กาฐมาณฑุ (เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - เจ้าหน้าที่เนปาลเริ่มการสอบสวนเหตุเครื่องบินสายการบินบังกลาเทศตกขณะพยายามลงจอดที่ท่าอากาศยานกรุงกาฐมาณฑุ ของเนปาล มีผู้เสียชีวิต 49 คน หลังจากกู้กล่องบันทึกข้อมูลการบินได้แล้ว เผยนักบินสับสนจนนำเครื่องลงจอดผิดฝั่งของทางวิ่ง ขณะที่เครื่องบินสั่นอย่างแรงก่อนกระแทกพื้น
เครื่องบินโดยสารแบบบอมบาเดียร์ แดช 8 คิว-400 ของสายการบินยูเอส-บังกลา สายการบินของบังกลาเทศ เที่ยวบินที่ บีเอส 211 พร้อมผู้โดยสาร 67 และลูกเรือ 4 คน เดินทางมาจากกรุงธากาของบังกลาเทศ เสียหลักลื่นไถลออกนอกทางวิ่งขณะนักบินนำเครื่องบินลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวัน เมื่อเวลา 14.20 น. วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เครื่องบินเสียหลักตกกระแทกพื้นหญ้า ด้านนอกทางวิ่งของสนามบินจนเกิดไฟลุกท่วม กลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยสนามบินและตำรวจดับเพลิงเร่งรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อควบคุมเพลิง และพบร่างผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 49 คน มีผู้รอดชีวิต 22 คน ในจำนวนนี้หลายคนอาการสาหัส เป็นโศกนาฏกรรมทางการบินครั้งร้ายแรงที่สุดของเนปาลในรอบหลายปี
สายการบินยูเอส-บังกลา แถลงว่า กัปตันเครื่องบินบอมบาเดียร์แดช 8 ที่ประสบเหตุเมื่อวันจันทร์เคยเป็นนักบินกองทัพอากาศมาก่อน มีชั่วโมงบินกว่า 5,000 ชั่วโมง และได้รับการฝึกเป็นพิเศษสำหรับท่าอากาศยานกาฐมาณฑุซึ่งขึ้นชื่อเรื่องมีอันตรายสูง โดยได้นำเครื่องลงจอดที่ท่าอากาศยานนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 เที่ยว ส่วนที่มีข่าวว่าเครื่องบินลำนี้เคยลื่นไถลออกนอกทางวิ่งขณะบินเส้นทางในประเทศเมื่อปี 2558 นั้น สายการบินปฏิเสธว่าไม่เคยมีอุบัติเหตุใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ผลิตเครื่องบินบอมบาเดียร์ของแคนาดาได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่การบินพลเรือนเนปาลกล่าวถึงเสียงสนทนาทางวิทยุนาน 3 นาที ระหว่างนักบินบังกลาเทศกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศเนปาลว่า ไม่ทราบว่าถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะได้อย่างไร แต่ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เว็บไซต์ศูนย์ประเมินข้อมูลการชนของเครื่องบินโดยสาร (JACDEC) ที่เผยแพร่เสียงสนทนาระบุว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศแจ้งนักบินผู้ช่วยว่า เครื่องบินกำลังมุ่งหน้าไปยังทางวิ่งหมายเลข 20 แต่ทางสนามบินได้เคลียร์ทางวิ่งหมายเลข 02 ไว้ให้แล้ว ต่อมากัปตันได้แจ้งยืนยันว่า กำลังจะนำเครื่องลงที่ทางวิ่งหมายเลข 02 แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรกลับบอกว่าได้เคลียร์ทางวิ่งหมายเลข 20 ไว้ให้แล้ว ในที่สุดเครื่องบินพยายามจะลงที่ทางวิ่งที่กำหนดไว้แต่แรก แต่ตกกระแทกแตกเป็นชิ้นๆ และไฟลุก นักบินทั้งสองคนเสียชีวิตพร้อมกับคนบนเครื่องรวม 49 คน จากทั้งหมด 71 คน
หนึ่งผู้รอดชีวิตที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลบอกว่า เครื่องบินสั่นอย่างรุนแรงและบินสลับขึ้นลงหลายครั้ง ทำให้เข้าใจว่าเกิดจากการสื่อสารระหว่างนักบินกับเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน ผู้รอดชีวิตอีกคนบอกว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังมากด้านนอกเครื่องบิน ขณะที่ผู้โดยสารในเครื่องต่างตื่นตกใจและร้องระงมกันทั้งลำ เมื่อเครื่องบินแฉลบรั้วกั้นทางวิ่งและเสียหลักกระแทกพื้นก็เกิดไฟลุกไหม้ ควันไฟคลุ้งไปทั่วห้องโดยสาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี