ภาพประกอบข่าว
ผวารันเวย์ยุบ
เนปาลสั่งห้าม
เครื่องบินใหญ่
ลง‘กาฐมาณฑุ’
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม เกี่ยวกับความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ประเทศเนปาล ว่า ทางการเนปาลได้ปิดสนามบินในกรุงกาฐมาณฑุสำหรับเครื่องบินขนาดใหญ่ที่จะส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าประเทศเป็นการชั่วคราว เนื่องจากรันเวย์ได้รับความเสียหาย โดยรันเวย์ของสนามบินถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับเครื่องบินขนาดกลางเท่านั้น ไม่ใช่เครื่องบินทหาร หรือเครื่องบินขนส่งสินค้าขนาดใญ่ ที่กำลังทยอยนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ทั้งอาหาร,เครื่องเวชภัณฑ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยและมนุษยธรรมเข้าไปในเนปาลในขณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่สนามบินรายงานการพบรอยแตกบนรันเวย์และปัญหาอื่นๆ ที่สนามบิน
ชมเนปาลแก้ปัญหาดีขึ้น
ขณะที่เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ(ยูเอ็น) ระบุว่า ปัญหาด้านการส่งกำลังบำรุงกำลังดีขึ้น โดยการส่งความช่วยเหลือค่อยๆ ดีขึ้น และรัฐบาลเนปาลได้แก้ปัญหาเรื่องศุลกากรและอุปสรรคด้านกฏระเบียบทางราชการที่มีต่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หลังจากที่ยูเอ็นร้องเรียนไปก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเนปาลขอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากต่างประเทศที่เดินทางมาให้ความช่วยเหลือในพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวในกรุงกาฐมาณฑุกลับประเทศได้แล้ว
งานกู้ภัยกาฐมาณฑุลุล่วง
นายมิเนนทรา ริจัล รัฐมนตรีข่าวสารของเนปาล กล่าวว่า ในขณะนี้งานค้นหาและกู้ภัยหลักๆ ในกรุงกาฐมาณฑุและบริเวณใกล้เคียงได้เสร็จสิ้นลงแล้วและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสามารถรับหน้าที่ในปฏิบัติการที่เหลือได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีงานกู้ภัยในหมู่บ้านและแถบภูเขาในพื้นที่ห่างไกล อาสาสมัครช่วยเหลือกู้ภัยชาวต่างชาติสามารถไปทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่กู้ภัยของกองทัพบกในพื้นที่เหล่านั้นได้
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัย 4,050 คน จาก 34 ประเทศได้เดินทางมายังเนปาลเพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัย จัดหาบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินและแจกจ่ายอาหารและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ
ปัญหาหลักคือสนามบินเล็ก
ด้านเจ้าหน้าที่ของกลุ่มอ๊อกแฟมของอังกฤษระบุว่าปัญหาหลักของเนปาลก็คือสนามบินในกรุงกาฐมาณฑุเล็กเกินกว่าที่จะรับมือกับการจราจรขนาดใหญ่ได้ จึงทำให้เกิดความล่าช้า ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายในเรื่องของการเคลื่อนย้ายสินค้าจำนวนมหาศาลมากกว่าด้านศุลกากร
จำเป็นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์
นอกจากนี้ ปัญหาด้านภูมิศาสตร์ของเนปาลซึ่งตั้งอยู่ในแถบเทือกเขาสูงและมีเครือข่ายทางถนนที่ยุ่งยากก็เป็นสิ่งที่ท้าทายในการนำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปช่วยเหลือประชาชน โดยการใช้เฮลิคอปเตอร์ขนส่งก็ถูกจำกัด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมของยูเอ็นยังระบุด้วยว่าขณะนี้เริ่มมีการวิตกกันมากขึ้นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรค และจำเป็นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เพิ่มขึ้นในการเข้าถึงหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลตามแถบเทือกเขา
โอกาสพบผู้รอดชีวิตริบหรี่
ด้าน นายลาซี่ ดากัล เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยของเนปาลบอกว่าความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าล่าสุดพบผู้รอดชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย รวมถึงชายวัย 101 ปี หลังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังมานาน 1 สัปดาห์แล้วก็ตาม โดยผู้รอดชีวิต 3 คนถูกพบในเขตสินธุปัลช็อคทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงกาฐมาณฑุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าอาคารจำนวนมากในเมืองปาทานได้รับความเสียหาย รวมถึงวัดสำคัญหลายแห่ง ขณะที่บ้านเรือนราว 5 หมื่นหลังได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
ยอดตาย7,276ศพ
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 7,276 คนแล้ว โดยในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติเสียชีวิตด้วย 57 คน และสูญหายอีก 109 คน ส่วนจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ 14,021 คน ขณะที่ประชาชนประมาณ 3 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร และอีก 24,000 คนพักอาศัยอยู่ตามเต๊นท์ชั่วคราว โดยบ้านเรือนพังเสียหายไปประมาณ 130,000 หลัง
คนไทยร่วมบริจาค111ล.
วันเดียวกัน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากหลังจากรัฐบาลเปิดให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้แก่พี่น้องชาวเนปาลที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน มียอดเงินบริจาคผ่าน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ชื่อบัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6 นับสิ้นสุดเวลา 16.00 น. ของวันที่ 3 พฤษภาคม ได้รวมทั้งสิ้น 111,887,641.25 บาท นอกจากนี้มีสิ่งของจำเป็นพี่น้องประชาชนนำไปมอบไว้ที่ กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ อีกเป็นจำนวนมาก
ส่งแพทย์ไปช่วยอีก40ชีวิต
ด้าน นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว (วอร์รูม) เนปาล ว่า จะส่งทีมแพทย์ชุดปฏิบัติการของไทยไปช่วยเหลืออีก 2 ชุด ชุดละประมาณ 20 คน รวมเป็น 40 คน คือ 1.ทีมแพทย์ชุดปฏิบัติการที่พาชคาล และ 2.ทีมแพทย์ชุดปฏิบัติการที่ซิปปะกัต ซึ่งทั้งสองทีมจะมีอาจารย์จากคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล ตัวแทนจากกรมสุขภาพจิต และกรมควบคุมโรคร่วมด้วย เพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม สุขภาพจิต และโรคติดต่อในเชิงรุก โดยทั้งหมดจะเดินทางในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี