วอชิงตัน (เอพี/บีบีซี นิวส์) - นายจ้างนักข่าวชาวอเมริกันที่ถูกตัดหัวอ้างกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามหรือไอเอสเรียกเงินค่าไถ่และกับตัวเขามากกว่า 132.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สหรัฐยอมรับ ไอเอส เป็นกลุ่มที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยเผชิญในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา พร้อมเตือน ตะวันออกกลางอาจต้องเผชิญการสู้รบที่ยาวนานเพื่อเอาชนะกลุ่มติดอาวุธดังกล่าว
นายฟิลิป บัลโบนี ประธานบริหารของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ โกลบอลโพสต์ เปิดเผยว่า กลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลาม หรือไอเอส ซึ่งได้ฆ่าตัดคอนักข่าวอิสระชาวอเมริกันนายเจมส์ โฟลีย์ ในประเทศซีเรีย ต้องการเงินค่าไถ่ 132.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4,290 ล้านบาท) เพื่อแลกกับการปล่อยตัวเขา ซึ่งข้อเรียกร้องดังกล่าวนี้ถูกส่งทางอีเมล์ถึงครอบครัวของนายโฟลีย์ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ โดยบัลโบนี ซึ่งเป็นนายจ้างของโฟลีย์ ระบุว่า กลุ่มไอเอสได้ยื่นข้อเรียกร้องขอเงินค่าไถ่ครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลของประเทศในยุโรปยอมจ่ายเงินค่าไถ่เพื่อแลกกับชาวยุโรปที่ถูกจับตัว แต่น้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับที่กลุ่มหัวรุนแรงขอในกรณีของโฟลีย์นอกจากนี้ รัฐบาลของสหรัฐ ยังมีนโยบายห้ามเจรจาต่อรองกับกลุ่มก่อการร้ายรวม และไม่จ่ายเงินค่าไถ่กรณีการจับตัวประกันด้วย
นายโฟลีย์ถูกลักพาตัวในเดือนพ.ย.2555 และกลุ่มไอเอสได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่นายโฟลีย์ถูกฆ่าตัดคอนำผ่านเว็บไซต์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปวิดีโอ กลุ่มไอเอส ยังขู่ฆ่านักข่าวชาวอเมริกันอีกคนหนึ่งที่ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ หากสหรัฐไม่ยอมหยุดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มหัวรุนแรงในภาคเหนือของอิรัก อย่างไรก็ตาม สหรัฐยังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใกล้เมืองโมซูล โดยไม่สนใจคำเตือน
ขณะที่เครื่องบินรบสหรัฐปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหม่ถล่มกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส ในภาคเหนือของอิรักแม้ว่าจะมีคำขู่จากกลุ่มไอเอสว่า จะฆ่าตัวประกันชาวอเมริกันคนที่ 2 เพื่อเป็นการแก้แค้นการโจมตี โดยเครื่องบินรบของกองทัพเรือสหรัฐ และอากาศยานไร้คนขับยังโจมตีเพื่อสนับสนุนกองกำลังชาวเคิร์ดและกองทัพอิรักที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มไอเอสใกล้เมืองโมซูล ทั้งนี้ ตั้งแต่มีคลิปวิดีโอฆ่าตัดหัวนายโฟลีย์ออกมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐก็ได้ปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่ 14 ครั้ง ใกล้เขื่อนเมืองโมซูล ที่อิรักยึดคืนได้จากกลุ่มไอเอสเมื่อต้นสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี สหรัฐยอมรับ ไอเอส เป็นกลุ่มที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยเผชิญในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา พร้อมเตือนว่าภูมิภาคตะวันออกกลางอาจต้องเผชิญการสู้รบที่ยาวนานเพื่อเอาชนะกลุ่มติดอาวุธดังกล่าว แต่การกำจัดกลุ่มดังกล่าวทำได้ โดยชุมชนมุสลิมนิกายสุหนี่ในพื้นที่จะต้องไม่ยอมรับ และมหาอำนาจในภูมิภาคจะต้องผนึกกำลังกันต่อต้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี