ปักกิ่ง (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีจีน ส่งเสียงเตือนไต้หวันจะถูกประวัติศาสตร์ลงโทษ หากพยายามแยกตัวเป็นเอกราช
ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง แถลงปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง โดยผู้นำจีนเตือนไต้หวันว่า จะเผชิญต่อการถูกประวัติศาสตร์ลงโทษ สำหรับความพยายามแยกตัวเป็นเอกราชจากแผ่นดินใหญ่ เพราะไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่ง และเป็นหนึ่งในประเด็นที่อ่อนไหวที่สุดของจีน โดยนายสีกล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลจีน ในการผดุงไว้ซึ่งหลักการจีนเดียว ความพยายามและเล่ห์เหลี่ยมหรือกลยุทธ์ใดก็ตามเพื่อแบ่งจีนทั้งหมดให้แยกออกจากกัน มีแต่จะพบกับความล้มเหลว และจะได้รับการประณามจากประชาชน ซึ่งจะจารึกความเลวร้ายนี้ไว้ในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ผู้นำจีนยังกล่าวถึงการที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนหลายแห่งไปร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคให้กับนานาประเทศ ตามแนวทางของแผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 ว่าไม่ใช่ภัยคุกคามต่อผู้ใด
ทั้งนี้ จีนเป็นปรปักษ์ต่อไต้หวันมากขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าที่ฝักใฝ่การเป็นเอกราช ชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 จีนสงสัยว่า ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ต้องการผลักดันไต้หวันไปสู่การเป็นเอกราชอย่างแท้จริง และถือเป็นการล้ำเส้นเหล่าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในจีน แม้ว่า ประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน อ้างว่า เธอยังคงยึดมั่นต่อสถานภาพปัจจุบัน และยึดมั่นต่อสันติภาพข้ามช่องแคบไต้หวันก็ตาม
กระนั้น ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง บอกว่า จีนจะผลักดันการรวมชาติบนแผ่นดินแม่อย่างสันติและทำงานร่วมกับไต้หวันมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาจีน นอกจากนี้ จีนยังแสดงความไม่พอใจที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงนามในร่างกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสนับสนุนให้อเมริกาส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปไต้หวัน เพื่อพบปะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกรุงไทเป อย่างไรก็ตาม แม้สหรัฐไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน แต่การออกกฎหมายของสหรัฐเพื่อช่วยไต้หวันป้องกันตนเอง และกลายเป็นแหล่งส่งออกอาวุธแห่งสำคัญของสหรัฐ และประธานาธิบดีไช่ อิง เหวิน ผู้นำไต้หวัน ยืนกรานว่ารัฐบาลของเธอไม่มีทางยอมรับหลักการจีนเดียว ขณะที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐซึ่งจะพ้นจากตำแหน่งสิ้นเดือนนี้ กล่าวแสดงความวิตกกังวลต่ออิทธิพลของจีน ในทวีปแอฟริกา
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียงของจีน เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว หลังปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติว่า จีนยังคงเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ เพราะการเปิดกว้างต่อโลกภายนอก จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัว และว่า เศรษฐกิจจีนเป็นส่วนหนึ่งของโลก ดังนั้นหากจีนปิดตัวเอง จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา รวมถึงจีนจะลดภาษีนำเข้าลงไปอีก คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีจีนมีขึ้น ภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กเป็นร้อยละ 25 และอะลูมิเนียมเป็นร้อยละ 10 ทั่วโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี