ทาลลาฮาสซี (เอพี/รอยเตอร์) - สมาชิกสภารัฐฟลอริดา ของสหรัฐ ผ่านร่างกฎหมายความปลอดภัยในการใช้อาวุธปืน 3 สัปดาห์ หลังเหตุกราดยิงในโรงเรียนเมืองพาร์คแลนด์รัฐฟลอริดา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน
สมาชิกสภารัฐฟลอริดาของสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง 67 ต่อ 50 เห็นชอบร่างกฎหมายความปลอดภัยในโรงเรียน โดยเพิ่มอายุบุคคลที่สามารถซื้ออาวุธปืนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายจาก 18 ปี เป็น 21 ปี และกำหนดกรอบเวลาการรอ 3 วัน ในการซื้อและจำหน่ายอาวุธปืนทุกชนิด เพื่อให้มีการตรวจสอบประวัติผู้ซื้ออย่างละเอียด และยังครอบคลุมโครงการที่ให้ครูและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนพกปืนได้ หากได้รับการอบรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ร่างกฎหมายฉบับใหม่ยังห้ามการใช้อุปกรณ์เสริมพ่วงหรือพานท้ายเพื่อให้สามารถยิงปืนได้เร็วขึ้น และห้ามการดัดแปลงปืนกึ่งอัตโนมัติเป็นอาวุธปืนอัตโนมัติ นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับใหม่ยังเห็นชอบให้เพิ่มงบประมาณดูแลผู้ป่วยสุขภาพจิต และเพิ่มอำนาจของเจ้าหน้าที่ในการยึดหรือห้ามใช้อาวุธปืน ในบุคคลที่มีปัญหาสภาพจิตไม่ปกติ
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภารัฐฟลอริดาไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากนี้จะถูกส่งให้ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาลงนามเพื่อรับรองเป็นกฎหมายต่อไป
การผ่านร่างกฎหมายความปลอดภัยอาวุธปืนของสมาชิกสภารัฐฟลอริดาเกิดขึ้น 3 สัปดาห์ หลังนายนิโคลัส ครูซ วัย 19 ปี อดีตนักเรียนโรงเรียนมัธยมมาร์จอรี สโตนแมน ดักลาส เมืองพาร์คแลนด์ รัฐฟลอริดา บุกเข้าไปในโรงเรียนและใช้อาวุธปืนกราดยิงผู้คนเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ สังหารนักเรียนและครูในโรงเรียน เสียชีวิตไป 17 ราย เขาเพิ่งถูกคณะลูกขุนรัฐฟลอริดา ฟ้องร้องเป็นทางการในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพยายามฆ่า นายครูซอาจถูกลงโทษหนักสุด ไม่ประหารชีวิตก็จำคุกตลอดชีวิต โดยไม่มีการภาคทัณฑ์คุมประพฤติ หากถูกพิพากษาว่ากระทำความผิดจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี