การเปิดตัวลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2016 ของนาง “ฮิลลารี คลินตัน” ในครั้งนี้ เธอใช้โซเชียลมีเดียในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อครั้งที่ประสบความพ่ายแพ้ให้กับบารัค โอบามา ในปี 2008 แสดงให้เห็นว่าเธอจดจำบทเรียนในการเลือกตั้งในครั้งที่แล้วได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เธอยังพยายามเข้าถึงชาวอเมริกันในระดับรากหญ้า และชนชั้นกลาง เห็นได้จากคลิปวีดีโอความยาว 2 นาทีที่เธอกล่าวในการเปิดตัว โดยระบุว่าคนอเมริกันสามัญชนซึ่งผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากจากวิกฤติเศรษฐกิจยังต้องการนักต่อสู้เพื่อพวกเขา และเธอก็พร้อมที่จะเป็นแชมเปี้ยนคนนั้น
นอกจากนี้ ในคลิปดังกล่าวยังเน้นภาพครอบครัวคนอเมริกันชนชั้นกลางที่ออกมาเปิดเผยถึงความใฝ่ฝันที่พวกเขาต้องการ และทันทีที่ประกาศตัวอย่างเป็นทางการ เธอก็เดินหน้าเข้าหาฐานเสียงรากหญ้าด้วยการขึ้นรถตู้ออกเดินสายในรัฐไอโอวา ซึ่งเป็นรัฐแรกที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งหยั่งเสียงของพรรค
ทีมงานหาเสียงของนางคลินตัน เปิดเผยว่า เธอจะใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ต่อจากนี้ในการจัดตั้งองค์กรรากหญ้าและติดต่อพบปะกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยตรง ส่วนการปราศรัยใหญ่และหาเสียงอย่างเป็นทางการคาดว่าจะเริ่มต้นในกลางเดือน พ.ค.
สำหรับนโยบายในการหาเสียงครั้งนี้ คลินตัน จะชูประเด็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และชนชั้นกลาง รวมทั้งขยายโอกาสให้กับครอบครัวของคนทำงานอีกด้วย ผู้สังเกตการณ์มองว่าเธอจะต้องพบปะกับฐานเสียงในรัฐสำคัญๆ เพื่อลบภาพที่ถูกมองว่า
ห่างเหินกับชาวบ้าน ซ่อนเร้นปกปิด และไม่เคยได้สัมผัสกับชาวอเมริกันอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมา แม้ว่าเธอจะอยู่ในแวดวงของคนทำงานในทำเนียบขาว และกระทรวงต่างประเทศ จนถูกขนานนามว่าเป็นผู้ที่อยู่วงในของรัฐบาลวอชิงตัน แต่สิ่งที่เป็นบทเรียนของเธอในการแข่งขันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเมื่อครั้งต่อสู้กับโอบามา ทำให้เธอไม่อาจหลีกเลี่ยงความสำคัญที่จะต้องติดต่อและมีปฏิสัมพันธ์กับคนในระดับสามัญชน
คลินตัน เคยเสนอตัวชิงตำแหน่งตัวแทนของพรรคเดโมแครต เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐมาแล้วในปี 2008 แต่ต้องพ่ายให้กับโอบามา เนื่องจากนายโอบามาใช้วิธีการรณรงค์หาเสียงอย่างชาญฉลาด ด้วยการใช้โซเชียลมีเดียในการดึงดูดความสนใจมายังตัวเขา และยังสามารถใช้โซเชียล มีเดีย ในการระดมเงินบริจาคก้อนใหญ่จากกลุ่มผู้บริจาครายเล็กได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ผลสำรวจของซีเอ็นเอ็น/โออาร์ซี ที่จัดทำขึ้นเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า นางคลินตันมีคะแนนนำคู่แข่งคนสำคัญของเธอ อย่างรองประธานาธิบดีโจ ไบเด้น รวมถึงสมาชิกพรรคเดโมแครตคนอื่นๆ คือ นายมาร์ติน โอ มอลเลย์ อดีตผู้ว่าการรัฐแมรี่แลนด์ อดีตวุฒิสมาชิก จิม เว็บบ์ จากรัฐเวอร์จิเนีย และนายเบอร์นี่ แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกจากรัฐเวอร์มอนต์ที่ไม่ได้สังกัดพรรคใด แต่แม้เธอจะได้เปรียบในการหยั่งเสียงเป็นตัวแทนพรรค แต่คะแนนนิยมเมื่อเทียบกับฝั่งรีพับลิกัน ก็ยังห่างกันไม่มากนัก เชื่อว่าเธอจะต้องแข่งขันกับผู้สมัครจากฝั่งรีพับลิกัน อย่างดุเดือดในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ซึ่งก่อนคลินตันประกาศลงสู้ศึกครั้งนี้ ยังถูกรีพับลิกัน ออกมาวิจารณ์ในเรื่องการใช้อีเมล์ส่วนตัวในการติดต่อราชการระหว่างเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ รวมถึงกรณีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการเป็นผู้อำนวยการมูลนิธิคลินตันของครอบครัว ซึ่งถูกเปิดโปงว่ารับเงินบริจาคจากรัฐบาลต่างชาติหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งเธอก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งในมูลนิธิแล้ว นอกจากนี้ พรรครีพับลิกัน ยังได้เผยแพร่โฆษณาที่มีชื่อเรื่องว่า “Stop Hillary” หรือ “หยุด ฮิลลารี” ก่อนที่เธอจะประกาศลงแข่งขันเพื่อชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว โดยมีเนื้อหาโจมตีที่เธอไม่ยอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีสถานกงสุลสหรัฐในเมืองเบงกาซีของลิเบีย ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐต้องเสียชีวิต
นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่า คลินตันอาจถูกโจมตีในเรื่องสุขภาพ จากการที่มีอายุถึง 67 ปี ซึ่งทางรีพับลิกันอาจจะนำเรื่องสุขภาพของเธอมาเป็นประเด็นในการโจมตีว่ามีสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมจะทำงานในตำแหน่งสำคัญ หลังจากที่เธอเคยเป็นลมและสมองกระทบกระเทือนในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
หลังจากนางคลินตันประกาศตัวลงสูู้ศึกเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ทางผู้สมัครจากรีพับลิกันหลายคน ก็ไม่รอช้าที่จะเปิดฉากโจมตีทันที โดยนายแรนด์ พอล ผู้สมัครจากรีพับลิกันที่ประกาศชิงประธานาธิบดีด้วย โจมตีว่านางคลินตันเป็นตัวแทนที่แย่ที่สุดของรัฐบาล ทั้งเหลิงอำนาจ คอร์รัปชั่นและปกปิด มีผลประโยชน์ทับซ้อนและเป็นผู้นำที่ล้มเหลวจนก่อผลเสียหายใหญ่หลวง ขณะที่เจ๊บ บุช อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริดาที่คาดว่าจะลงสู้ศึกในครั้งนี้เช่นเดียวกัน กล่าวว่า พวกตนต้องทำได้ดีกว่าโอบามาและคลินตันในด้านนโยบายต่างประเทศ นอกจากนี้ผู้สมัครจากรีพับลิกัน ยังพยายามเชื่อมโยงตัวเธอกับประธานาธิบดีโอบามา โดยระบุว่าการเลือกนางคลินตันก็ไม่แตกต่างจากการให้โอบามาได้อยู่ในทำเนียบขาวเป็นสมัยที่สาม
อย่างไรก็ตาม ทางทีมหาเสียงของนางคลินตัน ได้ตอบโต้ว่าพรรครีพับลิกันควรระวังในการใช้วิธีการโจมตีคลินตัน เพราะจะมีสตรีชาวอเมริกันจำนวนมากที่ออกมาปกป้องเธอ ขณะที่ประธานาธิบดีโอบามา ได้ระบุว่านางคลินตัน จะเป็นประธานาธิบดีที่ยอดเยี่ยม หากเธอลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ทั้งยังกล่าวสนับสนุนอย่างแข็งขัน ในความสามารถของนางคลินตันว่า นางคลินตันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่ดีเยี่ยม และสามารถจัดการทุกเรื่องได้เป็นอย่างดี ด้วยตัวของเธอเอง ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาหารือใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี