ไอเอสแพร่คลิปสุดโหด
ตัดหัวญีปุ่น
หลังพ้นเส้นตาย72ชม.
เหิมเสนอข้อต่อรองใหม่
ปล่อยตัวมือระเบิดหญิง
แลกอิสระเหยื่อคนที่เหลือ
กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอเอส ได้สังหารหนึ่งในตัวประกันชาวญี่ปุ่นแล้ว หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6,400 ล้านบาท เพื่อแลกกับชีวิตของ 2 ตัวประกัน ภายใน 72 ชั่วโมง ซึ่งตรงกับเวลา 14.50 น. วันศุกร์ที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา(ตามเวลาญี่ปุ่น) โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้ที่ญี่ปุ่นประกาศให้เงินสนับสนุนประเทศในตะวันออกกลางที่ต่อสู้กับกลุ่มไอเอส
คลิปดังกล่าวซึ่งมีความยาวราว 3 นาที ถูกเผยแพร่เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา โดยเป็นภาพของนายเคนจิ โกโตะ นักข่าวญี่ปุ่น วัย 47 ปี หนึ่งในตัวประกัน ถือภาพนิ่งร่างของนายฮารุนะ ยูกาวะ วัย 42 ปี ตัวประกันอีกคนหนึ่งที่ถูกสังหารด้วยการถูกตัดศีรษะ นอนอยู่บนพื้น พร้อมเผยแพร่เสียงของนายโกโตะ ที่บอกว่ากลุ่มไอเอสต้องการให้ปล่อยตัวมือระเบิดหญิง ซาจิดา อัล-ริชาวี ที่ขณะนี้ถูกขังในจอร์แดน เพื่อแลกกับการให้เขาได้รับอิสรภาพ
ขณะที่ เดลี่ เมล สื่ออังกฤษ อ้างว่า ในคลิปดังกล่าวมีคลิปเสียงที่บรรยายภาพนิ่งเป็นเสียงของนายโกโตะ ที่กล่าวว่าเพื่อนของเขาถูกสังหารแล้ว พร้อมตำหนิว่าความผิดทั้งหมดเป็นของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ช่วยเหลือเพื่อนของเขาไม่ได้ และตัวของนายโกโตะ จะถูกสังหารเป็นรายถัดไป หากรัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่ทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มไอเอส
อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษวิเคราะห์ว่าภาพแสดงการเสียชีวิตของนายยูกาวะ ดูเหมือนถูกตัดต่อขึ้นช่วงระหว่างลำตัว ทำให้เชื่อว่าการสังหารโหดอาจเป็นแค่เรื่องที่กุขึ้น ซึ่งหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการวิเคราะห์คลิปดังกล่าวว่าเป็นของจริงหรือไม่ แต่ยืนยันความถูกต้องถึงการเสียชีวิตของนายยูกาวะ
ด้านสำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น รายงานว่า คลิปดังกล่าวถูกส่งไปยังอีเมลของภรรยาของหนึ่งในตัวประกัน และหากวิดีโอคลิปถูกยืนยันว่าเป็นของจริง ทางสื่ออังกฤษ และสหรัฐฯ ก็ให้ความเห็นว่ามันแสดงให้เห็นว่ากลุ่มไอเอส หันมาใช้วิธีใหม่แล้ว คือ พวกเขาไม่ต้องการเงินค่าไถ่ 200 ล้านดอลลาร์อีกแล้ว แต่ต้องการแลกเปลี่ยนชีวิตระหว่างนายโกโตะ กับ ซาจิดา อัล-ริชาวี นักโทษมือระเบิดหญิงชาวอิรักที่ถูกจำคุกในจอร์แดน
“พวกเขาไม่ต้องการเงินแล้ว ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการสนับสนุนทุนให้ผู้ก่อการร้าย พวกเขาแค่เรียกร้องให้ปล่อยตัวซาจิดา อัล-ริชาวี ที่ถูกคุมขังอยู่เท่านั้น” เสียงซึ่งอ้างว่าคือนายโกโตะ ระบุ
สำหรับ ซาจิดา อัล-ริชาวี ถูกจับกุมในประเทศจอร์แดนเมื่อปี 2005 ฐานพยายามก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีงานแต่งงานที่โรงแรมในกรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน แต่รอดมาได้เพราะระเบิดของเธอไม่ทำงาน ขณะที่สามีของเธอจุดระเบิดสำเร็จ ทำให้เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตราว 60 ศพ โดยปัจจุบัน ซาจิดา อัล-ริชาวี อยู่ระหว่างอุทธรณ์โทษประหาร และสื่อสหรัฐฯอย่าง NBC News อ้างว่า ซาจิดา อัล-ริชาวี เป็นน้องสาวของผู้บัญชาการระดับสูงภายใต้ อาบู มูซาบ อัล-ซาร์คาวี อดีตผู้นำอัลกออิดะห์ในอิรัก ซึ่ง อาบู บาการ์ อัล-บักห์ดาดี ผู้นำคนปัจจุบันของกลุ่มไอเอส เคยทำงานเป็นนักรบภายใต้การนำของอัล-ซาร์คาวี
ด้าน Karima Bennoune ศาสตราจารย์กฎหมายระหว่างประเทศประจำมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ยูซีเดวิส ซึ่งมีผู้ติดตามยูทิวบ์ร่วมล้านกว่าคน กล่าวว่า ดูเหมือนข้อต่อรองของกลุ่มเอเอส ได้เปลี่ยนไปเพื่อมุ่งหวังทำโฆษณาชวนเชื่อมากกว่าเงิน โดยต้องการให้ภาพลักษณ์ของกลุ่มไอเอส ถูกมองว่าเป็นผู้ปกป้องหญิงมุสลิม โดยเธอได้โยงไปถึงภาษาที่ถูกใช้ในวิดีโอคลิปล่าสุดที่เรียกขานมือระเบิดหญิงว่า “น้องสาวที่ถูกกักขัง” ซึ่งสื่อเป็นนัยถึงการสร้างภาพชวนเชื่อ
ขณะที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ NHK เมื่อวันที่ 25 มกราคม ว่า รู้สึกอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก แต่จะพยายามช่วยตัวประกันคนที่เหลือให้สำเร็จ และคาดว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวน่าจะเป็นของจริง พร้อมแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย และประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง พร้อมปฏิเสธที่จะกล่าวถึงข้อเสนอการแลกตัวนายโกโตะ กับมือระเบิดหญิง โดยกล่าวเพียงว่าญี่ปุ่นจะไม่ต่อรองกับกลุ่มก่อการร้าย
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเอพี และสื่อรัฐบาลจอร์แดน รายงานอ้างว่า นายอาเบะ ได้ต่อสายโทรศัพท์ปรึกษากษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนในวันเสาร์ที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา โดยไม่ได้ระบุว่าผู้นำทั้งคู่ได้สนทนาเรื่องใดบ้าง แต่มีการวิเคราะห์ว่าอาจมีการปรึกษาถึงข้อเรียกร้องล่าสุดของกลุ่มไอเอส
ขณะที่นายโชอิจิ ยูกาวะ บิดาวัย 74 ปีของนายฮารุนะ ยูกาวะ แถลงความรู้สึกโดยขอไม่ให้เปิดเผยใบหน้าที่กรุงโตเกียว ว่า “ผมหวังอยู่ในใจลึกๆว่านั่นจะไม่ใช่เรื่องจริง หากผมได้พบกับฮารุนะอีกครั้ง ผมจะกอดเขานานๆ” โดยเขายังเผยว่า ลูกชายของเขาต้องการเปิดธุรกิจด้านให้บริการความมั่นคงเคยถูกจับตัวในซีเรียในปีที่ผ่านมา และต้องขอโทษที่ลูกชายของเขาทำให้ทุกคนเดือดร้อน
ส่วนพ่อตาของนายโกโตะ กล่าวว่า “เรายังไม่สามารถวางใจได้จนกว่า เคนจิ จะมีชีวิตกลับมาถึงญี่ปุ่นได้ เพราะเขาอาจถูกสังหารในนาทีใดก็ได้ ผมต้องการให้เขากลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด”
ขณะที่ จุนโกะ อิชิโด มารดาวัย 78 ปีของนายโกโตะ กล่าวว่า “ดิฉันรู้สึกหนักอึ้งเมื่อเห็นคลิปล่าสุด ดิฉันสงสัยว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นจริงหรือในโลกใบนี้ ดิฉันคิดว่าสถานการณ์ที่โหดร้ายเกิดขึ้นเกินกว่าที่ดิฉันจะคาดการณ์ได้ ดิฉันไม่สามารถมองโลกในแง่ดีมากไปกว่านี้”
อย่างไรก็ดี ชาวญี่ปุ่นพากันแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลายต่อกรณีคลิปดังกล่าว โดยบางส่วนยังไม่เชื่อว่านายยูกาวะ ถูกสังหารจริง และเชื่อว่ากลุ่มไอเอสต้องการเงินและการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิงชาวอิรัก จึงไม่คิดว่ากลุ่มไอเอสจะสังหารตัวประกัน รวมถึงคาดหวังว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะยินยอมจ่ายค่าไถ่ตัวประกัน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และช่วยชีวิตตัวประกันไว้ได้
ด้านนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวประณามการสังหารตัวประกันญี่ปุ่น ว่า “เราขอยื่นคำขาดอีกครั้งให้ปล่อยตัวประกันพลเมืองญี่ปุ่นที่เหลือ สหรัฐฯพร้อมยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับพันธมิตรญี่ปุ่นของเรา ในความร่วมมือพัฒนาความมั่นคงในภูมิภาคที่เริ่มจากชายฝั่งญี่ปุ่น”
เช่นเดียวกับ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่ประณามการกระทำของกลุ่มไอเอส ว่า เป็นการฆ่าสังหารที่ป่าเถื่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี