'เนปาล’วิกฤติหนัก
อาฟเตอร์ช็อกซ้ำนับร้อย
ยอดตายพรวดเกือบ4พัน
นานาชาติร่วมยื่นมือช่วย
เมื่อวันที่ 27 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ ที่ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ได้ค้นหาและกู้ภัย โดยได้ดึงร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังต่างๆ ในกรุงกาฐมาณฑุออกมาอีกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 3,700 คนแล้ว ขณะที่ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ 6,525 คน โดยเป็นผู้เสียชีวิตในเนปาลจำนวน 3,617 คน ซึ่งจำนวนนี้ไม่รวมผู้เสียชีวิตจากหิมะถล่มที่เทือกเขาเอเวอร์เรสต์อีก 18 คน ส่วนที่อินเดียมีผู้เสียชีวิต 66 คน ทิเบตมีผู้เสียชีวิต 20 คน และบาดเจ็บอีก 58 คน อย่างไรก็ตามคาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
อาฟเตอร์ช็อกกว่า100ครั้ง
ด้านโฆษกกองทัพบกเนปาลระบุว่ากองทัพได้ส่งทหารจำนวน 1 แสนนายเข้าไปให้ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ของกรุงกาฐมาณฑุระบุว่าได้มีการแจกจ่ายเต๊นท์ และน้ำดื่มให้กับประชาชนในพื้นที่ 10 แห่งทั่วเมืองหลวง แต่แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อคทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ซึ่งนับตั้งแต่ที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก ได้เกิดอ๊าฟเตอร์ช็อคแล้วเกือบ 100 ครั้ง ส่งผลให้การกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก
ขาดแคลนน้ำดื่ม-อาหาร
ทางการเนปาลพยายามควบคุมและแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มและอาหาร รวมถึงอันตรายจากโรคต่างๆ นอกจากนี้ยังต้องเร่งพยายามกู้กระแสไฟฟ้าเนื่อง จากหลายพื้นที่ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้และยังมีการคาดการณ์ว่าจะเกิดฝนตกด้วย ส่วนประชาชนต้องพากันไปยืนเข้าแถวเพื่อรอรับการแจกจ่ายน้ำจากรถบรรทุกน้ำ ร้านค้าต่างขาดแคลนสิ่งของสำหรับขายและประชาชนบางส่วนยังพากันไปหาซื้อยาตามร้านขายยาด้วย ขณะเดียวกันความช่วยเหลือจากนานาประเทศเริ่มหลั่งไหลเข้าไปในเนปาลแล้ว ขณะเดียวกัน ประชาชนหลายร้อยคนพากันหนีออกจากกรุงกาฐมาณฑุ ทำให้ถนนสายต่างๆ ที่มุ่งหน้าออกจากเมืองหลวงเต็มไปด้วยผู้คน เช่นเดียวกับชาวต่างชาติอีกหลายพันคนที่พากันไปรออยู่ที่สนามบินในกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อเดินทางออกจากเนปาล
ค่าฟื้นฟูเกิน5พันล.เหรียญ
ขณะเดียวกัน หน่วยงานให้คำปรึกษาไอเอชเอสในรัฐโคโลราโด้สหรัฐ ระบุว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับใช้บูรณะฟื้นฟูในเนปาลอาจมีมูลค่าสูงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีของเนปาล
เด็กเดือดร้อนเฉียดล้านร้าย
ด้าน โฆษกขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟกล่าวว่า ชาวเนปาลหลายแสนคนต้องนอนในเต๊นท์หรือในพื้นที่โล่งและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์กำลังเฝ้าระวังเชื้อโรคที่มากับน้ำและโรคติดเชื้ออื่นๆ และเท่าที่ทราบในขณะนี้ มีเด็กเกือบ 1 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งจากพ่อแม่หรือคนในครอบครัวเสียชีวิต รวมถึงไร้ที่อยู่อาศัย การขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม ซึ่งสิ่งที่ทางยูนิเซฟกังวลมากที่สุด เนื่องจากขณะนี้น้ำและอาหารกำลังจะหมดลง
“หมอ-กู้ภัย”เร่งลงพื้นที่
ด้าน นางออร์ลา เฟแกน โฆษกหญิงของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ซึ่งกำลังเดินทางไปยังเนปาลกล่าวว่า ขณะนี้มีคณะแพทย์นานาชาติกำลังเดินทางไปยังเนปาล 14 ชุด และคณะค้นหาและกู้ภัยอีก 14-15 ชุด คณะเหล่านี้จะต้องเร่งลงพื้นที่อย่างเร็วที่สุดโดยจะเดินทางไปยังเนปาลด้วยเครื่องบินทหาร เพื่อหาทางสกัดการเกิดโรคระบาดหลังภัยพิบัติ เพราะกำลังมีความวิตกว่าจะเกิดโรคท้องร่วงและโรคหัดระบาด ขณะที่เนปาลเองมีปัญหาขาดแคลนวัคซีน
ขาด“น้ำ-อาหาร-ที่พัก”
ขณะที่เฟซบุ๊ก”วัดไทยพุทธคยา ๙๓๕ งานเผยแผ่พระธรรมทูตอินเดีย-เนปาล”ได้รายงานสถานการณ์หลังเกิดแผ่นดินไหว หลายข้อ สรุปได้ว่า ทุกอย่างยังวุ่นวาย การสื่อสารของรัฐบาลไม่เป็นมืออาชีพ ขาดแคลนเรื่องอาหารการกิน พอมีรถมาแจกก็แย่งกันจนมีการเหยียบกันเจ็บสาหัสหลายราย ระบบการขนส่งหลายหมู่บ้านถนนตัดขาด น้ำประปาสกปรก ต้องปล่อยทิ้งไว้ให้ตกตะกอนก่อนดื่ม ขาดแคลนที่นอนและชุดชั้นใน ไม่มียากันยุง ไม่มีผ้าห่ม ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงมาก
ในหลวง-ราชินีทรงเสียพระทัย
วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล กรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 ความว่า ฯพณฯ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล กรุงกาฐมาณฑุ ข้าพเจ้าและพระราชินีเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ได้รับข่าวเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งยังก่อความเสียหายต่อมรดกทางวัฒนธรรมและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศของท่าน ข้าพเจ้าและพระราชินีขอแสดงความเสียใจด้วยใจจริงมายังท่านและผู้ประสบความสูญเสียจากภัยพิบัติธรรมชาติครั้งนี้
คนไทยชุดแรกกลับบ้าน
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กลุ่มคนไทยที่ไปประชุมที่เนปาล จะเดินทางกลับมาเป็นกลุ่มแรก ด้วยสายการบินไทย 2 เที่ยวบินคือ TG 3209 เวลา 18.30 น.จำนวน 11 คน ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ล่าช้า และเที่ยวบินที่ TG320 ถึงไทยเวลา 19.45 น. จำนวน 13 คน ทั้งนี้ ยังมีคนไทยที่พำนักอยู่ในสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ 50 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มข้าราชการและครอบครัว 20คนและกลุ่ม คนไทยที่อยู่อาศัยในกรุงกาฐมาณฑุ 30 คนซึ่งทุกคนปลอดภัยดี และแจ้งความประสงค์ยังไม่กลับประเทศ
เปิดสายด่วนช่วยคนไทย
สำหรับคนไทยที่ต้องการที่พักชั่วคราว สามารถติดต่อเพื่อเข้าพักได้ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตได้ และสถานเอกอัครราชทูตฯ ยังเปิดสาย Hotline หมายเลข +977 980 106 9233 และ +977 984 124 2094 ส่วนกรมคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล ก็ได้เปิดสาย Hotline ได้แก่ 085-9114076,0854-0037190-2 ระหว่างเวลา 08.00-22.00 น.
รบ.-เอกชนเปิดรับบริจาค
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า ทางสำนักปลัดสำนักนายกฯได้เปิดบัญชีชื่อ “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6 นอกจากนี้ทางภาคเอกชน เช่น เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขายังให้ความร่วมมือรับบริจาค เพื่อส่งต่อมายังรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ จะมีการสรุปยอดเงินช่วยเหลือทุกวันในเวลา 17.00 น. ทั้งนี้ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จะเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมสิ่งของและเงินบริจาค ขณะที่ส่วนภูมิภาคจะให้ศูนย์ดำรงธรรมเป็นผู้ดำเนินการ
ไทยมอบเงินช่วยแล้ว6ล.
นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องว่า ขณะนี้รัฐบาลไทยได้มอบเงินช่วยเหลือแก่รัฐบาลเนปาลจำนวน 2 แสนดอลล่าห์สหรัฐฯ หรือ 6 ล้านบาทแล้ว ส่วนการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ นั้น ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของรัฐบาลประเทศเนปาลด้วย โดยเบื้องต้นมีการขอความช่วยเหลือมาแล้ว อาทิ ผ้าห่ม เต๊นท์ ยารักษาโรค ชุดปฐมพยาบาล อาหาร น้ำดื่ม
ส่งแพทย์-ทหารช่างไปเนปาล
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกองทัพบก กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ปรับการส่งกำลังที่จะไปที่เนปาลตามที่รัฐบาลมอบหมาย โดยทีมช่วยเหลือในชุดแรก กองทัพบกจะสนธิกำลังร่วมกับเหล่าทัพและหน่วยงานต่างๆ เตรียมเดินทางใน 28 เมษายน นี้ ประกอบด้วย 1.ชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินจากกรมแพทย์ทหารบก 17 นาย พร้อมเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ และ 2.กองทัพบกจะส่งชุดผลิตน้ำดื่มจากกรมการทหารช่าง 1 ชุด พร้อมอุปกรณ์เข้าช่วยผลิตน้ำสะอาด
ททบ.5จัดรายการพิเศษ
นอกจากนี้ ในวันอังคารที่ 28 เมษายน เวลา 20.20–22.20 น. รัฐบาลจะจัดรายการพิเศษ เพื่อระดมความช่วยเหลือและรับบริจาคเงินไปช่วยผู้ประสบภัยในเนปาล ซึ่งได้มอบหมายให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 รับผิดชอบ ภายใต้ชื่อรายการ “น้ำใจไทย เพื่อผู้ประสบภัยเนปาล” ประชาชนสามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย สาขาโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า บัญชีเลขที่ 038–7-296–32-0 ชื่อบัญชี “น้ำใจไทย เพื่อผู้ประสบภัยเนปาล”
ทอ.สั่งเครื่องบินพร้อม
ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กองทัพอากาศเตรียมอากาศยาน C130 เพื่อใช้ในการรองรับประชาชนที่เดินทางกลับ และได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ ,ทีมแพทย์ และทีมกู้ภัย เพื่อลำเลียงสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำสั่งอนุมัติจากกระทรวงกลาโหม ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)
แรงสะเทือนไม่กระทบไทย
นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี และนายสมบุญ โฆษิตานนท์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม ร่วมกันชี้แจงว่า ในส่วนของผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เนปาลที่จะเกิดขึ้นกับไทยนั้น ไม่สามารถวัดแรงสั่นไหวได้ในช่วงนี้ อนาคตมีความเกี่ยวเนื่องแต่ไม่มาก โดยเกิดจากอาฟเตอร์ช็อคที่จะส่งมาถึงรอยเลื่อนสะกาย ของพม่า และส่งผลมาโดยตรงที่ไทยที่บริเวณรอยเลื่อนแขนงของสะกายคือ รอยเลื่อนแม่ปิง บริเวณจ.แม่ฮ่องสอน รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ บริเวณจ.กาญจนบุรี รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ บริเวณจ.ตาก ซึ่งอีก 6 เดือนจะตรวจสอบอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี