ผู้นำตุรกีเตือนรัสเซีย “อย่าเล่นกับไฟ” จากกรณีพิพาทยิงเครื่องบินรบ ระบุไม่ใช่ข้ออ้างที่จะกล่าวหาตุรกี ขณะที่รัสเซียประกาศยกเลิกข้อตกลงเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่าของชาวตุรกี 1 ม.ค.ปีหน้า และเตรียมใช้มาตรการคุมเข้มนำเข้าอาหารจากตุรกีตอบโต้กรณีถูกยิงเครื่องบินรบ พร้อมจัดหนักระบบขีปนาวุธล้ำสมัยป้องกันเครื่องบินรบระหว่างปฏิบัติการในซีเรีย
ประธานาธิบดีเรเจ๊พ ทายยิป เออร์โดอัน ผู้นำตุรกี เตือนรัสเซียว่าอย่าเล่นกับไฟ ในกรณีพิพาทยิงเครื่องบินรบรัสเซียตกเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากทั่วโลกยอมรับว่า ตุรกีมีสิทธิ์ในเหตุการณ์นี้ เพราะฉะนั้น มันจะเป็นการเล่นกับไฟที่จะใช้เหตุการณ์นี้เป็นข้ออ้างมากล่าวหาตุรกี และปฏิบัติไม่ดีต่อประชาชนตุรกีที่เดินทางไปยังรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมในกิจการการค้า
และกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาไม่ต้องการทำลายความสัมพันธ์กับรัสเซียและยังบอกด้วยว่า ต้องการหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียแบบตัวต่อตัว ในที่ประชุมสภาพภูมิอากาศโลก ในกรุงปารีส ฝรั่งเศสในสัปดาห์หน้า เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เนื่องจากตุรกีไม่ต้องการให้เรื่องลุกลามบานปลายออกไปซึ่งจะทำลายความสัมพันธ์กับรัสเซีย แต่ประธานาธิบดีปูตินยืนยันว่า ต้องการคำขอโทษจากตุรกีก่อนที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีเออร์โดอัน เขาบอกว่ารัสเซียยังไม่ได้ยินคำขอโทษจากปากของผู้นำตุรกี อีกทั้งยังไม่ได้ยินข้อเสนอชดเชยความเสียหาย หรือแสดงความรับผิดชอบสำหรับการก่ออาชญากรรมดังกล่าว
นอกจากนี้ นายเออร์โดอัน ยังกล่าวเตือนท่ามกลางวิกฤตทางการทูต ซึ่งมีสาเหตุมาจากการยิงเครื่องบินรบรัสเซียว่า ตุรกีจะเปิดฉากยิงเครื่องบินต่างชาติ ที่ละเมิดน่านฟ้าตุรกีอีกในอนาคต โดยหากมีการละเมิดพรมแดนทางอากาศของตุรกีเกิดขึ้น ตุรกีก็จะตอบโต้ด้วยวิธีการเดียวกัน
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอดีตคู่ปรปักษ์ในช่วงสงครามเย็น ตกลงสู่จุดต่ำสุด หลังจากตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียตกใกล้พรมแดนซีเรีย พื้นที่ที่รัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ และเป็นพื้นที่ที่กบฏชาวเติร์กในซีเรียกำลังต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลซีเรีย
ด้านนายยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยของประธานาธิบดีปูติน กล่าวว่า ประธานาธิบดีปูตินปฏิเสธที่จะติดต่อกับประธานาธิบดีเออร์โดอัน เพราะตุรกีไม่ต้องการขอโทษ กรณียิงเครื่องบินรบรัสเซียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการปะทะกันครั้งเลวร้ายที่สุดระหว่างสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) และรัสเซีย อีกทั้งยังทำให้ความพยายามของนานาชาติในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส ยุ่งยากมากขึ้น
ขณะเดียวกัน นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ประกาศเพิ่มมาตรการดูแลคุ้มครองความปลอดภัยเครื่องบินรบที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยเรือรบมอสควา ซึ่งลอยลำอยู่ใกล้ชายฝั่งซีเรียพร้อมระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศจะทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้เครื่องบินรบรัสเซีย รวมถึงยังมีการติดตั้งระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศเอส-400 ยังฐานทัพรัสเซียในซีเรียด้วย เพื่อช่วยปกป้องเครื่องบินรบรัสเซีย ระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย
นอกจากนี้ รัสเซียยังเตรียมระงับให้สิทธิ์พลเมืองตุรกี ในการเดินทางเข้ารัสเซียโดยไม่ต้องขอวีซ่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2016 เป็นต้นไป โดยระบุว่าตุรกีได้กระทำการล้ำเส้นเกินขอบเขตที่ยอมรับได้ ซึ่งจะทำให้ตุรกีต้องเสียผลประโยชน์ของตนเอง นอกจากนี้ รัสเซียกำลังเตรียมร่างมาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจต่อตุรกีหลายประการ เช่นการจำกัดสินค้านำเข้าจำพวกอาหาร หลังพบว่าผลิตภัณฑ์อาหารนำเข้าจากตุรกี ที่ไม่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของรัสเซียอยู่ราว 15 % และจะเพิ่มมาตรการควบคุมการนำเข้าให้เข้มงวดขึ้น และว่ามะเขือเทศตุรกีที่ขายในรัสเซียแต่ละลูก ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของตุรกี ทำให้มีเงินซื้อจรวดไว้ยิงเครื่องบินรบรัสเซียได้
คาดว่ามาตรการตอบโต้ของรัสเซียครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของตุรกี โดยเฉพาะในปีนี้ ตุรกีมีรายได้จากการส่งออกอาหารและผลิตผลทางการเกษตรไปยังรัสเซียกว่า 1,000 ล้านยูโร หรือราว 38,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รัสเซียบอกว่าแม้ 20% ของผักที่บริโภคในรัสเซียจะนำเข้ามาจากตุรกี แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่สามารถส่งออกพืชผักให้รัสเซียได้ เช่น อิหร่าน อิสราเอล โมร็อกโก จีน อาเซอร์ไบจาน แอฟริกาใต้ และอาร์เจนตินา
ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่อเมริกัน 2 คนที่ขอสงวนนามออกมาระบุว่า รัสเซียไม่ได้ให้แผนการบินของเครื่องบินลำที่ถูกตุรกียิงตกแก่สหรัฐตามที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียอ้างกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สหรัฐไม่เคยได้รับทราบข้อมูลเรื่องเวลาและสถานที่ที่เครื่องบินรัสเซียจะออกปฏิบัติการในซีเรีย ก่อนที่เครื่องบินรัสเซียจะถูกกองทัพอากาศตุรกียิงตกเมื่อวันอังคารตามเวลาและสถานที่ดังกล่าว ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐยังไม่แสดงความเห็นต่อคำกล่าวของปูติน แต่ที่ผ่านมาเคยยอมรับว่ารัสเซียได้แจ้งข้อมูลเบื้องต้นแก่กองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐก่อนออกปฏิบัติการในซีเรียเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะโดยไม่เจตนาเนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย
ทั้งนี้ ตุรกียืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะยิงเครื่องบินรัสเซียแต่ทำไปเพราะเครื่องบินลำนี้ล่วงล้ำน่านฟ้า ประธานาธิบดีแอร์โดอันของตุรกีกล่าวว่า ทหารทำไปตามที่ได้รับคำสั่งให้ตอบโต้โดยอัตโนมัติหากมีการล่วงล้ำน่านฟ้า ขณะที่รัสเซียยืนยันว่าเครื่องบินไม่ได้ออกจากน่านฟ้าซีเรียแม้แต่น้อย
ขณะที่กลุ่มต่อต้านสงครามจะจัดการชุมนุมใหญ่ที่กรุงลอนดอนในวันเสาร์ คาดว่าจะมีคนร่วมเดินขบวนไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรีบนถนนดาวนิงในกรุงลอนดอนหลายพันคน นอกจากนั้นยังใช้เฟซบุ๊กชักชวนผู้คนจัดการชุมนุมใหญ่ตามเมืองต่าง ๆ พร้อมกันในวันเดียวกัน เพื่อต่อต้านไม่ให้เหตุรุนแรงที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมลุกลามไปเรื่อยๆ ขณะที่นักเคลื่อนไหวในสเปนก็เรียกร้องให้ผู้รักสันติภาพออกมารวมตัวในวันเสาร์นี้เช่นกัน มีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 28,000 คนว่าจะชุมนุมในกรุงมาดริด นครบาร์เซโลนา เมืองบาเลนเซีย และอีกหลายเมืองใหญ่ เพราะยังไม่ลืมเหตุคนร้ายระเบิดขบวนรถไฟ 4 ขบวนในกรุงมาดริดเมื่อปี 2547 คร่าชีวิตคนไปมากถึง 191 คน แก้แค้นที่นายโฮเซ มาเรีย อัซนาร์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเข้าร่วมสงครามบุกอิรักนำโดยสหรัฐ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ โอลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวในการประชุมสุดยอดเครือจักรภพที่มอลตาหลังสร็จสิ้นพิธีไว้อาลัยผู้เสียชีวิต 130 คนที่กรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ ขอให้ ส.ส.อังกฤษลงมติสนับสนุนตามที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษเสนอต่อรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดีเรื่องปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อไอเอสในซีเรีย คาดว่าจะมีการลงมติในสัปดาห์หน้า แต่ ส.ส.อังกฤษหลายคนเกรงจะซ้ำรอยเมื่อครั้งนายโทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นนำอังกฤษเข้าร่วมสงครามอิรักและอัฟกานิสถานที่นำโดยสหรัฐและถูกประชาชนต่อต้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี