ทุ่มเทรับงานมาตลอดทั้งปี เมื่อมีโอกาสได้พัก “บัว-นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ” นางเอกสาวจากละครเรื่อง “คุณแม่สวมรอย” ทางช่อง 3 ขอเลือกไปรับลมหนาวที่โตเกียว ซึ่งการไปเที่ยวครั้งนั้น เธอจะประทับใจและตื่นเต้นแค่ไหนไปฟังเธอเล่ากันค่ะ
พูดถึงการท่องเที่ยว : บัวเป็นคนที่ชอบเที่ยวมากคือเวลาที่รู้สึกว่าจะได้ไปเที่ยว จะตื่นเต้น แล้วใจเต้นแรงมาก (ยิ้ม) แค่พูดถึงก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว เหมือนเรารู้สึกว่าการไปเที่ยว คือการได้ไปพักผ่อน เหมือนไปต่อชีวิตให้กับเรา บางทีเราทำงานหนักมา แล้วไม่ได้พักเลย พอไปเที่ยวแล้วเราไม่ต้องคิดถึงเรื่องอะไรเลย หัวสมองเราแค่ดูแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ดูความสวยงาม ได้พักสมองได้พักร่างกาย
สถานที่นี้ชอบมาก : บัวจะชอบไปที่ที่เป็นธรรมชาติ เพราะรู้สึกว่าอากาศดี และไม่ชอบอะไรที่เร่งรีบ คือเราทำงานมาเราต้องเร่งรีบทุกวันอยู่แล้ว เพราะว่าเราอยู่ในเมืองแล้วพอเราได้ไปเที่ยวในที่ธรรมชาติ เราก็จะรู้สึกว่าเราขอทิ้งวันทั้งวันไปกับที่ตรงนี้เลย อยากจะไปเมื่อไหร่ อยากจะทำอะไรก็ได้ ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์
วางแผนในแต่ละทริป : อยู่ที่ว่าเป็นที่ไหน ถ้าเป็นในประเทศไทยเราก็จะคิดแค่ว่าไปที่นี่ ไปกี่วันดี มีร้านที่อยากไปไหม คือหนูเป็นพวกที่ชอบตระเวนคาเฟ่ถ่ายรูปสวยๆ หาที่กินอร่อยๆ ที่ไหนสวยถ่ายรูปสวยก็จะไปเช็คอิน อย่างล่าสุดไปญี่ปุ่นก็ทำการบ้านเยอะมากหนูซื้อหนังสือมาเป็น 10 เล่มเลย คือไปโตเกียวก็ซื้อหนังสือเกี่ยวกับโตเกียวมาเลย ดูว่ามีของกินอะไรอร่อยที่เขาแนะนำ ควรจะไปถ่ายรูปตรงไหน ที่ไหนเป็นแลนด์มาร์ก ไปเช็คอิน กับทริปนี้เตรียมตัวเป็นเดือนเลยค่ะแล้วก็ตื่นเต้นมาก แต่ว่าจริงๆพอจะเริ่มมีเวลาทำการบ้าน ก็แค่อาทิตย์เดียวก่อนเดินทาง เราก็อ่านหนังสือแล้วก็จด เขาบอกว่าที่กินที่นี่ขนมปังร้านนี้อร่อยต้องไป กินราเมงร้านนี้ดี วันนี้เราจะไปแถวนี้ มีที่ไหนบ้าง หนูเคยไปแบบไม่มีแพลนอะไรเลยแล้วมันรู้สึกเสียดาย ที่เราพลาดไปที่ที่น่าจะไป
เลือกที่จะไปโตเกียว : ทริปโตเกียวนี้ไป-มาเมื่อวันที่ 3 ธันวาปีที่แล้ว ไปกับเพื่อนแล้วก็พี่สาว คือเคยไปญี่ปุ่นตอนปีใหม่แล้วก็เลยอยากจะเปลี่ยนช่วงเวลาบ้างที่ญี่ปุ่นหน้าเทศกาลเขาจะไม่รื่นเริง ไม่ค่อยจัดงานเหมือนบ้านเรา ปีใหม่เหมือนเป็นวันหยุดพักผ่อนของเขา เคยประสบการณ์เคานท์ดาวน์ที่ฮอกไกโดแล้ว ก็เลยคิดว่าเราอยากได้บรรยากาศแบบรื่นเริงมากกว่า เลยไม่ไปช่วงปีใหม่ แต่ที่ไปล่าสุดนี้มันลงตัวทุกอย่าง คือปิดกล้องละครพอดี ก็เลยได้ไปพักผ่อน เราทำงานมาทั้งปีแล้ว ปีที่แล้วทำงานถ่ายละคร 2 เรื่อง 7 วัน ไม่ได้พักเลย อาจจะมีบ้างเดือนหนึ่งได้พักวันสองวัน พอได้ไปเที่ยวแล้วดีใจมาก
กับบรรยากาศที่โรแมนติกอาหารอร่อย : จริงๆ ก็ไปไม่หมดตามที่แพลนไว้นะคะ คือถ้าไปครบคงต้องอยู่เป็นเดือน (ยิ้ม) เพราะว่าเยอะมาก ได้ไปโตเกียวดิสนีย์ซีชอบนะคะคือเป็นที่โรแมนติก สวย เป็นทะเล เขาทำดีอากาศกำลังดี ได้เจอใบไม้เปลี่ยนสีด้วย ทั้งเมืองดูเป็นสีเหลืองทอง อากาศไม่หนาวมาก 14-15 องศา แล้วก็ได้ไปกินแพนเค้กร้านที่อยากไป ได้ไปกินราเมง และหนูชอบกินซูชิ ที่ญี่ปุ่นเขาจะมีโอมากาเสะก็คิดว่าอยากจะไปลองสักครั้งหนึ่ง คือบัวมีเพื่อนอยู่ที่ญี่ปุ่นเขารู้จักร้านที่ดังๆ ก็เลยจองที่นี่ให้ เป็นที่ที่แบบโรแมนติกมาก คืออยู่บนตึกชั้น 42 นั่งมองไปเห็นโตเกียวทาวเวอร์ เป็นการกินโอมากาเสะที่มีความสุขมาก เรานั่งรอเชฟเขาปรุงให้กิน โรแมนติกดีจัง และสวยดี เหมือนเป็นประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งเราอยากไปลองกินปลาดิบบ้านเขาที่มันพิเศษหน่อย
ความพีคสุดของทริป : ขากลับนี่ร้องไห้เลย คือตกเครื่อง (หัวเราะ) ปกติทุกครั้งบัวเป็นคนละเอียดมากเลยนะ ดูตั๋วแล้วดูอีก วันที่ตรงไหม เวลานี้ถูกไหม แต่ว่าคราวนี้เป็นครั้งเดียวที่ไม่ได้เอะใจอะไรเลย เราก็คิดว่ากลับพร้อมกันอยู่แล้ว ก็คงวันเดียวกัน พอไปถึงสนามบินยื่นพาสปอร์ตให้ทุกคนเช็คเรียบร้อยแล้ว และเขาก็ขอดูบุ๊คกิ้งนัมเบอร์หน่อย เราก็เอ๊ะ! ทำไมคนอื่นรอด เราไม่รอด เราก็หาๆ เปิดอี-เมล์ให้เขาดู แล้วเขาก็บอกว่าบุ๊คกิ้งอันนี้มันของเมื่อวาน เราก็เอ้ย...คือหนูจำวันผิด พอมันเป็นเที่ยงคืนของอีกวันหนึ่ง ก็จะนับเป็นวันใหม่ หนูต้องกลับวันที่ 10 พอเป็นวันใหม่มันต้องวันที่ 11 แต่หนูดันไปจองวันที่ 10 ก็เท่ากับว่าหนูต้องไปสนามบินวันที่ 9 ก็เลยต้องซื้อตั๋วใหม่ ณ ตรงนั้น เพื่อที่จะได้กลับพร้อมคนอื่นๆ ตอนแรกจะร้องไห้เลย เพราะว่าค่าตั๋ว 40,000 ขาเดียว คนอื่นเขาก็จองวันถูก คือเราไปจองทีหลังเขา เพราะว่ากว่าจะเคลียร์คิวงานลงตัว ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่า 40,000 แพงมากเลย เราอยู่ต่ออีกดีไหม เพราะว่าไปเที่ยวแค่ 7 วันถือว่าน้อยมากสำหรับบัว อยากอยู่ต่อคนเดียว เพื่อนก็บอกว่าจะได้ยังไง เพราะว่าต้องนั่งรถกลับไปอีก แล้วโรงแรมก็ต้องไปจองใหม่ มันหลายอย่าง แล้วเราคนเดียวด้วย พอต้องจ่ายตังค์สมองก็เบลอไปแล้ว ก็เลยยังไงก็ได้ ถือเป็นประสบการณ์ที่จำไม่ลืมเลยค่ะ หนูถ่ายรูปตั๋วเอาไว้เลยว่านี่จะจำไปจนวันตาย ว่าจ่ายตังค์ค่าตั๋วแพงมาก แล้วก็ตกเครื่องอีกต่างหาก
เคล็ดลับการท่องเที่ยว : อย่างแรกเลยเราต้องเตรียมใจให้พร้อมว่าเราจะได้ไปเที่ยว (หัวเราะ) ตรวจดูพาสปอร์ตเรื่องเงินการแลกเงินแล้วก็เรื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหลาย เพราะว่าปลั๊กไฟบ้านเขาจะไม่เหมือนของเรา อย่างสาวๆ เครื่องม้วนผมทำผมก็จะใช้ไม่ได้ หนูก็ไปซื้อที่นู่น ส่วนใหญ่สาวๆ จะเจอปัญหาว่าฉันเอาที่ม้วนผมไป ฉันทำผมไม่ได้ ผมฉันทั้งทริปจะเป็นยังไง ซึ่งตรงนี้บัวก็มีประสบการณ์มาแล้ว การติดต่อสื่อสารเดี๋ยวนี้ก็ง่ายแล้วค่ะเพราะว่ามีซิม เราก็วางแผนทำการบ้านดีๆ เรื่องรถไฟที่ญี่ปุ่นก็จะมีความงงนิดหนึ่ง เพราะว่ามันจะมีหลายสายหลายสี แต่ว่าถ้าเราดูดีๆจะง่ายมาก เขาบอกหมด ทุกอย่างจะเป๊ะอยู่แล้ว ญี่ปุ่นก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าเป็นห่วงมาก บ้านเมืองเขาไม่ได้น่ากลัว สุดท้ายก็ดูตั๋วดีๆ (ยิ้ม) เอาประสบการณ์ของบัวไปเป็นตัวอย่างนะคะ ไม่งั้นเราจะต้องมาเสียตังค์แพงมากเลย
ได้กูรูด้านการตกเครื่อง เอ๊ย...กูรูด้านการท่องเที่ยวมาแชร์ประสบการณ์ดีๆ ใครที่กำลังคิดหาสถานที่เพื่อไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ก็สามารถเอาทริปโตเกียวของสาวบัวไปเป็นไกด์ได้นะจ๊ะ
หยินหยาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี