ประเดิมเปิดพุทธศักราชใหม่ 2557 คอลัมน์ STAR RETROปี 2557 “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” ยังคงนำ “คุณผู้อ่าน” สำราญไปกับความอลังการที่เรานำมาเสนอให้กับท่านผู้ที่ชื่นชอบ ศิลปินดารา นักร้องเก่า และในปี 2557 ที่กำลังจะมาถึงเราก็ยังนำเสนอความสุขนี้กันแบบต่อเนื่อง
แหละนี่คือช่วงเวลาของการฉลอง 74 ปีให้กับวงดนตรีที่มีคนรู้จักหัวหน้าวงในระดับโลก ครูเอื้อ สุนทรสนาน ท่านเป็นทั้งศิลปินแห่งชาติ และบุคคลดีเด่นด้านวัฒนธรรมของโลก ที่คนไทยยอมรับกับความเป็นสุดยอดของศิลปินอย่างแท้จริง
ซึ่ง“บันเทิงแนวหน้า” กับ “มูลนิธิสุนทราภรณ์” โดย “หมึกดำ” บรรณาธิการฝ่ายข่าวบันเทิง กับ คุณ อติพร สุนทรสนานเสนะวงศ์ ขอส่งความสุขให้กับ แฟน RETRO เปิดตัวศิลปินที่นับเป็นสมาชิกทั้งการก่อตั้งวงสุนทราภรณ์ หลากหลายรุ่นมาให้อ่าน โดยสัปดาห์นี้พบกับ..
เลิศ ประสมทรัพย์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมพ.ศ. 2466 บ้านตรอกสาเก หลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ หัวมุมสะพานผ่านพิภพลีลา เริ่มต้นเรียนหนังสือที่โรงเรียนบำรุงวิทยา ร่วมชั้นเรียนเดียวกับ สุปาณี พุกสมบุญ และ สมพงษ์ ทิพยะกลิน อดีตนักร้องและนักดนตรีวงสุนทราภรณ์ หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย รุ่นเดียวกับ เล็ก อ่ำเที่ยงตรง และ คำรณ สัมบุญณานนท์
เลิศ ประสมทรัพย์ ชอบการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ โดยมักจะเข้าไปประกวดตามงานวัด โดยใช้นามแฝงว่า ล.ลูกทุ่ง ซึ่งทุกเวทีที่ประกวด เลิศมักจะได้รางวัลชนะเลิศมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวัดสระเกศ วัดสามปลื้ม วัดประยุรวงศาวาส หรือแม้แต่ วัดหัวลำโพงจนกระทั่งกรรมการได้ขอร้องให้เลิกประกวด แต่ให้เป็นกรรมการตัดสินการประกวดแทน
ในขณะนั้นเลิศมีอายุได้ราว 17-18 ปี สำหรับนักร้องประกวดตามงานวัดที่ร่วมรุ่นเดียวกัน ได้แก่ ค.สำมะรงค์ (คำรณสัมบุญณานนท์), ล.สำมะรงค์ (เล็ก อ่ำเที่ยงตรง), ต.กิ่งเพชร (ชาญ เย็นแข) ณรงค์ ณ วังน้อย (ณรงค์ ธนวังน้อย) ส่วนเพลงที่ เลิศ นำไปขับร้องประกวดมี อาทิ เพลง เดือนตก ผลงานของ ครูสกนธ์ มิตรานนท์
เลิศ ประสมทรัพย์ เริ่มต้นการศึกษาด้านการดนตรีจากครูล้วน ควันธรรม ก่อนที่จะเข้ามาเป็นนักร้องอยู่ใน วงดนตรีสุนทราภรณ์ จากการชักชวนของ สมพงษ์ ทิพยะกลิน เพื่อนนักเรียนที่เป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงของวงสุนทราภรณ์
เมื่อ พ.ศ. 2483 เลิศ นับว่าเป็นนักร้องชายคนที่ 3 ของวง (ต่อจากสุนทราภรณ์ หรือ ครูเอื้อ สุนทรสนาน และ ครูล้วน ควันธรรม) แต่อยู่ได้ไม่นานก็ลาออกไปสมัครเป็นตำรวจรถถังอยู่ ณ วังปารุสกวัน ในช่วงนี้เอง เลิศได้เริ่มต้นการแต่งเพลง“ความหนาวที่ลพบุรี” เนื่องด้วยความประทับใจที่เคยไปประจำการที่จังหวัดลพบุรี
สิ่งที่ เลิศ ประสมทรัพย์ ได้จากการเข้ามาอยู่ในวงดนตรีสุนทราภรณ์ ในระยะแรกนั้น คือ การเป่าทรัมเป็ต และ ตีกลองซึ่งทำให้ เลิศ สามารถอ่านโน้ตสากลได้ โดยมี สมพงษ์ ทิพยะกลินเป็นผู้สอน
ในราว พ.ศ. 2497 เลิศ ได้สมัครเป็นทหารอาสาในสงครามเกาหลี ที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยสังกัดอยู่ใน ผ.ส. 21 ร.พัน 1(อิสระ) หน่วยบำรุงความสุข (ดนตรี) รุ่นเดียวกับ ครูธนิตผลประเสริฐ และครูใหญ่ นภายน เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน สำหรับทหารไทยคณะนี้ ได้เดินทางออกจากเมืองไทยโดยเรือ “ฟูจิกามารู”เมื่อ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2497 จากการไปราชการสงครามที่เกาหลีใต้ครั้งนี้ เลิศได้นำทำนองเพลงเกาหลีและญี่ปุ่นมาแต่งเป็นเพลง ริมฝั่งน้ำแพงม้า และ สาวงามโตเกียว (โอโต๊ะมีซัง) แสดงให้เห็นถึงความสามารถของการแต่งเพลงของเลิศ อีกด้านหนึ่ง
หลังจากกลับมาจากเกาหลีใต้ในครั้งนี้แล้ว เลิศ ได้รับการบรรจุเข้าเป็นนักร้อง ในแผนกบันเทิง อีกครั้งหนึ่ง เมื่อ 3 พฤษภาคมพ.ศ. 2498 โดยครั้งนี้ เลิศ ได้รับราชการอยู่ที่กรมประชาสัมพันธ์ตลอดมาจนกระทั่งเกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 30 กันยายนพ.ศ. 2527 นับเป็นเวลากว่า 30 ปี
ระหว่างที่ เลิศ รับราชการอยู่ในวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ เลิศได้มีผลงานเพลงออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการขับร้อง และการแต่งเพลง โดยเพลงมักจะออกมาในแนวตลก และสนุกสนาน และมักจะร้องคู่กับ ศรีสุดา รัชตะวรรณ เป็นส่วนใหญ่ ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสามี-ภรรยากัน ไม่ว่าจะเป็นไพรพิสดาร, จุดไต้ตำตอ หนีไม่พ้น, นกเขาไพร
เลิศ มีเอกลักษณ์ในการร้องเพลงอีกอย่างหนึ่ง คือ การร้องเพลงในจังหวะตะลุงเท็มโป จนได้รับฉายาว่า “ราชาเพลงตะลุง” ผลงานที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ตะลุงสากล, ตะลุงมอญซ่อนผ้า, ตะลุงอยากเป็นพระอินทร์ ตะลุงดับเพลิงรัก นอกจากนี้ ยังมีผลงานเพลงที่เป็นอมตะอีก 2 เพลง คือ “รำวงสาวบ้านแต้” และ “รำวงหนุ่มบ้านแต้” ที่ร้องนำหมู่กับ ศรีสุดา รัชตะวรรณ จนได้รับความนิยมมาจนปัจจุบัน
เลิศ ประสมทรัพย์ ร้องเพลงมาตลอดจนกระทั่งเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น หลังเกษียณอายุราชการ เลิศเริ่มมีปัญหาสุขภาพจนกระทั่งตอนหลังเลิศจึงเลิกร้องเพลงไปโดยปริยายจนถึงแก่กรรม
เลิศ ประสมทรัพย์ พบรักกับ ม.ล.ปราลี มาลากุล ธิดาพระยาเทวาธิราช (ม.ร.ว.เทวาธิราช ป.มาลากุล) อดีตสมุหพระราชพิธีและที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง โดยได้พบกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2499 ในงานวันเกิดหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ซึ่งในวันนั้น วงดนตรีสุนทราภรณ์ ยกวงไปแสดงในงานด้วย แต่ความรักของเลิศก็ไม่ประสบความสมหวังในครั้งแรก เนื่องด้วยทางฝ่ายบิดาของ ม.ล.ปราลี ไม่ยินยอมให้สมรสกับเลิศ
จนกระทั่งเวลาผ่านไป 16 ปี ในวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2515 ได้มีพิธีหมั้นที่บ้านราชเทวีของฝ่ายเจ้าสาว โดยมีครูเอื้อ-คุณอาภรณ์ สุนทรสนาน เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายชายไปสู่ขอกับคุณหญิงเทวาธิราช และได้มีการจัดฉลองมงคลสมรส เมื่อวันที่12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ณ สโมสรกรมชลประทาน สามเสน โดยมี พลเอกกฤช ปุณณกันต์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ในขณะนั้นเป็นเจ้าภาพฝ่ายชาย และ ม.ล.ปิลันธ์ มาลากุล รองอธิบดีกรมชลประทานขณะนั้น (พี่ชาย ม.ล.ปราลี) เป็นเจ้าภาพฝ่ายหญิง
โดยในงานวันนั้น ครูเอื้อ สุนทรสนาน และ ครูแก้ว อัจฉริยะกุล ได้แต่งเพลง วันมงคลสมรส เลิศ-ปราลี ให้เป็นของขวัญ โดยมีเนื้อร้องว่า
“สิบสองพฤศจิกสองห้าหนึ่งห้า วันมหาทักษารักสมัครสมาน ปราลีบวกเลิศประเสริฐนาน ร่วมสมการงานรักสมัครใจเพราะเลิศมีอะไรดีที่เป็นเลิศ ปราลีจึงบังเกิดความรักใคร่ ปราลีมีความสูงจูงจิตใจ เลิศจึงได้เอื้อมคว้ามาเชยชม ขออวยชัยให้ทั้งสองครองรักมั่นแนบสัมพันธ์นิรทุกข์เป็นสุขสม มีแต่รักรักกันมั่นนิยมให้ชื่นชมสมสุขทุกกาลเอย”
เลิศ และ ม.ล.ปราลี ประสมทรัพย์ มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน ชื่อ วาทิต ประสมทรัพย์ ปัจจุบันสมรสกับ นางวริศรา ประสมทรัพย์ ยังไม่มีบุตร - ธิดา
เลิศ ประสมทรัพย์ ล้มป่วยด้วยโรคเบาหวานมาเป็นเวลานานหลายปี โดยเมื่อหลังเกษียณอายุราชการ อาการของโรคเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำให้ ม.ล.ปราลี ต้องจ้างพยาบาลพิเศษมาคอยดูแล แต่เลิศยังคงความจำดี สามารถจำผู้ที่ไปเยี่ยมได้ทุกคน จนกระทั่งวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2543ได้ถึงแก่กรรม สิริรวมอายุ 68 ปี
ผลงานที่สร้างชื่อเสียงกับวงดนตรีสุนทราภรณ์ ซึ่งรวมอยู่ CD แฟนคลับสุนทราภรณ์ ทั้งชุดเพลงเดี่ยว และ เพลงคู่ กับศรีสุดา รัชตะวรรณ อาทิ เริงลีลาศ, ข้างขึ้นเดือนหงาย, ใครจะเมตตา,บ้านของเรา, จริงหรือ พ่อค้าเรือเร่, แขกครวญ, โลกยังรักเรา,มนต์นางรำ, ชมนาง, ชาวทุ่ง, บุญหรือกรรม, ริมฝั่งน้ำแพงม้า, หนุ่มใต้ฝันหวาน, หนีไม่พ้น, ไพรพิสดาร, นกเขาไพร, จุดไต้ตำตอ, ฝนจ๋าฝน,พนาโศก, ครูสอนรัก, คู่รักคู่ขอ, หนุ่มง้อสาวงอน, พักร้อน, ตะลุงมอญซ่อนผ้า, ตะลุงแมลงแฝงดอกไม้, ตะลุงสุขใจ, ตะลุงถ้ารักจริง ฯลฯ
ข้างขึ้นเดือนหงาย
ทำนอง ครูเอื้อ สุนทรสนาน
คำร้อง ครูแก้ว อัจฉริยะกุล
ข้างขึ้นเดือนหงาย เราขี่ควายชมจันทร์
เพลิดเพลินใจฉัน โคมสวรรค์พราวพราย
ไขว่ห้างนั่งเฉย เอ้อระเหยลอยชาย
เป่าขลุ่ยเพลงหนังบนหลังควาย ชื่นพระพายโชยมา
แม้ว่าต้องการเพื่อนคุย ฉันมีเจ้าทุยสนทนา
พูดจาตอบถามตามประสา ลัดเลี้ยวคันนาตามชอบใจ
สุขใจจริงหนอ เราไม่ง้อใครใคร
เจอะนางคนรักก็รับไป เป่าขลุ่ยสอดคล้องเราร้องไป
ขี่ควายชมฟ้า เพลินตาเพลินใจ จันทร์แจ่มใสเต็มดวง
อยู่นาเดือนหงาย เราขี่ควายพาควง
แต่หนุ่มชาวเมืองหลวง พาคู่ควงเปลืองครัน
อยู่กรุงอยู่นา ไอ้มันก็ฟ้าเดียวกัน
ขี่ควายขี่เก๋งก็เหมือนกัน มันก็พระจันทร์ดวงเดียว
เขาว่ารถยนต์สบาย แต่ฉันว่าแพ้ควายแท้เทียว
อยู่กรุงไปไหนให้หวาดเสียว ปรู๊ดปร๊าดโครมเดียวเราก็ตาย
ต้นข้าวอ่อนพลิ้ว ชูยอดริ้วเรียงราย
ค่อยชมแช่มช้อยค่อยเยื้องกราย
ขี่ควายแช่มช้าประสาควาย
อยู่นาสุขแสน เมืองแมนกลายกลาย เดือนก็หงายพอกัน
(ข้อมูลรวบรวมจากหนังสือรวมเพลงต่างๆ ของสุนทราภรณ์)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี