วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
WHO แจงข่าวล่าสุดไวรัสซิกา

WHO แจงข่าวล่าสุดไวรัสซิกา

วันอาทิตย์ ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : WHO แจงข่าวล่าสุดไวรัสซิกา
  •  

รอยเตอร์ - องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่าไวรัสซิกาซึ่งมียุงเป็นพาหะ และมีความเชื่อมโยงกับภาวะศีรษะลีบและสมองฝ่อในเด็กทารกเกิดใหม่ ไม่เป็น “ภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก” อีกต่อไป ทว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงน่าเป็นห่วง ขณะที่บราซิลซึ่งพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดยังปฏิเสธที่จะลดระดับการเฝ้าระวัง

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาตำหนิ WHO ที่เพิกถอนคำเตือนเร็วเกินไป


“ไวรัสซิกายังเป็นปัญหาใหญ่ที่จะต้องแก้กันในระยะยาว ทว่าไม่ใช่ภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลกอีกต่อไป” เดวิด เฮย์มานน์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO แถลง

แม้ว่าไวรัสชนิดนี้จะแสดงอาการเพียงเล็กน้อยในผู้ใหญ่ แต่การติดเชื้อขณะตั้งครรภ์อาจส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีศีรษะเล็ก (microcephaly) และสมองพิการ ไวรัสซิกายังก่อให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาทที่เรียกว่ากลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain-Barre Syndrome - GBS) ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาต และถึงแก่ความตายได้ ผู้ติดเชื้อนี้ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการและหายเองได้ มีเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่อาจแสดงอาการได้ และมักแสดงอาการภายหลังได้รับเชื้อนี้ 4-7 วัน อาการแสดงทั่วไป ได้แก่ ไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ผื่นแดง เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง ปวดข้อ ซึ่งมักมีอาการเหล่านี้อยู่ประมาณ 2-7 วัน ส่วนใหญ่อาการเหล่านี้จะหายเองได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ไม่มีความจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล แต่ในหญิงตั้งครรภ์จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากการติดเชื้อนี้อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ทำให้มีความเสี่ยงต่อการพิการแต่กำเนิด มีขนาดศีรษะที่เล็กผิดปกติ (microcephaly) หรือเสียชีวิตได้ 

สถิติจาก WHO ระบุว่า ไวรัสซิกาซึ่งเริ่มแพร่ระบาดอย่างหนักในช่วงกลางปี 2015 ทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 1.5 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในบราซิล และยังพบทารกไม่ต่ำกว่า 1,600 คน ที่เกิดมาพร้อมภาวะศีรษะเล็ก

นักวิจัยได้ออกมาเตือนในปีนี้ว่ามีประชากรอย่างน้อย 2,600 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของโลก อาศัยอยู่ในบางพื้นที่ของทวีปแอฟริกา เอเชีย และภูมิภาคแปซิฟิก ซึ่งไวรัสซิกาอาจแพร่ระบาดเข้าไปถึง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ก.เกษตรฯถกศูนย์ฯบริการพัฒนาแอปฯพิรุณราช

F-16 เสิร์ฟยามเย็น สวท.ตราด เผย กองทัพไทยทิ้งไข่ พื้นที่บ้านสามหลัง กาสิโน

พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ส.อ.ชวกร เดชขุนทด

เพื่อไทยพร้อมแล้ว! 16 ธ.ค. เปิดแคนดิเดตนายกฯ ชูวิสัยทัศน์ ยกเครื่องประเทศไทย พท.ทำได้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved