ถล่มสนามบินตุรกี41ศพ
ยอดบาดเจ็บพุ่ง239ราย
นานาชาติแห่รุมประณาม
เตือนพลเมืองหลีกเลี่ยง
กต.ชี้ไม่กระทบคนไทย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ว่า เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกโจมตีท่าอากาศยานนานาชาติอตาเติร์ก ในนครอิสตันบูลของตุรกี เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยคนร้ายพยายามเดินผ่านเครื่องเอกซเรย์บริเวณจุดทางเข้าอาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสกัดเอาไว้ได้ คนร้ายจึงใช้อาวุธสงคราม AK-47 กราดยิง เมื่อตำรวจยิงต่อสู้ คนร้าย 2 คนแรกจึงจุดชนวนระเบิดบริเวณทางเข้าอาคารผู้โดยสาร ส่วนคนร้ายคนที่ 3 ได้จุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายบริเวณลานจอดรถ
หลังเกิดเหตุนายกรัฐมนตรี บินาลี อิลดิริมของตุรกีเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า เหตุระเบิดโจมตีสนามบินดังกล่าวอาจเป็นฝีมือของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แต่ยังต้องไต่สวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป สำหรับเหตุโจมตีสนามบินตุรกีครั้งนี้คล้ายกับเหตุกลุ่มไอเอสโจมตีสนามบินกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นคนร้ายโจมตีทั้งสนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 30 คน
ขณะเจ้าหน้าที่ตุรกีเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ว่า เพิ่มขึ้นเป็น 41 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวตุรกี มีชาวต่างชาติ 10 คน และคน 2 สัญชาติ 3 คน ประกอบด้วย จีน จอร์แดน ตูนิเซีย อิรัก 2 คน ซาอุดิอาระเบีย 5 คน ที่เหลือเป็นชาวอุซเบกิสถาน อิหร่าน ยูเครน อย่างละ 1 คน ส่วนยอดผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเป็น 239 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เริ่มซ่อมแซมพื้นที่ที่เสียหายในสนามบินแล้ว และสนามบินกลับมาเปิดให้บริการบางส่วนตั้งแต่ช่วงเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ผู้โดยสารขาออกได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสนามบินได้หลังตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียด แต่พื้นที่อาคารขาเข้าระหว่างประเทศยังคงปิดทำการ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินตรึงกำลังด้านนอกอาคารผู้โดยสาร
ขณะที่เที่ยวบิน 1 ใน 3 เที่ยวของสนามบินแห่งนี้ต้องยกเลิกการเดินทาง ที่เหลือประสบปัญหาเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด นอกจากนั้น ผู้โดยสารจากสนามบินอื่นก็ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีครั้งนี้ด้วย เช่น ผู้โดยสารสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส ที่มีกำหนดเดินทางจากสนามบินเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ไปตุรกี ช่วงเช้าวันพุธต้องติดอยู่ในสนามบิน เนื่องจากสนามบินอะตาเติร์กต้องระงับทุกเที่ยวบินชั่วคราว เช่นเดียวกับเที่ยวบินต่างๆที่มีกำหนดเดินทางไปเยอรมนี ก็ต้องยกเลิกชั่วคราว
ด้านสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์สแถลงว่า ผู้โดยสารที่จองตั๋วเครื่องบินไปหรือกลับจากสนามบินอะตาเติร์ก ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน-5 กรกฎาคม สามารถเปลี่ยนเที่ยวบินหรือรับเงินคืนได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
หลังเกิดเหตุนานาชาติออกมาประณามเหตุกราดยิงและระเบิดพลีชีพครั้งนี้อย่างรุนแรง โดยนายโจช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า สหรัฐฯพร้อมสนับสนุนตุรกี ในการต่อสู้ภัยคุกคามจากลัทธิก่อการร้าย ส่วนนายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูล แห่งออสเตรเลียยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุโจมตีตุรกี ขณะหาเสียงเลือกตั้ง นายเทิร์นบูลระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวย้ำเตือนว่า กลุ่มก่อการร้ายอิสลามหวังทำลายและสร้างความแตกแยกต่อคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นชาวคริสต์หรือมุสลิม ดังนั้น ขอให้ชาวออสเตรเลียสามัคคีกัน รวมถึงนายโคอิชิ ฮางิอุดะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นก็ออกมาแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับรัฐบาลตุรกี
ขณะเดียวกัน หลายประเทศปรับปรุงคำเตือนเรื่องการเดินทางไปตุรกี โดยสหรัฐออกคำเตือนการเดินทางไปยังตุรกีครั้งใหม่ เนื่องจากพลเรือนอเมริกันตกเป็นเป้าคุกคามของกลุ่มก่อการร้ายมากขึ้น และขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ส่วนสหราชอาณาจักรเตือนพลเรือนว่าภัยคุกคามก่อการร้ายตุรกียังอยู่ในระดับสูง ด้านออสเตรเลียออกคำเตือนภัยก่อการร้ายระดับ 2 ในกรุงอังการ่าและนครอิสตันบูล ส่วนจีนเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางเยือนตุรกี
สำหรับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอังการา ประเทศตุรกี เปิดเผยถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า สถานเอกอัครราชทูตได้ตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าคนไทยได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีคนไทยประสบเหตุฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานทูตได้ที่หมายเลข 90-533-641-56989 ตลอด 24ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี