โตเกียว (เอเอฟพี) - สื่อในญี่ปุ่นรายงานอ้างเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า นางจิซาโกะ คาเคฮิ เศรษฐินีผู้ต้องสงสัยฆาตกรรมสามี 7 คน มีหนี้สินหลายล้านเยนจากการเล่นหุ้นขาดทุนในช่วงที่แต่งงานกับสามีคนที่ 4 และหลังจากที่เขาเสียชีวิตไม่นานเธอก็หาเหยื่อรายใหม่อีกหลายคน เน้นชายชราร่ำรวย ป่วย และไม่มีลูกหลาน
สำนักข่าวจิจิเพรสรายงานว่า นางคาเคฮิมีหนี้สิน 10 ล้านเยน (ราว 3 ล้านบาท) จากการเล่นหุ้นขาดทุนในช่วงที่แต่งงานกับนายอิซาโอะ คาเคฮิ สามีคนที่ 4 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ต่อมาเขาเสียชีวิตในอีกหนึ่งเดือนถัดมาและมีไซยาไนด์ในกระแสเลือด หนังสือพิมพ์นิกกังสปอร์ตส์รายงานว่า เธอคบหาผู้ชายอีกหลายคนหลังจากนายคาเคฮิเสียชีวิตได้ไม่นาน ตำรวจบุกค้นบ้านที่เมืองเกียวโตพบไซยาไนด์ในขยะ นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การให้ยาและหนังสือทางการแพทย์ที่เธอซ่อนไว้ในอพาร์ทเมนท์ทางตอนใต้ของเมืองเกียวโต
นางคาเคฮิวัย 67 ปี อดีตพนักงานธนาคารถูกจับกุมเมื่อต้นสัปดาห์ฐานต้องสงสัยฆาตกรรมสามีคนที่ 7 วัย 75 ปี เธอได้รับมรดกร่วม 1,000 ล้านเยน (ร่วม 300 ล้านบาท) จากเงินประกันชีวิตและทรัพย์สินของสามีและคนรักที่เสียชีวิตหมดทั้ง 7 คน หนังสือพิมพ์โยมิอูริรายงานว่า เธอเปิดบัญชีเงินฝากสิบกว่าบัญชีโดยใช้ชื่อต่าง ๆ กัน ด้านหนังสือพิมพ์อาซาฮีอ้างเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า นางคาเคฮิมีความสัมพันธ์กับผู้ชายมากกว่า 10 คน ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่รู้จักผ่านสำนักงานหาคู่ เน้นชายชรา มีที่ดินทรัพย์สิน แต่ไม่มีลูกหลาน หากป่วยเป็นโรคด้วยยิ่งดี เธอให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อเดือนก่อนว่า อยากมีชีวิตวัยชราที่สงบสุข เธอไม่ต้องการเงินทอง แต่ต้องการผู้ชายดี ๆ สักคน ส่วนมรดกของคนรักที่ยังไม่ได้แต่งงานเธอมีเอกสารยืนยันว่าพวกเขาระบุไว้ว่าจะยกให้เธอเพื่อแสดงความจริงใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี