คาสโตรพร้อมร่วมมือสหรัฐรับมืออีโบลา
แต่ยังไม่ปรับปรุงสัมพันธ์
ปิดท่ารถดัลลัสหลังมีคนอ้วก
ฮาวาน่า/ดัลลัส (เอพี/เอเอฟพี/รอยเตอร์ส) - อดีตผู้นำทรงอิทธิพลของคิวบาประกาศความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสอีโบลา ส่วนที่เมืองดัลลัส มีการสั่งปิดสถานีให้บริการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสารประจำทางและรถไฟ หลังจากมีรายงานว่า มีสตรีคนหนึ่งมีอาการป่วย และอาเจียน
บรรดาหนังสือพิมพ์ในคิวบา ฉบับวันเสาร์ ตีพิมพ์เผยแพร่บทบรรณาธิการ ของนายฟิเดล คาสโตร อดีตประธานาธิบดีคิวบา ระบุว่า คิวบามีความยินดีที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ที่กำลังระบาดในแถบแอฟริกาตะวันตก และอีกหลายประเทศในขณะนี้ แต่ระบุว่า การดำเนินการเกี่ยวกับภารกิจดังกล่าว ไม่ใช่ความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ของสองประเทศ ที่มีความเป็นปรปักษ์ต่อกัน มาเป็นเวลานานหลายปี
สำหรับบทบรรณาธิการดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของคิวบา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ทีมแพทย์ของคิวบาและเจ้าหน้าที่จากกองทัพสหรัฐฯ จะทำงานเคียงข้างกัน ในพื้นที่แอฟริกาตะวันตก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของนานาชาติ ในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4,546 คน
ส่วนที่เมืองดัลลัส ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐฯ มีการปิดทำการสถานีไวท์ ร็อก ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีของดัลลัส เอเรีย เรพิด ทรานซิท (Dallas Area Rapid Transit) หรือ ดีเออาร์ที (DART) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสารประจำทางและรถไฟในเมืองดัลลัส เมื่อวันเสาร์ หลังจากมีรายงานว่า มีสตรีคนหนึ่งมีอาการป่วย และอาเจียน ที่สถานีดังกล่าว แต่นายเคลย์ เจนกินส์ ผู้พิพากษาประจำเขตดัลลัส ยืนยันว่า จากการได้รับแจ้งจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของสถานีดีเออาร์ที พบว่า สตรีคนดังกล่าว ไม่ได้มีรายชื่ออยู่ในบัญชีเฝ้าระวัง และติดตามอาการ ของผู้ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะติดเชื้อไวรัสอีโบลา อย่างไรก็ตาม มีการส่งทีมกำจัดของเสียอันตราย เข้ามาตรวจสอบที่สถานีแห่งนี้ ก่อนกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง
ทั้งนี้ สตรีคนดังกล่าว ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า เธอพักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์เดียวกับนายโธมัส อีริก ดันแคน ชาวไลบีเรีย ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลา เป็นรายแรกในสหรัฐฯ ขณะที่ในช่วงรุ่งเช้าของวันเสาร์ มีการนำสิ่งของต่างๆ จากห้องพักในโรงพยาบาลเท็กซัส เฮลท์ เพรสไบทีเรียน ที่นายดันแคนพักรักษาตัว ในช่วงก่อนเสียชีวิต ขนใส่รถบรรทุกแช่แข็ง เพื่อนำไปเตรียมเผาทิ้งแบบอินซิเนอเรชั่น ซึ่งเป็นกระบวนการเผาไหม้ของเสียหรือขยะที่อุณหภูมิสูง ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ด้านรัฐบาลของประเทศเบลิซประกาศคำสั่งห้ามการเดินทาง ไปยังกลุ่มประเทศในแอฟริกาตะวันตก ที่กำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในขณะนี้ และยังมีคำสั่งห้ามนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใดก็ตาม เดินทางเข้าประเทศ หากพบว่านักเดินทางคนดังกล่าว เดินทางไปยังแถบแอฟริกาตะวันตก ก่อนที่จะเดินทางเข้าเบลิซ 30 วัน โดยคำสั่งห้ามดังกล่าวมีขึ้น หลังจากทางการเบลิซไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารของเรือสำราญ ที่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหญิงของสหรัฐฯ ซึ่งต้องสงสัยติดเชื้ออีโบลา พักอยู่ในเรือลำดังกล่าว ระหว่างหยุดแวะที่เบเลิซ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี