จำนวนผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ขนาด 7.8 แมกนิจูด เมื่อวันเสาร์ที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา มีไม่ต่ำกว่า 2,000 รายแล้ว ซึ่งรวมถึงคุณมาริสา อีฟ จิระวงศ์ ผู้ช่วยแพทย์ชาวสหรัฐฯเชื้อสายไทยที่ทำงานอยู่ในแคมป์ที่เชิงภูเขาเอเวอเรสต์ และแดน เฟรดินเบิร์ก ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิล ขณะที่ 6 นิสิตแพทย์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว.) ยังติดต่อไม่ได้ โดยหน่วยงานกู้ภัยต่างทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือและค้นหาผู้รอดชีวิต
สังเวยแผ่นดินไหวเนปาล2พันศพ
สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 26 เมษายน ว่า กระทรวงมหาดไทยของเนปาลได้ประเมินล่าสุดพบว่าเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.8 แมกนิจูด ในพื้นที่ภูเขาใกล้กรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาลเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตทะลุเกิน 2,000 คนแล้ว โดยเป็นผู้เสียชีวิตในเนปาล 1,953 คน อินเดีย 53 คน และทิเบตอีก 17 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีราว 5,000 คน โดยเฉพาะที่กรุงกาฏมาณฑุ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 700 คน ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 81 ปี นับจากปี 2477 ซึ่งแผ่นดินไหวครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 8,500 คน
“เอเวอร์เรสต์”ถล่ม!ฝัง18นักปีนเขา
นอกจากนี้ มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตจากหิมะถล่มทับค่ายพักบริเวณเชิงเขาเอฟเวอเรสต์จำนวน 18 คน ถือเป็นเหตุหิมะถล่มที่เทือกเขาเอฟเวอร์เรสต์ครั้งร้ายแรงที่สุดด้วย ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บมีอยู่ 61 คน และมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง โดยคาดว่ามีนักปีนเขาอยู่ที่ฐานเบสแคมป์บนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ราว 1,000 คนในขณะเกิดแผ่นดินไหว ซึ่ง เอเอฟพี รายงานว่า เฮลิคอปเตอร์ 6 ลำได้ลงจอดบริเวณฐานเบสแคมป์ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือนักปีนเขาที่ยังติดอยู่หลังเกิดหิมะถล่มแล้ว
ผู้บริหารกูเกิล-สาวลูกครึ่งไทยดับ
ในจำนวนผู้เสียชีวิตครั้งนี้รวมถึง แดน เฟรดินเบิร์ก วัย 33 ปี หัวหน้าฝ่ายนโยบายความเป็นส่วนตัวของกูเกิลเอ็กซ์ และทีมกูเกิล แอดเวนเจอร์ ที่เคยปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์เพื่อบันทึกภาพสำหรับกูเกิลแมพส์ด้วย โดย เฟรดินเบิร์ก ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ในกลุ่มผู้เสียชีวิตยังมี มาริสา อีฟ จิระวงศ์ ลูกครึ่งสาวชาวไทย-อเมริกัน ซึ่งมาจากเมืองเมดิสัน รัฐนิวเจอร์ซี และทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์อยู่ที่ฐานเบสแคมป์เชิงภูเขาเอเวอเรสต์ รวมอยู่ด้วย
6นิสิตแพทย์มศว.ยังสูญหาย
ขณะที่ น.ส.ชญามณฑน์ สุวรรณสัมฤทธิ์ นิสิตแพทย์ มศว. กล่าวว่า มีกลุ่มเพื่อนนิสิตแพทย์ มศว. 6 คน ได้ไปเที่ยวเนปาลตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา และมีกำหนดเดินทางกลับในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ แต่ขาดการติดต่อระหว่างการท่องเที่ยวเมืองกาฐมาณฑุ โดยวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ทราบว่ากลุ่มนิสิต มศว.ดังกล่าวจะออกเดินทางไปเดินเขาในเส้นทาง Annapurnaa circuit ซึ่งตลอด 2 วันที่ผ่านมาติดต่อกันทางไลน์ และโซเชียลมีเดียได้ แต่หลังเกิดเหตุคาดว่าน่าจะอยู่ที่ Ghorepani ก็ไม่สามารถติดต่อทั้ง 6 คนได้อีกเลย ทำให้ทางบ้านรู้สึกเป็นห่วงเป็นอย่างมาก
สำหรับรายชื่อทั้ง 6 คน มีดังนี้ 1.นายเจษฎา ศุภปีติพร(ตี๋) 2.นายดนูวิทย์ ใจแก้ว(ตูน) 3.นายวศิน ชัยวนนท์(ตั้ว) 4.นายนฤดล นาคหาญ(โอ๋) 5.น.ส.ธัญสุดา อรรถวิน(ไหม) และ 6.น.ส.นวลจันทร์ เจียรพัทนรักษ์(ลูกตาล) ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะตรวจสอบ เพื่อช่วยเหลือต่อไป
ผวา!“อาฟเตอร์ช็อค”ซ้ำ
ขณะเดียวกันยังได้เกิดอาฟเตอร์ช็อคขนาด 6.7 แมกนิจูด ทางทิศตะวันออกของกรุงกาฏมาณฑุ ส่งผลให้ประชาชนพากันวิ่งหนีออกมาอยู่กลางแจ้ง โดยแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงนิวเดลีของอินเดีย และหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของอินเดีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ในกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาลต่างเร่งเตรียมที่พักพิงชั่วคราวตามสถานที่ราชการและโรงเรียนให้กับราษฎรที่ส่วนใหญ่ต้องนอนทนความหนาวเหน็บที่ข้างถนน หรือในที่โล่ง เพราะไม่กล้าเสี่ยงเข้าบ้านพักท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นและสายฝนโปรยปรายเป็นบางจุด นอกจากนี้คาดว่าจะมีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากภายหลังเจ้าหน้าที่กู้ร่างผู้ที่ติดอยู่ตามซากอาคารขึ้นมาได้ ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ในเนปาลขณะเกิดเหตุคาดว่ามีราว 3 แสนคน
“โบราณสถาน”สำคัญกลายซาก
นอกจากนี้สำนักข่าวและสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆได้เผยภาพก่อนเกิด และหลังเกิดแผ่นดินไหว แสดงให้เห็นถึงเสียหายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ประวัติศาสตร์ของเมืองหลวงเนปาล อาคารบ้านเรือนและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเนปาลได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะหอคอยดาราห์รา และวัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปีชื่อ วัดมายุ เดวัล โดยหอคอยดาราห์รา หรือธาราฮารา ทาวเวอร์ เป็นอาคารสูง 9 ชั้น สร้างขึ้นในปี 2375 ขณะที่วัดมายุ เดวัล สร้างในปี 2233 ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก โบราณสถานทั้ง 2 แห่งตั้งอยู่ที่จตุรัสเดอร์บาร์ในเขตเมืองเก่าของนครกาฏมาณฑุ
สลดใช้“มือ”ขุดหาผู้รอดชีวิต
บีบีซี รายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเนปาลและชาวบ้านในหลายพื้นที่ต้องใช้มือระดมขุดค้นหาผู้รอดชีวิต เนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์ และถนนส่วนใหญ่ถูกตัดขาดจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ โดยทางการต้องเร่งขอความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยนานาชาติ
ขณะที่ความช่วยเหลือจากต่างประเทศเริ่มทยอยเดินทางถึงเนปาลแล้ว หลังสนามบินในกรุงกาฐมาณฑุเปิดใช้งานได้ โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศอินเดียเป็นชาติแรกที่ลำเลียงความช่วยเหลือมาถึง พร้อมสิ่งของบรรเทาทุกข์จำนวน 43 ตัน มีทั้งเต็นท์และอาหารรวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเกือบ 200 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากจีน 62 คนได้เดินทางถึงเนปาลแล้วเช่นกัน ส่วนปากีสถานได้ส่งโรงพยาบาลสนามขนาด 30 เตียง เข้ามาติดตั้งพร้อมด้วยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้วย
“ถนน”ขาด!กู้ภัยทำงานยาก
อย่างไรก็ตาม การเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถนนหลายสายที่มุ่งหน้าสู่บางพื้นที่ เช่น เขตกอร์ชา ถูกดินถล่มทับทำให้เป็นอุปสรรคต่อการกู้ภัย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าไปตามเส้นทางบนภูเขาเพื่อเข้าถึงหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล โดยทางการสามารถกู้กระแสไฟฟ้าตามสถานที่ราชการ รวมถึงสนามบินและโรงพยาบาลต่างๆแล้ว แต่สายไฟฟ้าและเสาไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ของประเทศยังคงเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นฟูได้ในขณะนี้
ด้านสำนักงานสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประจำเนปาล แถลงการณ์ว่า ยูเอ็นพร้อมให้ความช่วยเหลือรัฐบาลเนปาล โดยประมาณการณ์ว่ามีประชาชน 6.6 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหว โดยเจ้าหน้าที่ของยูเอ็นเดินทางถึงกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัยแล้ว เช่นเดียวกับสหรัฐฯ และประเทศในสหภาพยุโรป หรืออียู ต่างให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือเนปาลอย่างเต็มที่
ไทยส่งเงิน-หมอ-ข้าว500ตันช่วย
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า นักเรียนไทยที่รวมตัวกันที่สถานทูตไทยในเนปาลราว 30 คน ทุกคนปลอดภัย ส่วนแรงงานไทยที่ทำงานในเมืองกาฐมาณฑุราว 100 คน ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ขณะเดียวกันจะส่งเงินบริจาคจากทางรัฐบาลและสิ่งของอุปโภค บริโภค อาทิ ข้าวสาร 300-500 ตัน รวมถึงทีมแพทย์ฉุกเฉินเข้าไปช่วยเหลือ
ขณะที่ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สธ.เตรียมช่วยเหลือเบื้องต้น 2 เรื่อง คือ 1.จัดเตรียมหน่วยแพทย์ครบชุด พร้อมเวชภัณฑ์ ยารักษาโรค โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ วัคซีนป้องกันโรค รวมทั้งชุดทำแผลต่างๆส่งไปช่วยเหลือ โดยทีมชุดแรกมีประมาณ 30 คน พร้อมเดินทางตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน เป็นต้นไป และ 2.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานงานความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายใน และเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
จัดงาน“รวมน้ำใจ”รับบริจาค
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมบริจาคสิ่งของ และปัจจัยเพื่อการดำรงชีพสำหรับผู้ประสบภัยทุกคนในเนปาลได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมจัดส่งไปบรรเทาความเดือดร้อนในนามประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ และสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพจัดงานรวมน้ำใจคนไทยไปเนปาล เพื่อระดมความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ ผ่านสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
“ส่วนการช่วยเหลือคนไทยในเนปาลนั้น ขณะนี้ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือดูแลและติดต่อข้อมูลที่สถานทูตไทยประจำกรุงกาฎมัณฑุแล้ว หากญาติพี่น้องต้องการติดต่อแจ้งขอความช่วยเหลือก็ประสานได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ โทร.094-003-7190-2 และ 085-911-4076 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งติดต่อผ่านสถานทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุได้โดยตรงที่โทร.97714414372 หรือที่คุณจักรพันธ์ เลขาเอกสถานทูตไทย หมายเลข +977 9801069233 โทรสาร +97714371410” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
สั่งพระธรรมทูตตั้งศูนย์ช่วยเหลือ
ขณะที่สมเด็จพระมหามังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ได้มีบัญชาให้สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ประสานงานให้ความช่วยเหลือพระสงฆ์และชาวพุทธ ตลอดจนประชาชนที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อย่างเร่งด่วน และให้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือขึ้นที่วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในเบื้องต้นแล้ว
นอกจากนี้ได้เปิดศูนย์รับบริจาค ณ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ศาลา เฉลิมพระเกียรติ(บริเวณภูเขาทอง) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อีกทั้งประชาชนสามารถโอนเงินผ่านบัญชี “ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเนปาล” เลขที่บัญชี 179-204684-7 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สาขา วงเวียนโอเดียน
การบินไทยยังบินตามปกติ
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทการบินไทยฯได้ทำการบินในเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-กาฐมาณฑุ ตามปกติแล้ว นอกจากนี้ บริษัทการบินไทยฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือในการขนส่งยา เวชภัณฑ์ และสิ่งของเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินต่อไป โดยผู้โดยสารสามารถดูและสอบถามความคืบหน้าของเที่ยวบินได้ที่ www.thaiairways.com หรือ THAI Contact center โทร.02-356-1111
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี