หนุ่มร่างท้วม กับเสียงร้องที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์ ป๊อป-ปองกูล กลับมาอีกครั้งในซิงเกิ้ลใหม่แนวโซลร็อก ที่ชื่อว่า “ภาพจำ” โดยเป็นการร่วมงานกันอีกครั้งกับ “บอล อพาร์ตเม้นต์คุณป้า” โปรดิวเซอร์ทีมเก่าที่เคยทำเพลง “ปล่อย” จนประสบความสำเร็จมาแล้ว ด้าน MV ก็ได้ผู้กำกับมือดี “จิม-โสภณ ศักดาพิศิษฎ์”มาถ่ายทอด จน MV พุ่งขึ้นอันดับหนึ่ง ทันทีที่ปล่อยให้ชมทางLine TV ส่วนช่องทางปกติ รอชมกันได้ 9 มีนาคมนี้ ทางYoutube, iTunes, Joox, Spotify และความเคลื่อนไหวที่ FB :whitemusicrecord ... และวันนี้นอกจาก “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” จะได้ล้วงลึกถึงงานใหม่ของหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้ยังได้มีโอกาสตีซี้กับ “แอ้ม-อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์”นักแต่งเพลง ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ด้วยอีกคน
เล่าเรื่อง “ภาพจำ”
ป๊อป : ช่วงก่อนหน้านี้ ผมอยากมีเพลงสนุกๆ ไว้เพื่อเล่นคอนเสิร์ต จึงมีเพลง “กำนันทองหล่อ” ออกมา ครั้งนี้เลยลองคิดไอเดียใหม่ๆ จนมีโอกาสได้คุยกับ น้องแอ้ม (อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์) นักแต่งเพลง ก็เล่าว่าเราชอบเพลงที่บรรยากาศดี เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงแรกที่ทุกอย่างเป็นภาพเดียวกันหมด ตั้งแต่การเริ่มทำเนื้อเพลง ทำนอง MV หรือว่าวิธีการคิดตอนที่ร้อง เพราะว่ามันได้แชร์ไอเดียตั้งแต่ต้น ถึงแม้ภาพแรกที่ผมคุยกับแอ้ม จะไม่ใช่ภาพที่อยู่ใน MV แต่มันเป็น mood and tone เดียวกัน คือเพลง “ภาพจำ” เล่าถึงคนคนหนึ่งที่ความทรงจำถูกเขียนทับตลอด กับอีกคนหนึ่งไม่มีความทรงจำใหม่ๆ เลย เราก็คิดโง่ๆ ว่าใครที่มันไม่มีความทรงจำใหม่ๆ ได้บ้าง และก็นึกถึงคุก ตอนนั้นมองว่า MV ต้องเป็นแบบแหกคุก พวกหนังโบราณๆ อะไรประมาณนี้ แต่เรามองว่าจะวางลงพื้นฐานของความโรแมนติก คือคนคนหนึ่งที่จะแหกคุกเพื่อความรัก โดยส่วนตัวคิดว่ารักมันต้องมีความหมายมากพอสำหรับเขา และพอโยนไปให้แอ้มเขาก็เขียนกลับมาและได้ทุกอย่างที่ complete เรารู้สึกชอบเพลงที่ไม่ได้ว่าใคร คือเพลงนี้ถึงแม้ว่าทำมาแล้วจะมีบุคคลที่สาม หรือใครก็แล้วแต่ สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าการ move on มันมีความผิดกับเราหรือตัวคนอื่น ซึ่งแอ้มเขียนมาไว้ตรงนี้หมดจด ว่าเขาก็ไม่ได้ว่าใคร ในวิธีการถ่ายทำ ผู้กำกับ จิม (โสภณ ศักดาพิศิษฎ์) เขาก็พูดถึงว่าอยากข้ามเวลาให้มันเยอะ แต่ว่าในหลักความเป็นจริงแล้วมันก็ทำได้ยาก คือสมมุติว่าข้ามเวลาไปเยอะ ตัวลิงค์ที่เป็นผู้ชายกับผีจะดูห่างไปทันที แล้วจะดูแบบลืมง่ายทันที เพราฉะนั้นผู้หญิงคนนี้ก็เลยเข้ามาเร็วในหลักการของหนัง”
ในมุมของคนแต่งเพลง
แอ้ม : ตอนที่พี่ป๊อปเล่ามาก็คิดถึงบรรยากาศก่อน ว่าอยากจะได้เพลงที่ดูมีทั้งท่อนเมโลดี้หรือว่าดีไซน์ร้องที่ต่างออกไป และก็ท่อนฮุกที่ฟังง่ายๆ ผ่อนคลาย และก็คิดว่าพี่ป๊อป ปกติเขาจะดูเป็นคนใจเย็น อารมณ์ดี ดูไม่แค้น ก็เลยรู้สึกว่าเพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่ เศร้าแต่ก็เข้าใจ ซึ่งจริงๆ ตอนแรกที่พี่ป๊อปเล่ามา ก็จะเห็นภาพชัดมาก แต่พอมานึกๆ ดูก็คิดว่ามันจะไกลตัวหรือเปล่า แต่พอมาคิดดูจริงๆ ชีวิตของคนแทบทุกคู่ที่เลิกกันไป จะต้องมีคนหนึ่งที่อยู่ใน mood นี้ คือตอนที่อีกคนหนึ่งเขามีคนใหม่ไปก่อนเราแล้ว และเรายังไม่มี มันจะต้องมีคนหนึ่งที่โดนเพลงนี้ในสองคน ก็คือเหมือนในทุกๆ การเลิกกันจะต้องมีคนหนึ่งที่โดนลืมไปก่อน แล้วมันก็จะเจ็บ ซึ่งคือจริงๆ แล้ว เพลงนี้ก็จะแทนความรู้สึกของคนที่เรายังลืมไม่ได้ เรายังยึดติดอยู่ แต่ว่าอีกคนหนึ่งเขาลืมเราไปแล้ว ถ้าได้ไปดู MV จะมีการขยายความไปอีกว่า เขาลืมเรายังไง ลบเราออกไปยังไงบ้าง แต่เรายังไม่ลืมเราก็จะเจ็บ ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆ ก็ไม่อยากให้คนอยู่ในโมเมนต์นี้นานหรอก มันไม่ดี มันเจ็บ แต่ว่า มันก็แทนความรู้สึกตอนนั้นที่แบบยังทำใจไม่ได้ ตอนที่เขียนเพลงนี้ระหว่างขับรถ ก็รู้สึกเศร้าไปด้วยเช่นกัน
ดีไซน์การร้องที่เปลี่ยนไป
ป๊อป : ผมไม่ค่อยได้ร้องอะไรแบบนี้ เพลงนี้เป็นโทนใหม่ แต่ว่าโชคดีที่แอ้มไปคุมร้องด้วย จริงๆ แอ้มร้องไกด์มาให้เห็นภาพอยู่แล้ว แต่บางทีเราควบคุมตรงนั้นได้ไม่ดีพอ แต่ถ้าแอ้มไปอยู่ตรงนั้นก็จะบอกได้ว่าตรงนี้เป็นแบบนี้ อะไรยังไง คือคนที่แต่งเพลง และร้องเพลงได้ มันช่วยศิลปินได้เยอะเลย เขาจะรู้วิธีการร้อง แบบนี้ต้องร้องยังไง ต้องใช้ฟิวส์ไหน หรือว่ามันจะต้อง groove ยังไง ซึ่งตรงนี้แอ้มทำมาครบเลย ทั้งเขียน ร้อง ทำนอง ทั้งร้องไกด์มาและคุมร้อง ซึ่งผมรู้สึกว่าทำงานง่ายขึ้นเยอะ คือจริงๆ เพลงนี้ตอนแรกนึกว่าจะอัดนานกว่านี้ เพราะว่าตอนแรกแอ้มวางหมากไว้แบบคีย์สูงกว่านี้อีก และเราอัดในช่วงที่ผมทำงานค่อนข้างเยอะ เสียงจะใช้ไม่ได้พอผมรู้ว่าจะอัดเพลงนี้ ทำงานเสร็จรีบกลับไปนอนตุนเลย วันที่ไปอัดไกด์นี่ เสียงแบบเละเทะเลย แต่พอวันที่ร้องจริง ค่อยดีขึ้นมาหน่อยเลยออกมาใช้ได้ครับ
แอ้ม : ปกติแอ้มจะฟังเพลงพี่ป๊อปเยอะ ทั้งเพลงช้าและเพลงเร็ว เวลาที่จะแต่งเพลง ก็จะไปฟังมาก่อนว่านักร้องคนนี้ เขามีเสียงแบบไหนบ้าง ที่เราอยากให้เขาเอามาใช้ในเพลง ส่วนเรื่องคีย์ วันนั้นเข้าไปคุยกับทางโปรดิวซ์เซอร์ด้วย คุยกันว่าอยากได้อารมณ์ที่มันบีบคั้นหน่อยไหม ถ้าอยากบีบคั้น ก็เอาขึ้นไปอีกคีย์หนึ่ง แต่ถ้าเกิดไม่อยากบีบมาก ก็เอาลงมาคีย์หนึ่ง ซึ่งพี่ป๊อปก็ลองร้องดูทั้งสองแบบ สุดท้ายแล้วมันมาลงตัวแบบที่ไม่ต้องเค้นมาก จะเพราะกว่า เลยเลือกเป็นอันนี้ แต่ว่าจริงๆ พี่ป๊อปก็ร้องได้ แต่เราก็ยังไม่ละเว้นการโชว์สกิลเพราะว่าท่อนสุดท้าย ยังแอบขึ้นไปอีกคีย์หนึ่งอยู่ดี เพราะว่าความรู้สึกแอ้มคือพี่ป๊อปเขาเก่ง ส่วนในด้านของการสื่ออารมณ์ จุดที่เด่นที่สุดของพี่ป๊อปเลยคือ การสื่ออารมณ์ของเขา เขาเป็นคนที่เวลาร้องเพลงจะรู้สึกเหมือนจริงมาก เหมือนกับเขามาพูดกับเราด้วยความจริงใจ แอ้มรู้สึกอย่างนั้นทุกเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงบวกหรือลบ คือฟังดูเหมือนพี่ป๊อปมาคุยด้วย เชื่อว่าด้วยอารมณ์การใช้เสียงของพี่ป๊อป จะทำให้คนฟังเข้าใจว่าคนนี้เขาอยู่ในอารมณ์แบบไหน วันอัดเพลงเราไปอัดกันที่บ้าน “พี่ต้น silly fools” พี่ต้นก็ชมว่าพี่ป๊อปร้องเพลงเพราะ แต่พี่ป๊อปไม่รู้ เพราะเข้าไปอัดเสียงอยู่ข้างใน
ป๊อป : จริงๆ ผมพยายามไม่เน้นมันจนเกินไป แค่ให้มันเห็นภาพ เคยมีบางเพลงที่รู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่เราเค้นมันมากเลย รู้สึกกับมันทุกอย่าง ทุกตัวโน้ต แต่พอร้องมาแล้วมันดูประดิษฐ์ หลังๆ เลยใช้วิธีการที่พยายามดึงตัวเองให้อยู่ในโมเม้นต์ ใน Mood นั้น แค่นั้น ไม่ต้องพยายามแสดงออกมามาก ไม่ต้องเป็นนักแสดง รู้สึกกับมันแค่ไหนก็เอาออกมาแค่นั้น
เหตุที่ต้องเป็น “จิม-โสภณ”
ป๊อป : เริ่มจากการหาผู้กำกับที่จะเล่าเรื่องแหกคุก(หัวเราะ) เลยมานั่งคิดว่าโปรดักชั่นมันต้องใหญ่แน่เลย แล้วรู้สึกว่าบางครั้ง เวลาที่เราเลิกกัน ฝั่งเราเป็นเหมือนวิญญาณที่คอยตามเขาอยู่คอยเช็ค คอยดูเฟซบุ๊ค ปีใหม่ก็ส่งไลน์ไปแฮปปี้นิวเยียร์แบบเนียนๆ และก็คอยวนเวียนแอบมอง บางทีเจอไกลๆ ในห้างก็แอบตาม ซึ่งเรารู้สึกว่าเป็นวิธีการแบบวิญญาณ เลยคิดกันว่าลองทำเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณดูไหม คือต้องการให้คนที่กลัวผีสามารถดูได้ และสองคือใครที่จะเข้าใจโมเม้นต์อะไรแบบนี้ได้ ก็ต้อง จิม(ผู้กำกับลัดดาแลนด์,เพื่อน..ที่ระลึก) แต่ว่าเขาเป็นผู้กำกับหนังใหญ่ ต้องใช้ความเสี่ยงเหมือนกันว่าเขาจะรับหรือไม่รับใน MV ตัวนี้ เป็น MV ที่ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไรเยอะ แต่พอเราเสนอไอเดียไป แล้วก็คุยกัน ตอนนั้นจิมตกลงมาพอถึงเวลาในการทำแล้วเนี่ย จิมก็ไปต่อยอด จนผมรู้สึกว่ามันยิ่งเพิ่มความพิเศษให้กับสิ่งที่เราคิด
ภูมิใจกับ MV
ป๊อป : นอกจากคนดูจะไม่ได้โฟกัสเรื่องความน่ากลัวแล้ว ยังเข้าใจว่านี่คือการเล่าความโรแมนติกบนสถานการณ์ที่เป็นเรื่องผี คนจะคิดว่าเป็นสถานการณ์หนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้เราทำได้แค่เฝ้าดูห่างๆ
ซีเรียสเรื่องของเครดิต
ป๊อป : ผมบอกกับทางค่าย (ไวท์มิวสิค) ว่าอยากจะให้เครดิตทุกคน หมายถึงว่าบางครั้งเราเข้าไปดูใน MV มันไม่เห็นเครดิตคนแต่ง เครดิตคอรัส เครดิตผู้กำกับ หรือช่างถ่ายภาพซึ่งเราเป็นพวกบ้าเครดิต บางทีเราเข้าไปดูแล้วรู้สึกชอบ MV ตัวนี้ แต่ไม่มีเครดิตผู้กำกับ เรารู้สึกว่าแล้วผู้กำกับเขาได้อะไร ช่วงหลังเราเลยพยายามให้ไวท์มิวสิค ให้เครดิตกับทุกอย่าง แล้วนาทีที่ไม่ว่าจะเป็นคนแต่งเพลง ผู้กำกับ หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ ที่เงินมันน้อยลงทุกทีที่รีเทิร์นกลับมา เครดิตมันมีส่วนช่วยกับเขาในการทำงานด้านอื่นต่อยอดได้ ซึ่งเราเห็นว่ามันสำคัญ
ความในใจถึงแฟนเพลง
ป๊อป : ฝากให้ช่วยซับพอร์ตไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ฟังเพลงในช่องทางที่ถูกกฎหมาย ซึ่งตอนนี้มีช่องทางให้เลือกเต็มไปหมด ส่วนเรื่องเพลง ผมหวังว่าเพลงนี้จะเข้าไปอยู่แทนความทรงจำของชีวิตคุณได้ คุณนึกถึงใครสักคนหนึ่ง แล้วคุณนึกถึงเรื่องดีๆ ความทรงจำดีๆ จะถือเป็นความสำเร็จของพวกเราคนทำงานครับ
กว่าจะเสร็จเป็นหนึ่งบทเพลง ต้องผ่านมือหลายบุคลากรคนสร้างสรรค์ ศิลปินดังอย่าง ป๊อป-ปองกูล จึงเลือกที่จะจูง นักแต่งเพลง มายืนเบื้องหน้าเคียงข้างกัน นำเสนองานรังสรรค์ที่มากกว่าธุรกิจเพลง...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี