โตเกียว (เอพี/เอเอฟพี) - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น อาจไปเยือนเกาหลีเหนือ หลังจากประกาศข้อตกลงจะฟื้นการสอบสวนคดีสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวชาวญี่ปุ่นในช่วงสงครามเย็น
สำนักข่าวจิจิเพรสรายงานว่า นายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการในรัฐสภาว่า จะต้องคิดอย่างจริงจังว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้การฟื้นการสอบสวนได้ผลจึงได้พิจารณาเรื่องนายกรัฐมนตรีอาจจะไปเยือนเกาหลีเหนือ รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเนื่องจากครอบครัวผู้ถูกลักพาตัวอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ นายโยชิฮิเดะ สุกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวช่วงสุดสัปดาห์ว่า รัฐบาลจะส่งคณะเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์การสอบสวนในเกาหลีเหนือ หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งสองประเทศตกลงจะฟื้นการสอบสวนเรื่องชะตากรรมของชาวญี่ปุ่นที่ยังหายตัวไป แลกกับการที่ญี่ปุ่นจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือลงบางส่วน
สื่อในญี่ปุ่นระบุว่า หากผู้นำญี่ปุ่นไปเยือนเกาหลีเหนืออาจจุดกระแสถกเถียงขึ้น โดยเฉพาะในเกาหลีใต้และสหรัฐที่เป็นแกนนำโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือเรื่องโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ปัจจุบัน ญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ ส่วนหนึ่งเพราะญี่ปุ่นมองว่าเกาหลีเหนือไม่เต็มใจทำให้เรื่องลักพาตัวชาวญี่ปุ่นช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 และ 1980 มีความชัดเจน เกาหลีเหนือยอมรับเมื่อปี 2545 ว่าลักพาตัวชาวญี่ปุ่น 13 คนไปฝึกภาษาและประเพณีญี่ปุ่นให้แก่สายลับเกาหลีเหนือ ชาวญี่ปุ่น 5 คนเดินทางกลับประเทศ ในภายหลัง ส่วนอีก 8 คนเกาหลีเหนืออ้างว่าเสียชีวิตแล้วแต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน ทำให้ญี่ปุ่นไม่พอใจ โดยญี่ปุ่นเชื่อว่า ในความเป็นจริงอาจมีพลเมืองของตนถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไปหลายสิบ หรืออาจจะหลายร้อยคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี