เซียร์ราลีโอนพบผู้ป่วยอีโบลาเพิ่ม
ทั้งที่ปิดประเทศมา 3 วันแล้ว
อังกฤษเดินหน้าทดสอบวัคซีน
ฟรีทาวน์/ลอนดอน/เจดดาห์ (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - กลุ่มอาสาสมัครในเซียร์ร่า ลีโอน พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลาเพิ่มขึ้น หลังออกตระเวนตามบ้านเรือนประชาชน ในช่วงประกาศเคอร์ฟิวส์ ขณะที่การทดลองวัคซีนอีโบลา ของทีมวิจัยในอังกฤษ กำลังดำเนินไปด้วยดี
ท้องถนนสายต่างๆ ภายในกรุงฟรีทาวน์ ของเซียร์ร่า ลีโอน ยังคงว่างเปล่าตลอดช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากประชาชนพากันอยู่แต่ในอาคารบ้านเรือนของตัวเอง ตามมาตรการประกาศเคอร์ฟิวของทางการระหว่างวันที่ 19-21 กันยายน เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา อย่างไรก็ตาม มีประชาชนบางส่วนที่ท้าทายมาตรการเคอร์ฟิว และมีการโจมตีกลุ่มที่กำลังฝังศพผู้ป่วย ที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลา แต่สามารถหลบหนีไปได้ แม้ว่าตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วก็ตาม
นายสตีเฟ่น เกาไจ ผู้ประสานงานศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านเชื้อไวรัสอีโบลา เปิดเผยว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และจากการที่กลุ่มอาสาสมัครออกตระเวนตามบ้านเรือนประชาชน ก็พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลาเพิ่มขึ้น เช่น ที่เมืองพอร์ทโลโค พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลา 22 คน และถูกนำตัวไปเข้ารับการรักษาแล้ว ส่วนที่เมืองมาเกนี พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลา 13 คน และยังมีรายงานผู้เสียชีวิต 2-3 คน ซึ่งรายงานทั้งหมดเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทางศูนย์ไม่เคยทราบมาก่อน
ด้านทีมนักวิจัยและพัฒนาวัคซีนในอังกฤษ ระบุว่า ผลการทดสอบการใช้วัคซีนอีโบลาในอาสาสมัครที่เป็นมนุษย์ พบว่ามีความปลอดภัยดี โดยทีมวิจัยดังกล่าว นำโดยเอเดรียน ฮิลล์ ศาสตราจารย์และผู้อำนวยการสถาบันเจนเนอร์ ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ได้ทำการทดลองวัคซีนอีโบลา ในอาสาสมัคร 3 คน เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากทำการทดลองในสัตว์มาก่อนหน้านี้ และประสบความสำเร็จ ซึ่งจนถึงขณะนี้ อาสาสมัครทั้ง 3 คน ยังปลอดภัยดี แต่ยังคงต้องทดสอบต่อไป เกี่ยวกับประสิทธิผลของวัคซีน
เอเดรียน ฮิลล์ แสดงความเชื่อมั่นว่า วัคซีนที่กำลังทดลองดำเนินไปด้วยดี แต่สิ่งที่ยากลำบากอย่างแท้จริง คือ การประมาณการณ์เกี่ยวกับความแข็งแกร่ง ในการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ซึ่งช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ทีมวิจัยจะมีข้อมูล เกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน และข้อมูลการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับการทำงานของวัคซีน ให้แก่องค์การอนามัยโลก และหน่วยงานระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจว่า จะมีการเดินหน้าผลิตวัคซีนตัวนี้ต่อไปหรือไม่ เพื่อส่งไปยังแอฟริกาตะวันตก ภายในช่วงปลายปีนี้
ส่วนทางการซาอุดิอาระเบียออกโปรแกรมใหม่ ในการใช้ตรวจสอบหาเชื้อไวรัสอีโบลา ในผู้โดยสารทุกคน ที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติคิง อับดุลลาซิซ ในเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เป็นการเตรียมพร้อมรองรับผู้แสวงบุญชาวมุสลิม 3 ล้านคน ที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการประกอบพิธีฮัจญ์ ประจำปีนี้ และมีกลุ่มผู้แสวงบุญบางส่วน ที่จะเดินทางมาจากแอฟริกา โดยศูนย์ตรวจสุขภาพประจำท่าอากาศยาน จะใช้กล้องตรวจจับความร้อน และการสังเกตการณ์ต่างๆ เพื่อตรวจหาสัญญาณที่จะบ่งชี้ถึงการติดเชื้อไวรัสอีโบลา และหากพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลา ก็จะมีทีมเคลื่อนที่เร็วเตรียมพร้อม ในการนำตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อดังกล่าวส่งโรงพยาบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี