ได้เวลาค้นประวัตินางเอกน้องใหม่ป้ายแดงจากช่องเวิร์คพอยท์ 23 “กุ๊กกิ๊ก-มรกต พูลผล” ที่ตอนนี้กำลังมีผลงานละครเรื่อง “คู่ซี้ผีมือปราบ” ประกบคู่กับพระเอกหนุ่ม “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี” ด้วยความสามารถและประสบการณ์ในวงการที่สะสมมา จนที่สุดกับการก้าวขึ้นสู่ทำเนียบนางเอกเต็มตัวครั้งแรก ไม่รอช้าเรามาทำความรู้จักกับสาวคนนี้กันเลยจ้า
ชีวิตในวัยเด็ก
เป็นเด็กเก็บตัวเหมือนกันนะคะ คือไม่ชอบสุงสิงกับใคร ด้วยความที่มาอยู่กับคุณอาที่ภาคใต้ แม่เสียชีวิตแล้ว เราก็อยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงสักพักพอถึง ม.5 ก็ย้ายมาอยู่กับอา และอาก็ส่งเสียให้เรียนเหมือนเป็นผู้ปกครองเลย แล้วอีกไม่นานพ่อก็มาเสียอีก (น้ำตาคลอ) ก็เลยกลายเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่ จะมีเพื่อนบ้านที่เล่นด้วยบ้าง แต่หนูก็มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง
เพื่อนคือแรงผลักดัน
ความกล้าแสดงออกเริ่มมามีตอนโตเลยค่ะตอนที่ประกวดเวทีต่างๆ คือพออยู่ในวงการเยอะๆ มันก็จะต้องกล้า ตอนที่เรียนจะเรียนอย่างเดียว ไม่เอาอะไรเลย ไม่เอาวงการนี้เลย คือหนูเรียนบริหารมา ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับบันเทิงเลยด้วย ไม่คิดว่าอยากจะเข้าวงการเลยด้วยค่ะ แต่ว่าจะมีเพื่อนช่วยส่งรูปไปประกวดให้เรียบร้อย ก็เลยมีไปประกวดตามเวทีต่างๆ ที่เกี่ยวกับนางแบบ แต่เราก็ยัง
ไม่ชอบอยู่ดีค่ะ ตามใจเพื่อนไปก็ได้ เพราะอย่างที่บอก คือเราเรียนที่หาดใหญ่ด้วย ไกลค่ะ ถ้าต้องมากรุงเทพฯลำบาก ก็เลยประกวดเวทีเดียวพอ เป็นเวทีเล็กๆ ซึ่งก็ไม่ได้ตำแหน่งอะไรได้แค่ประสบการณ์ และไม่ไปอีกเลย ขอเรียนให้จบก่อน เรารู้สึกว่ามันลำบาก ต้องเดินทางไกลๆ ไม่ชอบเดินทางไกลเลย ก็บอกเพื่อนว่าขอเรียนก่อนนะ หยุดเลย พอเรียนจบก็ยังไม่เข้าวงการค่ะ ทำงานก่อน ที่ดีแทคเกี่ยวกับโทรศัพท์ พอทำไปได้ปีนึงก็ได้แรงยุจากพี่คนนึงติดต่อมา อยากให้ไปประกวด เราก็เลยไป ทีนี้ก็เลยยาวมาเลยค่ะ รวมทั้งงานเดินแบบถ่ายแบบ
ฝันที่เกือบจะเลิกฝัน
จริงๆ ก็ฝันเหมือนกันนะคะ คือพอเราเข้ามาจุดหนึ่งแล้วเราก็ฝันว่าเราจะต้องไปเป็นนักแสดงหรือเปล่า แต่พอผ่านมาช่วงนึงการเป็นนักแสดงมันไม่เกิดขึ้นในชีวิตเราสักที จนมาตอนนี้เราเลิกฝันไปแล้ว แต่เรากลับได้มาทำ เราก็รู้สึกตกใจมาก เป็นช่วงจังหวะชีวิตจริงๆ เข้าวงการตอนอายุ 30 แล้ว ซึ่งเราก็ต้องตั้งใจค่ะ เพราะว่าเราเข้ามาช้ากว่าคนอื่น เด็กใหม่เกิดตลอดเวลาในวงการ เราใหม่ในวงการก็จริง แต่เราก็เหมือนโตแล้ว เราต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ในคำว่าเรื่องแรก เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ
ที่มาที่ไปก่อนจะได้มาเล่นละคร “คู่ซี้ผีมือปราบ”
คือเห็นเพื่อนไปออกรายการ I Can See Your Voice นักร้องซ่อนแอบ ทางช่องเวิร์คพอยท์ เราก็เลยลองไปบ้าง ตอนนั้นนักร้องคือ “พี่ตู่-ภพธร” แล้ว “พี่ดีเจนุ้ย” บอกว่าถ้าคนนี้ร้องเพราะ เขาจะเอาสีมาทาตัว ก็ปรากฏว่าร้องเพราะ แต่พฤติกรรมในรายการเพี้ยนเลย เต้นบ้าๆ เขาก็เลยเห็นเราจากตรงนั้น แต่ก่อนหน้านี้เราไม่เคยคิดเลยนะคะว่ามาตรงนี้แล้วจะเป็นยังไงต่อไป คือหนูเหมือนกับว่าพอได้งานทุกอย่างก็ทำงานให้สำเร็จ ไม่คิดอะไร มีงานก็ทำงาน เพราะเราไม่ได้คาดหวัง ด้วยอายุเราที่มันมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเราหมดแล้วเราไม่มีสิทธิ์แล้วที่จะเป็นดารา เด็กสมัยนี้ 17-18 เขาเก่งกันมาก เหมือนเขาเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง แต่เราไม่ได้มาจากตรงนั้นเลย ก็รู้สึกดีใจและตื่นเต้นด้วยว่าเราจะทำได้ไหม พอไปออกรายการเขาก็เรียกไปแคส หลังจากนั้นเขาก็เห็นว่าเรากล้าแสดงออก
คาแร็กเตอร์ที่ไม่ไกลตัว
ตัวตนของหนูคือเป็นคนแมนๆ ห้าวๆ ลุยๆ ลำบากได้ ชอบความลุย ชอบแดด พอได้มาเล่นละครเรื่องแรก ซึ่งเป็นบทที่ไม่ได้ไกลจากตัวเรามาก ก็เลยโอเคค่ะ กลายเป็นว่าตรงพอดี มีละครเรื่องนี้
พอดี เราเพิ่งเข้ามาพอดีด้วย แต่กว่าจะได้มาเล่นก็ต้องไปเรียนการแสดงก่อนเพราะว่าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการแสดงเลย เตรียมตัวเพื่อเล่นเรื่องนี้ แต่พอมาเจอพี่ๆ ทุกคนซุป’ตาร์หมดเลย ผลงานการแสดงก็แน่นมาก เห็นพี่เขามาตลอด เราก็ทั้งตกใจ ทั้งรู้สึกดีใจด้วย และขอขอบคุณเวิร์คพอยท์ที่ให้โอกาสหนูได้เข้ามาเล่นเรื่องนี้ค่ะ
ประกบคู่ครั้งแรกกับ “พี่ติ๊ก-เจษฎาภรณ์”
รู้สึกดีใจมาก ตื่นเต้นมากกับการเข้าฉากแรกกับพี่ติ๊ก ยากมากกับการที่จะต้องจ้องตามองตาพี่ติ๊กนานๆ (หัวเราะ) ก็หลุดบ้างเหมือนกัน ใหม่ๆ คือ เรารู้สึกเกรงใจ แล้วก็ตื่นเต้นอยู่ ทั้งที่เป็นฉากง่ายๆ ก็ยังเทคเยอะเลย ประมาณ 5 เทคได้ ก็ต้องมาจูนใหม่ ได้“พี่หนุ่ม-อรรถพร” ผู้กำกับพี่ๆ ช่างกล้องช่วย คือเราต้องฟังมากขึ้น พี่เขาก็จะบอกว่ามองตรงนี้นะ เขาจะไปแบบนี้นะ คือ แรกๆ เราจะไม่ค่อยฟัง เราจะฟังแค่ผ่านๆ เราไม่รู้ว่าเราต้องโฟกัสจริงๆ อันนี้สำคัญมากค่ะ ก็มาจูนกันใหม่ และเข้าใจการแสดงมากขึ้น แต่คำว่าชอบการแสดงหรือเปล่านี้ยังไม่ชอบเลยค่ะ ยังรู้สึกตื่นเต้นและเกร็งอยู่ ยังหาไม่เจอว่าเราชอบตรงนั้นหรือเปล่า
พร้อมรับทุกกระแสวิจารณ์
สำหรับกิ๊กก็น่าจะรับไหว ถ้าจะมีใครมาวิจารณ์ว่าอะไร เพราะว่าเราก็ใหม่มาก ความที่เป็นเรื่องแรกก็ต้องมีเกร็งบ้าง แข็งบ้างเราก็ต้องรับไปปรับปรุง เพราะว่าที่ผ่านมาเราเดินแบบถ่ายแบบ เราก็จะแค่ยืนนิ่งๆ ถ่ายรูปเราไม่ต้องพูดกับใครเราไม่ต้องแสดงอารมณ์สีหน้ามันก็ต่างกันเลย
ทิศทางในการทำงานต่อไป
แล้วแต่ผู้ใหญ่มอบหมายงานให้ค่ะ อนาคตเรื่องต่อไปจะเป็นยังไง จะได้เป็นนางเอกไหม ยังไม่คิดเลย แค่เรื่องเดียวก็ได้ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตและเป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่เราต้องทำ ต้องตั้งใจกับมันมาก หวังว่าทุกคนจะชอบค่ะ คือหนูก็ได้หมดเลยในสายบันเทิง หนูทำมาหมดแล้ว ประกวดเดินแบบถ่ายแบบก็คือทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าถามถึงบทบาทที่อยากจะเล่น คืออยากเล่นอะไรตลกๆ แต่ตัวเองก็ไม่ตลกเลย มุขแป๊ก (หัวเราะ) เข้ามาตรงนี้คุณอาก็แปลกใจ ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าเราจะทำได้ แล้วจะต้องทำยังไงบ้าง เขาก็ถามค่ะ เขาเป็นห่วง เพราะว่าเห็นเรามาตลอดว่าเราเก็บตัว จะกล้าแสดงออกไหม ก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงค่ะลองดู ส่วนเพื่อนที่คอยผลักดันเรามาตั้งแต่ต้น ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน คือเขาก็อยู่ที่ภาคใต้เลย เขาก็ดีใจกับเราด้วยและคอยสนับสนุนเรา เป็นกำลังใจให้เราค่ะ
อยากฝากให้ติดตามด้วยนะคะ ละครเรื่อง “คู่ซี้ผีมือปราบ” หนูเป็นเด็กใหม่มาก มีอะไรติชมได้เลยค่ะ น้อมรับและจะนำไปปรับปรุงค่ะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี