผู้ชายคนหนึ่งจะเดินเข้ามาประชิดรถด้านที่บีเบอร์นั่งอยู่ และแหย่มือเข้าไปหานักร้องหนุ่มแบบไม่ยอมปล่อย พร้อมกับวิ่งตามรถไปด้วย
ไม่มีใครเห็นว่าบีเบอร์คิดอะไรอยู่ แต่ที่ทุกคนเห็นคือมือของบีเบอร์ได้ชกเข้าไปที่หน้าของแฟนเพลงคนดังกล่าวเข้าอย่างจัง ทำเอาชายคนนั้นถึงกับเลือดกบปาก ก่อนที่รถของนักร้องหนุ่มจะถูกขับออกไป
งานนี้หลายคนเข้าข้างบีเบอร์ โดยแก้ตัวแทนเขาว่าเขาทำไปเพื่อป้องกันตัวเอง เนื่องจากนักร้องหนุ่มน่าจะตกใจกับการกระทำดังกล่าว และทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ต่างจากตอนที่เขาทำร้ายช่างภาพปาปาราซซีในปารีสเมื่อสองสามปีก่อน ซึ่งอันนั้นเป็นผลมาจากที่นักร้องหนุ่มโกรธที่ถูกแอบถ่ายรูปนั่นเอง
.jpg)
เซลีนา โกเมซ กับบทสัมภาษณ์แรกหลังเข้ารับการบำบัด
เกือบสองเดือนที่ผ่านมา นักร้องสาว เซลีนา โกเมซ ได้เข้ารับการบำบัดเพื่อรักษาอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล ที่รัฐเทนเนสซี่ โดยเธอเคยกล่าวว่ามันเป็นผลมาจากที่เธอเป็นโรคลูปัส หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง และตอนนี้เธอได้กลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง โดยนักร้องสาวปรากฏตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานประกาศรางวัลอเมริกัน มิวสิค อวอร์ดส์ เมื่ออาทิตย์ก่อน
โกเมซได้ขึ้นรับรางวัลนักร้องหญิงยอดนิยมสาขาเพลงป๊อป/ร็อก โดยเธอกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีมีใจความตอนหนึ่งว่า“ฉันต้องหยุด เพราะฉันมีทุกอย่างแล้วและฉันก็รู้สึกแตกสลายอยู่ภายใน ฉันเก็บมันเอาไว้มากพอจนฉันไม่อยากทำให้พวกคุณต้องผิดหวัง แต่ฉันเก็บมันไว้มากเกินไปจนทำให้ตัวฉันต้องผิดหวังเสียเอง”
หลังจากนั้นเธอก็ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่งถึงการบำบัดว่า “เราไปเดินป่ากัน เรามีเครื่องพิลาทิสด้วย ฉันได้นอนบนเตียงเรียกเหงื่อที่มีหน้าตาเหมือนบูริโต้ที่ฉันห่อตัวเองเอาไว้ข้างใน และฉันก็นอนให้เหงื่อออกสัก 45 นาที มันเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆที่ทำให้ฉันสุขภาพดีขึ้น และทำให้ฉันมีสมาธิขึ้น”
นักร้องสาวกล่าวต่ออย่างติดตลกอีกด้วยว่า เธอได้สระผมนานๆ ครั้ง “รู้สึกเหมือนกับว่าทุกๆ สามวันนะที่ฉันได้อาบน้ำ เอ้ย..ไม่ใช่อาบน้ำ...สระผม ฉันอาบน้ำทุกวัน เฮ้ อย่ามาตัดสินกันนะ ที่นั่นมันปลอดภัย” โกเมซกล่าว
นอกจากนี้ การบำบัดยังทำให้เธอตระหนักได้ว่า คนเราไม่ควรจะต้องแต่งหน้าทุกวัน “ฉันไม่เข้าใจเลย...ไม่ได้ว่านะ...แต่ทำไมคนเราต้องแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลา แล้วก็บอกว่า โอ้ คุณสามารถนอนหลับไปพร้อมๆ กับทามอยซ์เจอไรเซอร์แบบมีสี หรือสเปรย์สีแทนบนใบหน้า และคุณก็ตื่นขึ้นมาได้ สำหรับฉันนะฉันคิดว่านั่นไม่ใช่ฉันเลย นอกจากนี้ฉันเป็นคนมีสิวด้วย ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นคำแนะนำที่แย่หรือเปล่า...สำหรับฉัน ฉันไม่สามารถจะนอนหลับได้โดยมีอะไรก็ไม่รู้อยู่บนตัว หรือมีอะไรสีๆ ทาอยู่เพราะฉันจะกังวลมาก” นักร้องสาวกล่าวทิ้งท้าย
.jpg)
คานเย เวสต์ ถูกหามส่งโรงพยาบาลด้วยอาการทางจิต
ทำเอาทุกคนตกอกตกใจเมื่อแร็พเปอร์ชื่อดัง คานเย เวสต์ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเมื่ออาทิตย์ก่อน โดยว่ากันว่าเป็นเพราะเขามีอาการเหนื่อยอ่อน พร้อมกับข่าวลือว่าเวสต์อาจกำลังมีปัญหาทางจิตด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่าเวสต์ได้ทำร้ายร่างกายพนักงานในฟิตเนสแห่งหนึ่ง ก่อนถูกคุมตัวส่งโรงพยาบาล แถมเขายังถูกใส่กุญแจมือและมัดไว้กับเตียงผู้ป่วย เพื่อไม่ให้ไปทำร้ายร่างกายใครได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นิตยสารฉบับหนึ่งได้ออกมาหักล้างข่าวลือดังกล่าว โดยบอกว่าเวสต์ไม่ได้ถูกจับหรือใส่กุญแจมือแต่อย่างใด การทะเลาะเบาะแว้งนั้นอาจเกิดขึ้นจริง แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ในตอนนี้ หลายฝ่ายต่างมุ่งประเด็นไปที่สาเหตุแห่งการสติแตกของแร็พเปอร์ชื่อดัง โดยก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเวสต์มีปัญหาไม่ทางร่างกายก็จิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการที่เขาเหน็บแนม บิยอนเซ่ บนเวทีคอนเสิร์ต ก่อนจะจบการแสดงของตัวเองหลังจากร้องไปได้แค่สามเพลง พร้อมทั้งยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตทั้งหมดที่เหลือ หรือการที่เขาสติแตกที่ฟิตเนส ก่อนจะถูกคุมตัวให้อยู่ในการดูแลของแพทย์
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวใกล้ชิดของเวสต์ออกมาปกป้องเขาว่า แร็พเปอร์หนุ่มเพียงแค่พักผ่อนไม่พอ และได้เข้ารับการรักษาตัวตามคำแนะนำของแพทย์ส่วนตัวเท่านั้นเอง
.jpg)
คริส แพรตต์ และ แอนนา ฟาริสถูกฟ้องฐานละเลยสัตว์เลี้ยง
กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของอเมริกานั้นแรงใช่ย่อย และเมื่อคู่รักนักแสดงอย่างคริส แพรตต์ และ แอนนาฟาริส ออกอาการไม่สนใจ ปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ทางการสหรัฐอเมริกาก็ไม่รอช้า ตั้งข้อหากับทั้งสองทันที
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อฟาริสรับเลี้ยงสุนัขมาตัวหนึ่งเมื่อราว4 ปีก่อน โดยเธอตั้งชื่อมันว่าพีท โดยตอนนั้น ดาราสาวได้เซ็นสัญญากับผู้ประสานงานศูนย์ให้ความช่วยเหลือสัตว์ว่าเธอยินดีที่จะจ่ายค่าปรับ 5,000 เหรียญสหรัฐ หากเธอเอาสุนัขตัวนี้ไปให้กับคนอื่น
แต่เมื่ออาทิตย์ก่อน มีผู้พบเห็นสุนัขตัวดังกล่าวเดินเร่ร่อนอยู่บนถนนที่นอร์ท ฮอลลีวู้ดในสภาพผอมกะหร่องอย่างน่ากลัว หลังจากตรวจที่ไมโครชิพที่ฝังไว้ก็พบว่าสุนัขตัวนี้คือพีท ที่มีแพรตต์และฟาริสเป็นเจ้าของ โดยทั้งสองไม่อยู่ในเมือง และตัวแทนของทั้งสองก็บอกว่า ดาราทั้งคู่ได้จัดการส่งสุนัขตัวนี้ให้กับคนอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากทั้งสองพบว่าพวกเขาไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกต่อไป
งานนี้ยังไม่มีใครทราบว่าทำไมฟาริสและแพรตต์ถึงกล้าฝ่าฝืนข้อตกลง และทั้งสองได้จ่ายเงินให้กับทางศูนย์แล้วหรือไม่ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของดาราทั้งคู่ที่ต้องเจอกับปัญหาเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 แพรตต์เองเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์มาแล้ว เมื่อเขาพยายามจะยกแมวอายุ 15 ปีของเขาให้กับคนอื่นทางทวิตเตอร์
บรรดาคนรักสัตว์ต่างตำหนิดาราหนุ่มเป็นการใหญ่ โดยแพรตต์ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะเขาอยากสร้างครอบครัว และคิดว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่จะเลี้ยงแมวและเลี้ยงลูกไปพร้อมๆ กัน
.jpg)
แบรด พิตต์ พ้นข้อกล่าวหาทำร้ายลูก
สองสามเดือนที่ผ่านมาไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนักสำหรับ แบรด พิตต์ เพราะนอกจากที่ทั่วโลกจะจับตามองเรื่องการหย่าร้างของเราจากอดีตภรรยา แองเจลินา โจลี แล้ว พระเอกหนุ่มยังตกเป็นเป้าการสอบสวนเรื่องการทำร้ายร่างกายลูกจากเอฟบีไอ ทำให้ในบางครั้ง เขาไม่ได้เจอหน้าลูกๆ เป็นอาทิตย์ๆ
ตอนนี้โจลีได้รับสิทธิ์การเลี้ยงดูบุตรทางด้านร่างกายแต่เพียงผู้เดียว และกว่าที่ทั้งสองจะตกลงกันในเรื่องการเลี้ยงดูบุตรแบบถาวรได้ ดูเหมือนว่าพิตต์จะยังคงถูกปิดกั้นไม่ได้ได้เจอกับลูกๆ เป็นการชั่วคราวไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ยังคงพอมีข่าวดีอยู่บ้างสำหรับพิตต์ เมื่อทางเอฟบีไอได้ออกมาประกาศยุติการสอบสวนเรื่องการทำร้ายร่างกายบุตรของพระเอกหนุ่ม และไม่ได้ตั้งข้อหาพิตต์แต่อย่างใด แม้จะยังไม่มีใครทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงที่เขาได้มีปากเสียงกับลูกชายคนโตอย่าง แมดด็อกซ์ จนทำให้โจลีย้ายออกจากบ้าน และฟ้องหย่าในที่สุด
งานนี้ดูเหมือนพิตต์จะยังพอกู้ชื่อเสียงคืนกลับมาได้บ้าง โดยเอฟบีไอได้ประกาศว่า “เพื่อเป็นการตอบสนองต่อข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบินด้วยเครื่องบินพิเศษที่บินอยู่เหนือน่านฟ้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ลงจอดที่ลอส แองเจลิส นำพามิสเตอร์ แบรด พิตต์ และลูกๆ ของเขา เอฟบีไอได้ดำเนินการตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้ว และจะไม่ทำการสืบสวนอื่นใดต่อไป ไม่มีการตั้งข้อหาต่อใครในเรื่องนี้”
.jpg)
ลินด์เซย์ โลฮาน วิจารณ์ อาเรียนา แกรนเด แต่งหน้าจัด
ใครๆ เขาก็รู้ทันกันแล้วว่า ลินด์เซย์ โลฮาน มักจะอาศัยความเป็นเกาเหลาของเธอกับดาราคนอื่นๆ ในการทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้เกาเหลาชามนั้นตกเป็นของนักร้องสาว อาเรียนา แกรนเด
เมื่อเร็วๆ นี้ แกรนเดโพสต์ภาพของเธอและเพื่อนลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งภาพนั้นก็ดูดีไม่มีอะไร จนกระทั่งโลฮานมาคอมเมนต์ว่า “แต่งหน้าจัดเกิน”
แม้ว่าแกรนเดจะดูเหมือนไม่สนใจ และไม่ออกมาตอบโต้อะไรกับดารารุ่นพี่คนนี้ แต่แฟนๆ ของเธอกลับอดรนทนไม่ได้ ออกมาปกป้องนักร้องสาวทันทีด้วยการคอมเมนต์ตอบโต้โลฮานอย่างรุนแรง
ต้องบอกว่าชีวิตของโลฮานกลับมามีปัญหาอีกครั้ง หลังจากที่เธอเลิกกับแฟนหนุ่มขี้โมโหที่ชอบทำร้ายร่างกายอีกอร์ ทาราบาโซฟ ชีวิตดาราสาวกลับไม่ดีขึ้นเลย นอกจากเธอจะคอยแต่หาเรื่องคนดังคนอื่นๆ ไปวันๆ เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้จัดการส่วนตัวของเธอยังขอถอนตัว และออกมาประณามดาราสาวอย่างรุนแรง ถึงพฤติกรรมคุ้มดีคุ้มร้าย และชอบทำตัวเป็นนางพญาของเธอ เป็นการยากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับโลฮานในการที่จะกลับมาเจิดจรัสในวงการบันเทิงอีกครั้ง จนถึงตอนนี้ ดาราสาวก็ยังไม่มีผลงานอะไรเข้าตาเป็นชิ้นเป็นอัน ตรงข้ามกับข่าวฉาวที่มีมากเป็นระลอกๆ
Quote
.jpg)
ชีวิตเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ในท้ายที่สุด ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสที่คุณได้เจอจะกลายเป็นกำลังอันยิ่งใหญ่ของคุณเอง
ดรูว์ แบร์รี่มอร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี