27 ก.พ.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอล่าสุด ซึ่งเป็นการทำลายโบราณวัตถุอันล้ำค่า ทั้งนี้ นักโบราณคดีหลายคนนำเหตุการณ์ครั้งนี้ ไปเปรียบเทียบเหตุการณ์ทำลายพระพุทธรูปแห่งเมืองบามิยัน โดยกลุ่มตาลีบัน
ในคลิปจะเห็นบรรดานักรบไอเอสใช้ค้อนและเครื่องขุดเจาะ ทำลายรูปปั้นโบราณในพิพิธภัณฑ์ในเมืองโมซุล ของอิรัก ซึ่งรวมถึงโบราณวัตถุจากยุคอัสซีเรียน และยุคเฮเลนิสติค ซึ่งมีอายุหลายร้อยปีก่อนคริสตกาล
รวมถึงทำลาย "ลามาซซู" เทพผู้พิทักษ์ของชาวอัสซีเรียน ซึ่งมีร่างเป็นกระทิงหรือสิงโตมีปีก และมีศรีษะเป็นมนุษย์ ที่ถูกประดิษฐานอยู่ที่ประตูเนอร์กัลของเมืองโมซุลอีกด้วย
"ชาวมุสลิมทั้งหลาย โบราณวัตถุเหล่านี้คือสิ่งที่ประชาชนในยุคก่อนบูชา แทนที่จะบูชาในพระอัลเลาะห์ พวกอัสซีเรียน อัคคาเคียน และอีกหลายกลุ่มชนพันธุ์นับถือเทพมากมาย และอาศัยเครื่องบูชาเพื่อได้ใกล้ชิดเทพเหล่านี้" นักรบไอเอส กล่าว และอ้างว่า ศาสดามูฮัมหมัดได้ทำลายรูปปั้นเช่นนี้ในเมืองเมกกะด้วยน้ำมือของท่านเอง และนั่นจึงเป็นเหตุให้พวกเขาต้องทำเช่นเดียวกัน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า โบราณวัตถุเหล่านี้มีทั้งโบราณวัตถุของจริงและจำลอง รวมทั้งโบราณวัตถุที่ถูกประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนหลายชิ้น ขณะที่ โธมัส แคมเบลล์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์เมโทรโพลิแทนมิวเซียมออฟอาร์ท ประณามว่า การกระทำที่ไร้สติ นับเป็นหายนะของพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในตะวันออกกลาง
ด้าน องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของกลุ่มไอเอสทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี