สหรัฐร้องอาเซียนช่วยผู้อพยพทางเรือ
ถูกพวกค้ามนุษย์ทิ้งกลางทะเล
ขึ้นฝั่งอินโดเพิ่มอีก 700 คน
วอชิงตัน/จาการ์ตา/ย่างกุ้ง (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมมือกันในการช่วยชีวิตผู้อพยพหลายร้อยคนที่ถูกทิ้งโดยขบวนการลักลอบขนย้ายผู้ลี้ภัยไว้ในเรือสภาพใกล้พังที่ลอยลำอยู่ในทะเลอันดามัน ขณะที่ผู้อพยพชาวโรฮีนจาอีกราว 700 คน ขึ้นฝั่งอินโดนีเซีย
นายเจฟฟ์ รัธเก โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์กรณีผู้อพยพชาวมุสลิมโรฮีนจาและชาวบังกลาเทศ ที่ถูกทิ้งโดยขบวนการลักลอบขนย้ายผู้ลี้ภัยไว้ในเรือสภาพใกล้พังที่ลอยลำอยู่ในทะเลอันดามัน ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และขอเรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคร่วมมือกันในการช่วยชีวิตผู้อพยพเหล่านี้ เอกอัครราชทูตของสหรัฐประจำประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังประสานงานกับหน่วยงานของสหประชาชาติและกับรัฐบาลของประเทศในภูมิภาคที่ไม่ยอมรับดูแลผู้อพยพเหล่านี้เพื่อเจรจาหาทางให้ความช่วยเหลือ นายรัธเกกล่าวว่า มีหลายชีวิตที่กำลังอยู่ในอันตราย ดังนั้นสิ่งที่สหรัฐคิดว่ามีความจำเป็นเป็นอันดับแรกคือต้องช่วยชีวิตก่อน และขอให้รัฐบาลของประเทศในภูมิภาคนี้ยังคงอำนวยความสะดวกผู้อพยพที่ยังอยู่ในทะเล
นายรัธเกกล่าวเน้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความท้าทายเร่งด่วนของภูมิภาคและจำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ไขโดยการประสานงานในระดับนานาชาติ และดำเนินการตามอนุสัญญาระหว่างประเทศและกฎหมายทางทะเล รัฐบาลสหรัฐยินดีที่บางประเทศในภูมิภาคยอมรับดูแลผู้อพยพและยินดีที่ประเทศไทยวางแผนจัดการประชุมระดับภูมิภาคเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ในขณะเดียวกันเขาก็ขอให้เมียนมาดำเนินการตามที่ให้คำมั่นไว้ว่าจะปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นเขตที่มีชาวโรฮีนจาอาศัยอยู่ราว 1.3 ล้านคน
อย่างไรก็ดี มีรายงานจากนายซอ เท ผู้อำนวยการประจำสำนักประธานาธิบดีเมียนมา ซึ่งเปิดเผยว่า เมียนมาคงจะไม่เข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาคที่ไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนนี้ ซึ่งมีเป้าหมายในการแก้ไขวิกฤตการณ์ผู้อพยพในอ่าวเบงกอล โดยอ้างว่า เมียนมาไม่ยอมรับหากประเทศไทยเชิญเมียนมาเพื่อลดแรงกดดันที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ เขากล่าวด้วยว่า ต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีการค้ามนุษย์เพิ่มมากขึ้น และปัญหาเรื่องหลุมศพของผู้อพยพก็ไม่ใช่ปัญหาของเมียนมา แต่เป็นผลเนื่องมาจากความอ่อนแอในการป้องกันการค้ามนุษย์และการรักษากฎหมายของไทยเอง ทั้งนี้ รัฐบาลไทยจะจัดการประชุมระดับภูมิภาคในวันที่ 29 พฤษภาคม ที่กรุงเทพฯ เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่ต้นตอเรื่องผู้อพยพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮีนจา ที่อยู่ทางตะวันตกของเมียนมา โดยเมียนมาไม่ยอมรับโรฮีนจาว่าเป็นชนกลุ่มน้อยของตน
ขณะที่ล่าสุด ตำรวจอินโดนีเซียกล่าวว่า ผู้อพยพชาวโรฮีนจาและชาวบังกลาเทศราว 700 คน เดินทางมาขึ้นฝั่งเมืองลังซาของอินโดนีเซีย ภายหลังได้รับความช่วยเหลือจากเรือประมงขณะที่เรือผู้อพยพใกล้จมอยู่ทางชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์ ผู้อพยพกล่าวว่า กองทัพเรือมาเลเซียผลักดันเรือพวกเขาออกสู่ทะเลเข้ามายังเขตน่านน้ำอินโดนีเซีย แต่ภายหลังจากเข้าเขตน่านน้ำอินโดนีเซีย เรือเกิดเสียแต่กลุ่มชาวประมงท้องถิ่นมาพบจึงช่วยลากเข้าฝั่ง อย่างไรก็ตาม กองทัพเรืออินโดนีเซียแถลงไม่ให้ผู้อพยพหลายร้อยคนขึ้นฝั่งและไม่อนุญาตให้เข้าประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี