อิเสะชิมะ (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) -ผู้นำกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี7) เห็นพ้องกันเรื่องความท้าทายที่มีต่อเศรษฐกิจและสถานการณ์ความมั่นคงของโลก โดยชูให้การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกเป็นเรื่องเร่งด่วนสำคัญ ด้านบารัค โอบามา จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้นำสหรัฐคนแรกที่ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่เดินทางไปเยือนนครฮิโรชิมา ซึ่งเป็นเมืองแห่งแรกของโลกที่โดนโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์
ผู้นำจี7 ออกแถลงการณ์ร่วมปิดการประชุม 2 วันที่เมืองอิเสะชิมะ จังหวัดมิเอะของญี่ปุ่นวันที่ 27 พ.ค. ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกเป็นเรื่องเร่งด่วนสำคัญ จี7 จะร่วมกันรับมือกับความเสี่ยงหลักที่มีต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงภัยคุกคามระเบียบโลกจากเหตุก่อการร้ายและแนวคิดสุดโต่ง จะกระชับมาตรการรับมือทางเศรษฐกิจที่ประสานกัน จะใช้นโยบายที่ทั้งทรงพลังและสมดุลให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดรูปแบบการเติบโตที่แข็งแกร่ง ยั่งยืนและสมดุลโดยทันที ขอเรียกร้องให้ตลาดระหว่างประเทศเปิดกว้างและต่อต้านการใช้นโยบายปกป้องทางการค้าทุกรูปแบบ ขณะที่จี7 เองจะหลีกเลี่ยงการแข่งขันกันลดค่าเงิน และเตือนว่าหากอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปจะทำให้แนวโน้มการค้า การลงทุนและการจ้างงานของโลกที่เพิ่มขึ้นพลิกไปทางตรงกันข้าม
แถลงการณ์ปิดการประชุมผู้นำจี7 ได้กล่าวถึงวิกฤตคนเข้าเมืองในยุโรปว่า เป็นความท้าทายของโลกที่ต้องมีมาตรการรับมือระดับโลกด้วยความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินสากลและประเทศผู้บริจาค พร้อมกับแสดงความกังวลเรื่องสถานการณ์ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ที่เกิดข้อพิพาทจนนำมาซึ่งความตึงเครียดในช่วงหลายปีมานี้
นอกจากนี้ บรรดาผู้นำจี-7 ได้ออกแผนปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายอีกด้วย ซึ่งในระหว่างร่วมรับประทานอาหารค่ำ บรรดาผู้นำได้หารือถึงวิธีต่างๆ ที่จะตอบโต้กลุ่มก่อการร้าย รวมถึงการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม ไม่ให้ถูกทำลายด้วยน้ำมือของกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมาตรการนี้เป็นหนึ่งในหลายวิธีที่จะช่วยหยุดการระดมทุนเพื่อปฏิบัติการก่อการร้ายของกลุ่มหัวรุนแรง
ด้าน ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้นำสหรัฐคนแรกที่ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่เดินทางไปเยือนนครฮิโรชิมาซึ่งเป็นเมืองแห่งแรกของโลกที่โดนโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 140,000 คน โดยมีผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณูไม่น้อยกว่า 3 คน เข้าร่วมงานที่สวนอนุสรณ์สันติภาพ รัฐบาลสหรัฐและญี่ปุ่นต่างคาดหวังว่าการเยือนในครั้งนี้ จะช่วยเน้นย้ำถึงการเสริมสร้างความปรองดองในระดับใหม่และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เคยเป็นศตรูกันในอดีต รวมถึงแสดงให้เห็นถึงนโยบายของผู้นำสหรัฐเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยเขาได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพเมื่อปี 2552 จากการปราศรัยครั้งสำคัญที่กรุงปราก ของสาธารณรัฐเช็กที่เรียกร้องให้ทำลายอาวุธนิวเคลียร์ โอบามา กล่าวก่อนหน้านี้ว่าเขาจะแสดงความไว้อาลัยและรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่จะไม่กล่าวขอโทษที่สหรัฐทิ้งระเบิดเมืองฮิโรชิมา
ขณะที่สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือเผยแพร่บทความแสดงความเห็นว่า การที่โอบามาตัดสินใจเป็นผู้นำสหรัฐที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนแรกที่ไปเยือนเมืองฮิโรชิมาเป็นการเสแสร้งอย่างน่าทึ่ง และเป็นการคำนวณทางการเมืองแบบเด็ก ๆ เพราะเขาจะไม่สามารถปกปิดตัวตนในฐานะผู้คลั่งสงครามนิวเคลียร์และผู้แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ต่อให้ไปเยือนเมืองที่เสียหายแห่งนี้ก็ตาม เคซีเอ็นเอยังได้ตั้งข้อสงสัยถึงวัตถุประสงค์ของญี่ปุ่นที่จัดแจงให้โอบามาไปเยือนฮิโรชิมาว่า ต้องการสร้างกระแสว่าญี่ปุ่นเป็นเหยื่อสงคราม และเบี่ยงเบนความเจ็บปวดที่ญี่ปุ่นได้ก่อไว้กับประเทศอื่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี